ปัตตานี – รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พบปะผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อรับทราบการดำเนินงานและการเตรียมการต่างๆ ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 โดยเตรียมการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนก่อนเปิดเทอม
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมมายการ์เด้นส์ ปัตตานี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 2 ได้จัดให้มีการประชุมผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มและหัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในขึ้น เพื่อรับทราบการดำเนินงานและการเตรียมการต่างๆ ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ที่จะถึงนี้ ซึ่งก่อนวาระการประชุมได้เชิญผู้บังคับหน่วยกำลังในพื้นที่มาชี้แจงมาตรการการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียน ได้แก่ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 21,24 และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 200 คน
นายประมุข ลมุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวถึงนโยบายของจังหวัดปัตตานี ในการดูแลรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนว่า จังหวัดได้ให้ความสำคัญกับครูเป็นลำดับแรก ทำอย่างไรที่จะให้ครูอาจารย์ และโรงเรียนได้มีความปลอดภัยสูงสุด จะเน้นที่คนก่อนเป็นลำดับแรก โรงเรียนเป็นลำดับรอง เพราะชีวิตมนุษย์มีคุณค่าและมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะครูอาจารย์ ชีวิตผู้คน ชีวิตพี่น้องประชาชน ก็ต้องให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีการก่อเหตุอยู่เรื่อยๆ แนวทางในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล นอกจากจะใช้ทางด้านยุทธการแล้วก็ยังมีงานด้านการพัฒนา และงานการเมือง จะให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งทำเพียงลำพังคงไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาคู่ขนานกันไป พื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือพื้นที่เสริมสร้างสันติสุข กว่า 217 หมู่บ้านก็จะมีหน่วยทหารเข้าไปทำการพัฒนา และควบคุมพื้นที่ป้องกันการก่อเหตุร้าย
นอกเหนือจากนี้ หมู่บ้านที่เป็นชายทะเล จำนวน 117 หมู่บ้าน ต้องเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งอาชีพประมงและอาชีพเสริม ส่วนพื้นที่ถัดเข้าไปด้านในที่เป็นพื้นที่ยากจนกว่า 300 หมู่บ้าน ก็ต้องมีการพัฒนา ต้องมีการสำรวจทำประชาคมหมู่บ้าน เลือกทำอาชีพเสริมตามความต้องการของชุมชน ให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 65,000บาท/ปี เพิ่มขึ้นเป็นเกินกว่า 120,000บาท/ปี
ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยครู โรงเรียน จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยกำลังกับครูว่าจะดำเนินการอย่างไร จะให้ไปพร้อมกับครูหรือลาดตระเวนเส้นทางก็แล้วแต่จะตกลงกัน การดูแลโรงเรียนจะมีการจ้างลูกจ้างตามโครงการจ้างงานเร่งด่วน เข้ามาช่วยดูแล และให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสานกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นในการเข้ามาช่วยปกป้องดูแลสถานศึกษา ถ้ามีความขัดแย้งกัน ผู้บริหารก็จะต้องเข้าไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังฝากเรื่องปัญหายาเสพติดในโรงเรียน ให้ผู้บริหารโรงเรียนช่วยกันดูแลให้ความรู้แก่ครู นักเรียน และหากนักเรียนมีปัญหาก็ต้องประสานกับผู้ปกครองและชุมชนอย่างใกล้ชิดในการแก้ปัญหาด้วย
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมมายการ์เด้นส์ ปัตตานี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 2 ได้จัดให้มีการประชุมผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มและหัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในขึ้น เพื่อรับทราบการดำเนินงานและการเตรียมการต่างๆ ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ที่จะถึงนี้ ซึ่งก่อนวาระการประชุมได้เชิญผู้บังคับหน่วยกำลังในพื้นที่มาชี้แจงมาตรการการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียน ได้แก่ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 21,24 และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 200 คน
นายประมุข ลมุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวถึงนโยบายของจังหวัดปัตตานี ในการดูแลรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนว่า จังหวัดได้ให้ความสำคัญกับครูเป็นลำดับแรก ทำอย่างไรที่จะให้ครูอาจารย์ และโรงเรียนได้มีความปลอดภัยสูงสุด จะเน้นที่คนก่อนเป็นลำดับแรก โรงเรียนเป็นลำดับรอง เพราะชีวิตมนุษย์มีคุณค่าและมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะครูอาจารย์ ชีวิตผู้คน ชีวิตพี่น้องประชาชน ก็ต้องให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีการก่อเหตุอยู่เรื่อยๆ แนวทางในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล นอกจากจะใช้ทางด้านยุทธการแล้วก็ยังมีงานด้านการพัฒนา และงานการเมือง จะให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งทำเพียงลำพังคงไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาคู่ขนานกันไป พื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือพื้นที่เสริมสร้างสันติสุข กว่า 217 หมู่บ้านก็จะมีหน่วยทหารเข้าไปทำการพัฒนา และควบคุมพื้นที่ป้องกันการก่อเหตุร้าย
นอกเหนือจากนี้ หมู่บ้านที่เป็นชายทะเล จำนวน 117 หมู่บ้าน ต้องเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งอาชีพประมงและอาชีพเสริม ส่วนพื้นที่ถัดเข้าไปด้านในที่เป็นพื้นที่ยากจนกว่า 300 หมู่บ้าน ก็ต้องมีการพัฒนา ต้องมีการสำรวจทำประชาคมหมู่บ้าน เลือกทำอาชีพเสริมตามความต้องการของชุมชน ให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 65,000บาท/ปี เพิ่มขึ้นเป็นเกินกว่า 120,000บาท/ปี
ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยครู โรงเรียน จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยกำลังกับครูว่าจะดำเนินการอย่างไร จะให้ไปพร้อมกับครูหรือลาดตระเวนเส้นทางก็แล้วแต่จะตกลงกัน การดูแลโรงเรียนจะมีการจ้างลูกจ้างตามโครงการจ้างงานเร่งด่วน เข้ามาช่วยดูแล และให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสานกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นในการเข้ามาช่วยปกป้องดูแลสถานศึกษา ถ้ามีความขัดแย้งกัน ผู้บริหารก็จะต้องเข้าไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังฝากเรื่องปัญหายาเสพติดในโรงเรียน ให้ผู้บริหารโรงเรียนช่วยกันดูแลให้ความรู้แก่ครู นักเรียน และหากนักเรียนมีปัญหาก็ต้องประสานกับผู้ปกครองและชุมชนอย่างใกล้ชิดในการแก้ปัญหาด้วย