นครศรีธรรมราช - ตำรวจเมืองคอน ปวดหัวหนัก โจ๋หาพืชตัวใหม่แทนใบกระท่อม “ต้มสี่คูณร้อย” ประสานกำลังตรวจเข้มร้านเหล้าปั่นทั้งคืน จับ 2 เจ้าของร้านดำเนินคดี สธ.ชี้วัยโจ๋สุดพิเรนทร์ “ใบลองกอง-รากหมาก” แทนพืชกระท่อม ตร.มึนเอาผิดไม่ได้
พ.ต.ท.จำลอง สุพรรณพงศ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าสารวัตรนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัด ออกตรวจสถานบริการ และร้านขายเหล้าปั่นในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราชกันเกือบทั้งคืน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในขณะนี้ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเหตุนักเรียน นักศึกษาวัยรุ่น กลุ่มเยาวชนวัยรุ่นทั้งชายและหญิงจำนวนมาก ก่อเหตุไม่พึงประสงค์ไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะการเสพสารเสพติดประเภทสี่คูณร้อย แปดคูณร้อย จนมึนเมาแล้วก่อปัญหาขึ้น แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะเร่งกวดขันปราบปรามจับกุม แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งปัญหาได้ ล่าสุด หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันปราบปรามเข้มงวด ในการจับกุมใบกระท่อมสด ต้นพืชกระท่อม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาต้มเพื่อผลิตน้ำต้มกระท่อมสูตรต่างๆ
“แต่พบว่ากลุ่มวัยรุ่นได้พยายามหาหาพืชชนิดอื่นมาทดแทนใบกระท่อม เช่น ใบลองกอง รากหมาก เมื่อนำมาต้มและใส่ส่วนตามสูตรแล้ว จะได้ยาเสพติดสูตรใหม่ที่มีสรรพคุณไม่แตกต่างจากพืชกระท่อม ที่สำคัญเจ่าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ เนื่องจากชิ้นส่วนของพืชเหล่านั้นไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาเสพติด”
นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมความประพฤติ หรือสารวัตรนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้มีการกวดขันเรื่องนี้ พร้อมหาแนวทางสกัดกั้นพืชตัวอื่นที่วัยรุ่นจะจำมาใช้ นอกจากนี้ให้บูรณาการร่วมกันในการตรวจสถานบริการและร้านขายเหล้าปั่น เพื่อป้องปรามเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยพบว่าขณะนี้ใน จ.นครศรีธรรมราช มีการเปิดร้านเหล้าปั่นริมถนนกันเป็นจำนวนมากเกือบทุกตรอกซอกซอย และวัยรุ่นจำนวนมากนิยมไปนั่งลิ้มลองเหล้าปั่น ซึ่งแต่ละร้านจะงัดกลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อในหมู่กลุ่มวัยรุ่น โดยอ้างว่าเหล้าปั่นที่ร้านของตัวเองมีส่วนผสมพิเศษกว่าร้านอื่นๆ
“การตรวจเข้มเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมเจ้าของสถานบริการ 1 ราย ที่เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมร้านขายเหล้าปั่น 1 ราย ที่ตรวจสอบพบว่ามีการนำวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งผิดกฎหมายมาเป็นส่วนผสมในเหล้าปั่น”
ในขณะที่ นายแพทย์ นพพร ชื่นกลิ่น สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้นับว่าเป็นความพิเรนทร์มาก ในทางวิชาการในทางการแพทย์นั้นไม่เคยมีการศึกษาจริงๆ และไม่นึกว่าจะพิเรนทร์ได้ถึงขนาดนี้ ทั้งยังไม่เคยมีหลักฐานทางวิชาการว่าทั้งใบลองกองและรากหมากนั้น มีฤทธิ์ทางด้านใดบ้าง บัญชียาเสพติดทั้งหลาย สารออกฤทธิ์ทั้งหลายไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้ แต่เตือนได้เพียงอย่างเดียวว่าอาจมีอันตรายอย่างคิดไม่ถึงก็ได้ คงต้องฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองครูบาอาจารย์ต้องดูแลต้องอบรม
ทางด้าน พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันในการประชุมยาเสพติดหลายครั้งแล้ว แต่ใบลองกองนั้นไม่มีในบัญชียาเสพติดไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ถ้าเมื่อเสพแล้วเมาดำเนินการได้อย่างเดียว คือ การไปเอาผิดดำเนินคดีในฐานความผิดอื่นๆ เช่น การเมาแล้วไปก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย ทะเลาะวิวาท เป็นต้น
“ผมเป็นห่วงว่ามันจะเป็นแผนการตลาดของพวกที่ขายใบกระท่อมมากกว่าที่ล่อลวงเมื่อขายกระท่อมไม่ได้ก็เอาใบลองกอง รากหมาก หรืออื่นๆ มาขายแทน ซึ่งอาจจะมีการแอบแฝงจำหน่ายสิ่งเสพติดผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย ตำรวจกำลังตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด สำหรับรากหมากนั้นในส่วนของตำรวจยังไม่เคยพบ แต่ตนเข้าใจว่า รากหมากจะมีฤทธิ์ทำให้มึนๆ เมื่อผสมกับสารตัวอื่นอาจทำให้ฤทธิ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น” พ.ต.อ.ภูดิส กล่าว
