ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯภูเก็ตเต้นสั่งสอบมาเฟียเจ็ทสกีป่าตองข่มขู่นักท่องเที่ยวเรียกค่าเสียหายเกินจริงหลังมีภาพถือปืนเผยแพร่ผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ตออกไปทั่วโลก
วันนี้ (9 ก.ย.) นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังมีการเผยแพร่ขอมูลผู้ประกอบการเจ็ทสกีบางรายในพื้นที่ป่าตองก่อเหตุขมขู่นักท่องเที่ยวซึ่งใช้บริการเช่าเจ็ทสกีไปเล่นที่บริเวณหาดป่าตองและเกิดอุบัติเหตุเรือเจ็ทสกีไปชนจนได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นถืออาวุธปืนมาเจรจาเพื่อเรียกค่าเสียหาย เผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ตไปทั่วโลกว่า ภาพที่สื่อออกไปนั้นจะต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและจะต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นมานานถึง 2 เดือนแล้วก็ตาม
เพราะภาพที่สื่อออกมานั้นเป็นหลักฐานได้อย่างชัดเชน ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรกันอยู่ถึงไม่รู้เห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเข้าไปดูแลและตรวจสอบแล้วซึ่งทราบตัวบุคคลที่อยู่ในภาพที่สื่อออกไปแล้วว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหนอย่างไร
สำหรับการแก้ไขปัญหาผู้กอบการเจ็ทสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเรียกค่าเสียหายเกินจริง ซึ่งเป็นการทำลายการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างร้ายแรงของคนที่เห็นแก่ตัวเพียงไม่กี่คน ซึ่งเรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ในวันที่ 10 ก.ย.52 นี้ทางจังหวัดจะได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ และผู้ประกอบการเจ็ทสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วมประชุม ซึ่งตนมีนโยบายอย่างชัดเจนในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยจะเก็บทะเบียนประวัติของผู้ประกอบการ และเด็กที่ให้บริการเจ็ทสกีทั้งหมด
นอกจากนั้นก็จะนำเรื่องการทำประกันมาใช้ประกันภัยกับเจ็ทสกีหากเกิดอุบัติเหตุก็ให้คุยกับบริษัทประกันภัยได้เลยไม่ต้องคุยกับนักท่องเที่ยวเชื่อว่าทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีและจะเริ่มทำที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกๆที่ดำเนินการ
นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมเอาเปรียบนักท่องเที่ยวนั้นมีไม่กี่คนแต่สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดภูเก็ตมหาศาล เพราะที่ผ่านมาในการพบปะกับทูตของประเทศต่างๆมักจะได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ข่มขู่นักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง
โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ถ้าหากยังมีการฝ่าฝืนก็คงจะต้องมีการดำเนินคดีกันตามกฎหมายเพราะการข่มขู่เรียกร้องค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวเกินความเป็นจริงนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย อย่างกรณีของนักท่องเที่ยวจีนที่เช่าเจ็ทสกีไปแล้วเครื่องยนตร์ดับผู้ผู้ประกอบการเรียกค่าเสียหาย 50,000 แต่สุดท้ายมีการต่อรองลดเหลือเพียงแค่ 3,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายเกินจริงซึ่งถ้าพบจะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
วันนี้ (9 ก.ย.) นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังมีการเผยแพร่ขอมูลผู้ประกอบการเจ็ทสกีบางรายในพื้นที่ป่าตองก่อเหตุขมขู่นักท่องเที่ยวซึ่งใช้บริการเช่าเจ็ทสกีไปเล่นที่บริเวณหาดป่าตองและเกิดอุบัติเหตุเรือเจ็ทสกีไปชนจนได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นถืออาวุธปืนมาเจรจาเพื่อเรียกค่าเสียหาย เผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ตไปทั่วโลกว่า ภาพที่สื่อออกไปนั้นจะต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและจะต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นมานานถึง 2 เดือนแล้วก็ตาม
เพราะภาพที่สื่อออกมานั้นเป็นหลักฐานได้อย่างชัดเชน ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรกันอยู่ถึงไม่รู้เห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเข้าไปดูแลและตรวจสอบแล้วซึ่งทราบตัวบุคคลที่อยู่ในภาพที่สื่อออกไปแล้วว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหนอย่างไร
สำหรับการแก้ไขปัญหาผู้กอบการเจ็ทสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเรียกค่าเสียหายเกินจริง ซึ่งเป็นการทำลายการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างร้ายแรงของคนที่เห็นแก่ตัวเพียงไม่กี่คน ซึ่งเรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ในวันที่ 10 ก.ย.52 นี้ทางจังหวัดจะได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ และผู้ประกอบการเจ็ทสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วมประชุม ซึ่งตนมีนโยบายอย่างชัดเจนในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยจะเก็บทะเบียนประวัติของผู้ประกอบการ และเด็กที่ให้บริการเจ็ทสกีทั้งหมด
นอกจากนั้นก็จะนำเรื่องการทำประกันมาใช้ประกันภัยกับเจ็ทสกีหากเกิดอุบัติเหตุก็ให้คุยกับบริษัทประกันภัยได้เลยไม่ต้องคุยกับนักท่องเที่ยวเชื่อว่าทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีและจะเริ่มทำที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกๆที่ดำเนินการ
นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมเอาเปรียบนักท่องเที่ยวนั้นมีไม่กี่คนแต่สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดภูเก็ตมหาศาล เพราะที่ผ่านมาในการพบปะกับทูตของประเทศต่างๆมักจะได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ข่มขู่นักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง
โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ถ้าหากยังมีการฝ่าฝืนก็คงจะต้องมีการดำเนินคดีกันตามกฎหมายเพราะการข่มขู่เรียกร้องค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวเกินความเป็นจริงนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย อย่างกรณีของนักท่องเที่ยวจีนที่เช่าเจ็ทสกีไปแล้วเครื่องยนตร์ดับผู้ผู้ประกอบการเรียกค่าเสียหาย 50,000 แต่สุดท้ายมีการต่อรองลดเหลือเพียงแค่ 3,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายเกินจริงซึ่งถ้าพบจะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
