xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! สูตรพิสดารสี่คูณร้อย “ใบลองกอง-รากหมาก” ตร.มึนเอาเรื่องไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - อึ้งอีกโจ๋นครศรีดัดแปลงสูตรพิสดารสี่คูณร้อย “ใบลองกอง-รากหมาก” ทำตำรวจมึนเอาเรื่องไม่ได้สารวัตรนักเรียนรับ 3 เดือนเจอเป็นร้อยราย ผกก.ยันไม่มีบัญชียาเสพติด สงสัยการตลาดนักขายกระท่อม สาธารณสุขมึนตึ๊บเตือนอย่างเดียวอันตราย

วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาการมั่วสุมเสพน้ำต้มกระท่อมหรือที่เรียกติดปากว่าสูตร 4 คูณ 100 คือการนำเอาใบกระท่อมมาต้มกับน้ำอัดลมซึ่งเป็นตัวทำละลาย จากนั้นมีส่วนผสมอื่นๆ อีกหลายชนิดเช่นยาแก้ไอ ยาบ้า ซอแรม ยากันยุง หรือแม้กระทั่งสารฟลูออเรสเซนท์ ในหลอดฟลูออเรสเซนท์ที่ใช้ตามบ้านเรือนมาเป็นส่วนผสม โดยแต่ละเดือนนั้นมีการตรวจสอบตามแหล่งมั่วสุมต่างๆ เช่นหอพัก บ้านเช่า อพาร์ทเม้นท์ สามารถจับกุมนักเรียน นักศึกษาได้หลายราย

และได้นำเข้าสู่กระบวนการทั้งการดำเนินคดี และการนำส่งสถาบันการศึกษา แจ้งผู้ปกครองมารับตัวตามลักษณะของการกระทำความผิด แต่ระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีการดัดแปลงสูตรน้ำต้มกระท่อมเป็นสูตรใหม่ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้เนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาใช้ต้มกลับกลายเป็นใบลองกอง และรากต้นหมาก ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในสารระบบยาเสพติด และไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาเสพติดผิดกฎหมายของประเทศไทยทั้ง 5 บัญชี

นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่าปัญหาการมั่วสุมต้มน้ำกระท่อมในปัจจุบันนี้โดยเฉพาะในนครศรีธรรมราช เป็นปัญหาใหญ่ที่เพิกเฉยไม่ได้มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก 3 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าทำการจับกุมการมั่วสุมลักษณะเช่นนี้ประมาณ 100 ครั้ง แต่ละครั้งมีนักเรียนนักศึกษามั่วสุมอยู่ประมาณ 10 คน

ทั้งนี้ เมื่อดูตัวเลขนั้นเป็นเรื่องที่น่าห่วงรวมไปถึงการดัดแปลงสูตรต้มที่ทำให้มึนเมาต่างๆไม่ได้ล่วงรู้และคำนึงถึงผลเสียที่ตามมาเลย เช่นการใช้ใบลองกองแทนใบกระท่อม ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในสารระบบของยาเสพติดใดๆ เลย ทำให้การดำเนินการค่อนข้างลำบาก และปัญหาที่ตามมาอีกคือเรื่องของการมั่วสุมทางเพศเป็นปัญหาที่หนักใจมาก ปัญหานี้จึงต้องหาทางแก้ปัญหาร่วมกันหลายฝ่าย มาวันนี้แค่สถาบันการศึกษาไม่เพียงพอแล้ว

ขณะที่แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งเปิดเผยว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เพิกเฉยไม่ได้อีกต่อไป คนที่อยู่ในวงการการศึกษาทุกคนรู้ดีโดยเฉพาะตั้งแต่ในระดับมัธยมขึ้นไปจนถึงระดับอุดมศึกษา หลายครั้งที่เราไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะหลักฐานที่ปรากฏนั้นมีเพียง ใบลองกองต้มกับน้ำอัดลม ส่วนผสมอื่นๆหากยังเหลือเราสามารถดำเนินการได้คือพวกสารเสพติดชนิดต่างๆที่เอามาเป็นส่วนผสม ยากันยุง หรือสารฟลูออเรสเซนท์ไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างเก่งทำได้เพียงแค่ส่งสถาบันการศึกษาให้รับทราบและแจ้งผู้ปกครองทราบเท่านั้น

“ผมเคยสอบถามนักเรียนที่เสพใบลองกองโดยการนำมาต้มแทนกระท่อมได้ความว่าเมื่อนำมาต้มนั้นรสชาติจะฝาดหวาน และจะมีฤทธิ์ทำให้เมาเช่นเดียวกันกับกระท่อม สิ่งที่น่าห่วงคือเมื่อเขาเมาแล้วจะทำให้เร่งอารมณ์ทางเพศ และปัญหาต่อมาคือการมั่งสุมทางเพศและลุกลามไปสู่ปัญหาอื่นๆ หลายครั้งพบว่าจะมีการมั่วสุมในลักษณะของหญิงชาย เมื่อเมาได้ที่จะลงท้ายที่การมีเพศสัมพันธ์ อีกตัวหนึ่งที่เริ่มพบแล้วคือรากของหมากที่คนแก่นิยมใช้กินกับพลู จะมีการเอามาต้มด้วยทำนองว่ามีสรรพคุณทำให้เมาเช่นเดียวกัน” แหล่งข่าวรายนี้กล่าว

ด้านนายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้นับว่าเป็นความพิเรนทร์มาก ในทางวิชาการในทางการแพทย์นั้นไม่เคยมีการศึกษาจริงๆ และไม่นึกว่าจะพิเรนทร์ได้ถึงขนาดนี้ ทั้งยังไม่เคยมีหลักฐานทางวิชาการว่าทั้งใบลองกองและรากหมากนั้น มีฤทธิ์ทางด้านใดบ้าง บัญชียาเสพติดทั้งหลาย สารออกฤทธิ์ทั้งหลายไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้ แต่เตือนได้เพียงอย่างเดียวว่าอาจมีอันตรายอย่างคิดไม่ถึงก็ได้ คงต้องฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองครูบาอาจารย์ต้องดูแลต้องอบรม

ขณะที่ พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันในการประชุมยาเสพติดหลายครั้งแล้ว แต่ใบลองกองนั้นไม่มีในบัญชียาเสพติดไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ถ้าเมื่อเสพแล้วเมาการดำการได้อย่างเดียวคือการไปเอาผิดดำเนินคดีในฐานความผิดอื่นๆเช่นการเมาแล้วไปก่อเหตุสร้างความวุ่นวายเป็นต้น

“ผมเป็นห่วงว่ามันจะเป็นแผนการตลาดของพวกที่ขายใบกระท่อมมากกว่าที่ล่อลวงเมื่อขายกระท่อมไม่ได้ก็เอาใบลองกองมาขายแทน แต่สิ่งแอบแฝงนั้นต้องดูว่าขายอย่างอื่นด้วยหรือไม่ ส่วนรากหมากนั้นยังไม่เคยพบแต่เข้าใจว่าจะมีฤทธิ์ทำให้มึนๆ เมื่อผสมกับสารตัวอื่นอาจทำให้ฤทธิ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น” พ.ต.อ.ภูดิส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น