พ.ต.ท.จำลอง สุพรรณพงศ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าสารวัตรนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัด ออกตรวจสถานบริการ และร้านขายเหล้าปั่นในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราชกันเกือบทั้งคืน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในขณะนี้ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเหตุนักเรียน นักศึกษาวัยรุ่น กลุ่มเยาวชนวัยรุ่นทั้งชายและหญิงจำนวนมาก ก่อเหตุไม่พึงประสงค์ไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะการเสพสารเสพติดประเภทสี่คูณร้อย แปดคูณร้อย จนมึนเมาแล้วก่อปัญหาขึ้น แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะเร่งกวดขันปราบปรามจับกุม แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งปัญหาได้ ล่าสุด หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันปราบปรามเข้มงวด ในการจับกุมใบกระท่อมสด ต้นพืชกระท่อม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาต้มเพื่อผลิตน้ำต้มกระท่อมสูตรต่างๆ
“แต่พบว่ากลุ่มวัยรุ่นได้พยายามหาหาพืชชนิดอื่นมาทดแทนใบกระท่อม เช่น ใบลองกอง รากหมาก เมื่อนำมาต้มและใส่ส่วนตามสูตรแล้ว จะได้ยาเสพติดสูตรใหม่ที่มีสรรพคุณไม่แตกต่างจากพืชกระท่อม ที่สำคัญเจ่าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ เนื่องจากชิ้นส่วนของพืชเหล่านั้นไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาเสพติด”
นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมความประพฤติ หรือสารวัตรนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้มีการกวดขันเรื่องนี้ พร้อมหาแนวทางสกัดกั้นพืชตัวอื่นที่วัยรุ่นจะจำมาใช้ นอกจากนี้ให้บูรณาการร่วมกันในการตรวจสถานบริการและร้านขายเหล้าปั่น เพื่อป้องปรามเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยพบว่าขณะนี้ใน จ.นครศรีธรรมราช มีการเปิดร้านเหล้าปั่นริมถนนกันเป็นจำนวนมากเกือบทุกตรอกซอกซอย และวัยรุ่นจำนวนมากนิยมไปนั่งลิ้มลองเหล้าปั่น ซึ่งแต่ละร้านจะงัดกลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อในหมู่กลุ่มวัยรุ่น โดยอ้างว่าเหล้าปั่นที่ร้านของตัวเองมีส่วนผสมพิเศษกว่าร้านอื่นๆ
“การตรวจเข้มเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมเจ้าของสถานบริการ 1 ราย ที่เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมร้านขายเหล้าปั่น 1 ราย ที่ตรวจสอบพบว่ามีการนำวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งผิดกฎหมายมาเป็นส่วนผสมในเหล้าปั่น”
ในขณะที่ นายแพทย์ นพพร ชื่นกลิ่น สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้นับว่าเป็นความพิเรนทร์มาก ในทางวิชาการในทางการแพทย์นั้นไม่เคยมีการศึกษาจริงๆ และไม่นึกว่าจะพิเรนทร์ได้ถึงขนาดนี้ ทั้งยังไม่เคยมีหลักฐานทางวิชาการว่าทั้งใบลองกองและรากหมากนั้น มีฤทธิ์ทางด้านใดบ้าง บัญชียาเสพติดทั้งหลาย สารออกฤทธิ์ทั้งหลายไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้ แต่เตือนได้เพียงอย่างเดียวว่าอาจมีอันตรายอย่างคิดไม่ถึงก็ได้ คงต้องฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองครูบาอาจารย์ต้องดูแลต้องอบรม
ทางด้าน พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันในการประชุมยาเสพติดหลายครั้งแล้ว แต่ใบลองกองนั้นไม่มีในบัญชียาเสพติดไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ถ้าเมื่อเสพแล้วเมาดำเนินการได้อย่างเดียว คือ การไปเอาผิดดำเนินคดีในฐานความผิดอื่นๆ เช่น การเมาแล้วไปก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย ทะเลาะวิวาท เป็นต้น
“ผมเป็นห่วงว่ามันจะเป็นแผนการตลาดของพวกที่ขายใบกระท่อมมากกว่าที่ล่อลวงเมื่อขายกระท่อมไม่ได้ก็เอาใบลองกอง รากหมาก หรืออื่นๆ มาขายแทน ซึ่งอาจจะมีการแอบแฝงจำหน่ายสิ่งเสพติดผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย ตำรวจกำลังตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด สำหรับรากหมากนั้นในส่วนของตำรวจยังไม่เคยพบ แต่ตนเข้าใจว่า รากหมากจะมีฤทธิ์ทำให้มึนๆ เมื่อผสมกับสารตัวอื่นอาจทำให้ฤทธิ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น” พ.ต.อ.ภูดิส กล่าว