ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตประสบความสำเร็จแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการตอบรับทำประกันภัยพร้อมเงื่อนไขประกันทั้งตัวเรือที่เสียหายและบุคคลที่สาม 219 ลำเท่านั้น เปิดซองประมูลเลือกบริษัทประกันภัย 9 ต.ค.นี้ พร้อมจัดทำสัญญาเช่ากลางที่ใช้ร่วมกันทั้งจังหวัด ประกาศลั่นเจ็ตสกีเถื่อนห้ามให้บริการเด็ดขาด
วันนี้ (23 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พลเรือตรี อมรโชติ สุจิรัตน์ รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำประกันภัยให้เจ็ตสกี ได้เป็นประธานจัดประชุมหารือร่วมระหว่างบริษัทตัวแทนประกันภัยกับตัวแทนผู้ประกอบการเจ็ตสกีทั้ง 5 หาดในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่แล้วข้อง เพื่อหาข้อสรุปและเงื่อนไขในการทำประกันภัยให้กับเจ็ตสกีที่ให้บริการตามชายหาด ในการแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวกรณีที่เจ็ทสกีเกิดอุบัติเหตุ
ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าจะควบคุมให้เจ็ตสกีให้บริการทั้งหมด 219 ลำเท่านั้น ที่เหลือไม่มีสิทธิ์นำมาให้บริการโดยเด็ดขาด ซึ่งในส่วนของการทำประกันภัยทุกฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะทำประกันภัยตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ และอุปกรณ์ส่วนประกอบเสียหายเฉพาะกรณีที่นักท่องเที่ยวเช่าให้บริการเท่านั้น บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบกรณีการขนย้าย หรือลูกเรือนำเรือลงไปวิ่งโฉบเฉี่ยวโชว์นักท่องเที่ยว เรือไฟไหม้ หรือเรือสูญหาย และในรอบ 1 ปี สามารถเรียกค่าชดเชยสินไหมได้ไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี และการชดเชยสินไหม 1,500 บาท แรกผู้ประกอบการ (ผู้เช่า) เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเกินเป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัยเป็นผู้ชดเชย ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังให้การใช้บริการมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเห็นร่วมกันที่จะประกันภัยในส่วนของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลที่สาม กรณีเกิดอุบัติเหตุต้องรักษาพยาบาล โดยจะคุ้มครองผู้ขับขี่ที่เป็นผู้เช่า และผู้ที่ว่ายน้ำอยู่ในบริเวณนั้น โดยกำหนดค่ารักษาพยาบาลวงเงินสุงสุดครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท กรณีเสียชีวิตบริษัทประกันชดเชยสินไหมไม่เกิน 100,000 บาท
โดยให้บริษัทประกันภัยที่สนใจยื่นซองประมูลในวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 9 ตุลาคม 2552 นี้ ในเวลา 10.00 น.โดยทางจังหวัดจะเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 5 หาดมาตัดสินใจเลือกข้อเสนอของแต่ละบริษัท หากบริษัทใดได้รับการคัดเลือกก็จะเป็นผู้ทำประกันภัยให้กับเจ็ตสกีทั้ง 219 ลำที่ได้จดทะเบียนไว้กับขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีจังหวัดภูเก็ต และผู้ประกอบการจะต้องทำประกันภัยให้เสร็จภายใน 30 วัน
พลเรือตรี อมรโชติ กล่าวว่า เจ็ตสกีที่จะมีสิทธิ์ทำประกันและให้บริการได้นั้นจะต้องเป็นเจ็ตสกีที่จดทะเบียน 219 ลำเท่านั้น โดยให้ทางขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีทำประวัติทั้งในส่วนของเจ็ตสกี เจ้าของ ผู้ให้บิรการให้เสร็จภายใน 30 วัน หลังจากนั้น เมื่อได้บริษัทประกันภัยแล้วทุกลำต้องทำประกันภัย ส่วนเจ็ตสกีที่เกิน 219 ลำที่ไม่ได้จดทะเบียนนั้นห้ามนำมาให้บริการโดยเด็ดขาดหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย แต่จะมีการจัดทำทั้งประวัติเจ้าของ เด็กเรือและตัวเจ็ตสกีพร้อมภาพถ่ายประกอบ เด็กเรือที่ให้บริการตามชายหาดจะต้องให้สวมชุดยูนิฟอร์ม พร้อมหมายเลขเบอร์ติดที่เสื้อให้เห็นชัดเจน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมทำประวัติเจ้าของเสื้อทุกคน และส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆรับรองก่อนที่จะส่งมายังจังหวัด และห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวประกอบอาชีพเจ็ตสกีโดยเด็ดขาด
“มาตรการในการทำประกันภัยนั้น คิดว่า จะสามารถแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 90% เพราะยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกที่ยังเป็นปัญหา เช่น สัญญาเช่าที่ผู้ประกอบการทำกับนักท่องเที่ยว โดยปัญหานี้ทางจังหวัดจะดำเนินการควบคู่กับการทำประกันภัย โดยให้ทางผู้ประกอบการร่างสัญญาเช่า ส่งมาทางจังหวัดเพื่อให้ทางอัยการและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พิจารณาว่าสัญญาดังกล่าวเป็นธรรมกับนักท่องเที่ยวหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะใช้เป็นสัญญาเช่าเจ็ทสกีที่ใช้เหมือนกันทั้งจังหวัด เพื่อให้สัญญาเช่าเจ็ตสกีเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด” พลเรือตรี อมรโชติ กล่าวและว่า
พร้อมกันนี้ในปีหน้า ทางจังหวัดภูเก็ตจะมีการติดรตั้งกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ตามชายหาดต่างๆ ซึ่งจุดนี้จะเป็นตัวช่วยในการดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอีก
ขณะที่ นายสิงห์ทอง เจริญทรัพย์ รองประธานชมรมเจ็ตสกีหาดป่าตอง กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับเงื่อนไขการทำประกันภัยเจ็ทสกีที่ทางจังหวัด ผู้ประกอบการและบริษัทประกันภัยหารือร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ได้หารือในวันนี้จะนำไปหารือร่วมกับผู้ประกอบการเจ็ทสกีที่หาดป่าตองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคิดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่น่าจะเห็นด้วยกับการทำประกันภัย เพราะผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่จริงแล้วทำกันเป็นอาชีพไม่ต้องการที่จะทุบหม้อข้าวต่อเองอยู่แล้ว แต่ผู้ประกอบการที่ไม่ดีก็มีบ้างแต่ส่วนน้อย