เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เผยผู้หญิงเป็นนักดื่มหน้าใหม่มากถึงร้อยละ 65 จากกลยุทธ์เหล้าปั่น เร่งคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกมาตรการห้ามทำเหล้าปั่นทุกประเภท
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เปิดเผยว่า สถานการณ์การดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก และผู้หญิง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมายังน่าเป็นห่วง เพราะผู้หญิงเริ่มเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 65 จากอิทธิพลของการโฆษณา และการตลาดรูปแบบใหม่ๆ ของธุรกิจแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะมีการชักชวนในรูปแบบเหล้าปั่น ซึ่งดูเหมือนน้ำผลไม้ปั่น ดื่มแล้วอาจไม่รู้ว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งๆ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น วอดก้า รัม หรือ จิน และจัดรูปแบบร้านคล้ายๆ กับร้านขายน้ำผลไม้จูงใจให้เด็กและผู้หญิงหันมาดื่มกันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำโปรโมชั่นจูงใจผู้หญิงในรูปแบบแปลกๆ เช่น ผู้ชาย 2 คนขึ้นไปดื่ม ผู้หญิงที่มาด้วยดื่มฟรี ที่สำคัญร้านเหล้าปั่นเหล่านี้ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียน และสถาบันอุดมศึกษาเป็นจำนวนมาก
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ประชุมหารือและเห็นชอบในการออกมาตรการควบคุมการจำหน่ายเหล้าปั่น ด้วยการเสนอห้ามจัดทำและจำหน่ายโดยวิธีการทำเป็นเหล้าปั่นทุกประเภท ยกเว้นเฉพาะตามคลับ บาร์ ซึ่งสามารถขายเหล้าได้อยู่แล้ว ซึ่งเครือข่ายได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เรียกประชุมเพื่อเห็นชอบออกเป็นมาตรการบังคับ ซึ่งเครือข่ายจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากล่าช้า เครือข่ายฯ จะไปทวงถามความคืบหน้ากับ พล.ต.สนั่น ที่ทำเนียบรัฐบาล และหากไม่ได้ผลก็คงต้องเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาหลายแห่งได้ร่วมกับศูนย์วิจัยสุรา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำรวจร้านค้าและสถานประกอบการรอบๆ มหาวิทยาลัยชื่อดังจำนวน 15 แห่ง ในกรุงเทพฯ พบว่า มีร้านเหล้าปั่นอยู่ถึง 86 ร้าน ในรัศมี 500 เมตร จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และพบว่ามีร้านเหล้าตั้งอยู่ถึง 1,712 ร้าน เฉลี่ย 57 ร้านต่อ 1 ตารางกิโลเมตร
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เปิดเผยว่า สถานการณ์การดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก และผู้หญิง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมายังน่าเป็นห่วง เพราะผู้หญิงเริ่มเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 65 จากอิทธิพลของการโฆษณา และการตลาดรูปแบบใหม่ๆ ของธุรกิจแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะมีการชักชวนในรูปแบบเหล้าปั่น ซึ่งดูเหมือนน้ำผลไม้ปั่น ดื่มแล้วอาจไม่รู้ว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งๆ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น วอดก้า รัม หรือ จิน และจัดรูปแบบร้านคล้ายๆ กับร้านขายน้ำผลไม้จูงใจให้เด็กและผู้หญิงหันมาดื่มกันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำโปรโมชั่นจูงใจผู้หญิงในรูปแบบแปลกๆ เช่น ผู้ชาย 2 คนขึ้นไปดื่ม ผู้หญิงที่มาด้วยดื่มฟรี ที่สำคัญร้านเหล้าปั่นเหล่านี้ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียน และสถาบันอุดมศึกษาเป็นจำนวนมาก
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ประชุมหารือและเห็นชอบในการออกมาตรการควบคุมการจำหน่ายเหล้าปั่น ด้วยการเสนอห้ามจัดทำและจำหน่ายโดยวิธีการทำเป็นเหล้าปั่นทุกประเภท ยกเว้นเฉพาะตามคลับ บาร์ ซึ่งสามารถขายเหล้าได้อยู่แล้ว ซึ่งเครือข่ายได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เรียกประชุมเพื่อเห็นชอบออกเป็นมาตรการบังคับ ซึ่งเครือข่ายจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากล่าช้า เครือข่ายฯ จะไปทวงถามความคืบหน้ากับ พล.ต.สนั่น ที่ทำเนียบรัฐบาล และหากไม่ได้ผลก็คงต้องเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาหลายแห่งได้ร่วมกับศูนย์วิจัยสุรา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำรวจร้านค้าและสถานประกอบการรอบๆ มหาวิทยาลัยชื่อดังจำนวน 15 แห่ง ในกรุงเทพฯ พบว่า มีร้านเหล้าปั่นอยู่ถึง 86 ร้าน ในรัศมี 500 เมตร จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และพบว่ามีร้านเหล้าตั้งอยู่ถึง 1,712 ร้าน เฉลี่ย 57 ร้านต่อ 1 ตารางกิโลเมตร
