xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีฯ ฟ้อง กกต.หลังพบพิรุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - หลักฐานสำนวน กกต.สุดพิลึกโผล่ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ฮึดสู้หลังพบพิรุธ ฟ้องกราวรูดอดีต ผอ.กกต.นครศรี-กกต.จังหวัด ยัน กกต.กลาง กราวรูด 17 จำเลย


วันนี้ (16 ส.ค.) นายพิชัย บุณยเกียรติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะอดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายฐานุวัฒน์ ภูมี ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้แถลงถึงกรณีการยื่นฟ้อง กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช กกต.กลาง และคณะอนุกรรมการ กกต.กลาง ในฐานความผิด เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545

โดยมี นายธงชัย วรรณธนะพิศิษฐ์ ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช (ในขณะนั้น) เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกอีกรวม 17 คน ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งคณะ คณะอนุกรรมการสืบสวนสวน กกต.กลาง รองเลขาธิการ กกต.กลาง และคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหญ่ โดยมีสำนวนการสอบสวน มติ กกต.ทั้งหมดในการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นเอกสารหลักฐานสำคัญ

สาระสำคัญในการบรรยายฟ้องระบุว่า หลังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 25 เม.ย.51 ถึง 3 เม.ย.52 จำเลยที่ 1 ถึง 17 ได้กระทำความผิดกฎหมายหลายบทต่อโจทก์ กล่าวคือ หลังจากที่ได้มีการประกาศผลคะแนนของ กกต.ประจำ จ.นครศรีธรรมราช โจทก์ได้ยื่นคัดค้านการเลือกตั้ง โดยเห็นว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงเห็นควรเลือกตั้งใหม่ โดยจำเลยที่ 1 ได้เกษียณท้ายสำนวนสอบสวนว่า “เห็นพ้องกับคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนในข้อกล่าวหาที่ 1 ประเด็นที่ 1, 2, 4, 5, 6, 7 และในข้อกล่าวหาที่ 2 เห็นแย้งกับคณะอนุกรรมการสอบสวน ในข้อกล่าวหาที่ 1 ประเด็นที่ 3 เนื่องจากยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องคัดค้านหรือภรรยาเป็นผู้จัดเลี้ยง”

ในคำฟ้องยังบรรยายในสาระสำคัญอีกว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช พิจารณาคำร้องคัดค้านรายงานการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานประกอบสำนวนการสืบสวนสอบสวน ประกอบความเห็นของคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความเห็นยกคำร้องในข้อกล่าวหาที่ 1, 2, 4, 6, 7 และ 8 ส่วนข้อกล่าวหาที่ 3 ได้ทำการช่วยเหลือผู้ถูกคัดค้านโดยให้มีการสอบเพิ่มเติม แล้วมามีความเห็นแย้งกับคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนในภายหลังว่า

“พยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกคัดค้าน หรือผู้ถูกคัดค้านได้อาศัยผู้ใดหาเสียง โดยการให้ เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เห็นควรยกคำร้อง” ในประเด็นนี้ด้วย” แต่ข้อสรุปความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กลับพิจารณามีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ทั้งๆที่ได้ยกคำร้องคัดค้านของโจทย์ในทุกประเด็น อันเป็นข้อพิรุธอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนั้น ในคำบรรยายฟ้องยังแสดงให้เห็นถึงกระบวนการหลังจากที่ กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งสำนวนและความเห็นไปยัง กกต.กลางโดยผ่านสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 1 กกต.กลาง โดยนายสมพล พงศ์พิพัฒน์ ผอ.สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 1 ได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 16 ก.ย.51 เห็นควรให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) และมี พ.ต.ท.อุกฤษณ์ ภู่หริย์วงศ์สุข รอง ผอ.สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 1 เห็นควรให้ถอนสิทธิการเลือกตั้งแก่ผู้ถูกคัดค้านและให้เลือกตั้งใหม่

ทั้งยังเห็นให้ดำเนินคดีอาญา แต่ต่อมามีกระบวนการสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในข้อกล่าวหาที่ 1 โดยมีนายภูมิพิพัฒน์ กองแก้ว ผอ.สสว.1 เป็นผู้เสนอถึง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.สั่งการให้ กกต.นครศรีธรรมราช ดำเนินการ และเมื่อมีการดำเนินการ ตามลำดับจนมีการยืนยันความเห็นเดิมคือให้มีการเลือกตั้งใหม่

ต่อมาเรื่องนี้ได้เสนอต่อรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กลับมีความเห็นตรงข้ามกับความเห็นที่ได้เสนอมา และได้ทำความเห็นเลขาธิการ กกต.ที่ 3178/2551 เสนอต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยได้มีความเห็นยกคำร้องทุกข้อประเด็น ตามความเห็นแย้งของจำเลยที่ 1-6 ความเห็นของจำเลยที่ 7 และ 8 โดยมิได้พิจารณาความเห็นของผู้ใด ต่อมาจำเลยที่ 9 และ 13 ได้นำคำวินิจฉัยความเห็นของตนเองเสนอต่อจำเลยที่ 14 ถึง 17 คือ ได้มีคำวินิจฉัยยกคำร้องคัดค้านของโจทย์ตามความเห็นแย้งของจำเลยที่ 1 ถึง 6 และความเห็นของจำเลยที่ 7-13 โดยมิได้ตรวจสอบพยานหลักฐานและความเห็นของฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 1

นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตผู้สมัครนายกอบจ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในคดีนี้ศาลได้ประรับฟ้องเป็นคดีดำที่ 698/2552 และนัดไต่สวนในวันที่ 19 ตุลาคม 52 ในเวลา 09.00 น. สาเหตุที่ตนฟ้องร้องในคดีอาญากับ อดีต ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช กกต.นครศรีธรรมราช และ กกต.กลางตามลำดับทั้ง 17 รายนั้น ก่อนหน้านี้ศาลได้ออกหมายเรียกสำนวนเอกสารจาก กกต.กลางมาประกอบคดีจึงพบความไม่ชอบมาพากล สำนวนมีความผิดปกติเข้าทำนองตามกฎหมาย คือทำนองไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เป็นไปได้หรือไม่ที่มีการยกคำร้องในทุกประเด็น แต่กลับมามีมติว่าให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเมื่อมีการยกคำร้องแล้วเหตุใดจึงมีมติเลือกตั้งใหม่ ปรากฏชัดในสำนวน

“ดังนั้นจึงเป็นการฟ้องร้องต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิ และขอให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างของการเมืองท้องถิ่นที่น่าศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง และเข้าใจถึงผู้ที่ถูกกระทำโดยมิชอบ กฎหมายได้ให้สิทธิผู้เสียหายมาฟ้องร้องได้ผมจึงฟ้องร้อง” นายพิชัยกล่าว

นายธงชัย วรรณธนะพิศิษฐ์ ผอ.กกต.สุราษฎร์ธานี (อดีต ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช) เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้การเห็นแย้งนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ร่วมทั้งการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นขอให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายจะดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นของตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้นก่อน

ขณะที่ นายไมตรี จันทรา ประธาน กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจผิดพลาดในงานเอกสาร ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้ง และเมื่อมีการฟ้องร้องต้องตั้งทนายแก้ต่างกันต่อไป ไม่มีอะไรมากอำนาจในท้ายที่สุดนั้นอยู่ที่ กกต.กลาง กกต.จังหวัดมีแค่ความเห็นไปเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น