การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน เริ่มขึ้นแล้ว โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการแจกหนังสือ “ผลงานในรอบ 6 เดือน” ทั้งฉบับเต็ม สำหรับสื่อมวลชน ส.ส., ส.ว. และฉบับย่อสำหรับประชาชนโดยมีการชี้แจงผลงานเด่นหลายด้าน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน
วันนี้ (6 ส.ค.) การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน เริ่มขึ้นแล้ว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการแจกหนังสือ “ผลงานในรอบ 6 เดือน” ทั้งฉบับเต็ม สำหรับสื่อมวลชน ส.ส., ส.ว. และฉบับย่อสำหรับประชาชนโดยมีการชี้แจงผลงานเด่นหลายด้าน ทั้งการแก้ไขและบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น การสร้างรายได้ลดค่าใช้จ่ายประชาชน จากโครงการเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี น้ำและไฟฟ้าฟรี รวมทั้งโครงการต้นกล้าอาชีพ
ส่วนมาตรการสร้างความเชื่อมั่น และการสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อลดการเผชิญหน้าทางการเมือง แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ยอมรับว่ามาตรการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล หรือต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึง นโยบาย 100 มาตรการ หลายล้านความสุข โดยย้ำถึงภาวะที่รัฐบาลต้องเผชิญหน้าคือ วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง และวิกฤตความเห็นแย้งในสังคม ดังนั้น รัฐบาลจึงเดินหน้าที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนวางรากฐานและพัฒนาความยั่งยืน โดยกลั่นกรองทุกนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลมาเป็น 100 มาตรการ ในการดำเนินการ และเลือกที่จะแก้ปัญหา หรือดูแลกลุ่มประชาชนในระดับเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ซึ่งเดินหน้าโครงการเรียนฟรี 15 ปี
ทั้งนี้โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และโครงการต้นกล้าอาชีพ หลังจากนั้น เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อประกันสินค้าเกษตร หรือพืชผลทางการเกษตร และเดินหน้าสานต่อโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนลดค่าครองชีพ ไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี รวมถึงโครงการเช็กช่วยชาติ 2,000 บาท
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวย้ำอีกว่า ใน 6 เดือนข้างหน้า จะเร่งเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะสืบเนื่องให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ชี้แจงถึงการพิจารณาโครงการรถเมล์ NGV 4,000 คัน และกฎหมายเพื่อวางระบบแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สอดคล้องกับปัญหามากที่สุด
สุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปงานสำคัญของรัฐบาล เรื่องเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ต้นกล้าอาชีพ 5 มาตรการลดค่าครองชีพ เช็กช่วยชาติ ชุมชนพอเพียง สินเชื่อเอสเอ็มอี อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน และแผนไทยเข้มแข็ง 7 ด้าน คือ แหล่งน้ำ ขนส่ง การศึกษา สาธารณสุข ท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ และการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้รัฐบาลจะมีมาตราการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนด้วยการลดภาระค่าครองชีพ 5 มาตรการ และมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม.ทั่วประเทศกว่า 1 ล้านคน คนละ 600 บาทต่อเดือนด้วย ส่วนภาคธุรกิจ และเอกชน ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลยังทำงานอย่างต่อเนื่องมีการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี กว่า 22,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่า ไทยผ่านพ้นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจไปแล้ว มั่นใจว่า หลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นแด่สำหรับการแก้ไขความขัดแย้งในสังคมขณะนี้ทำได้ยาก เนื่องจากมีความคิดเห็นที่แตกต่างมาก แต่การสร้างความสมานฉันท์ยังเดินหน้าต่อไป ส่วนการแสดงออกของกลุ่มต่างๆหากใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ แต่หากออกมาสร้างความเดือดร้อน และไม่เคารพต่อกรอบกฎหมาย รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเข้มงวด
