ที่ประชุมกตช. เจอโรคเลื่อน “มาร์ค” ไม่หวั่นสูญเสียอำนาจ หลังหน้าแหก รอบ 2 ทำคลอด “ผบ.ตร.”ไม่ได้ แบะปากส่อแววขัดแย้ง “พรรคร่วม” ด้าน “ธานี” กัดฟันกรอด รับเผือกร้อน ด้าน “วัชรพล” ย้ำ อำนาจสิทธิขาดตั้ง รก.ผบ.ตร. คนใหม่ อยู่ในอุ้งมือ “มาร์ค” มั่นใจตร.ไม่เกียร์ว่างคุมม็อบเสื้อแดง เชื่อไม่มีสุญญากาศขาดหัว ส่วน “ส.ส.ไข่แม้ว” สบถเย้ย “มาร์ค” เสียภาวะผู้นำ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงข่าว
วันนี้(16 ก.ย.) ที่รัฐสภา บรรยากาศ การประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.)เพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นไปอย่างคึกคักมีสื่อมวลชนมาดักรอทำข่าว ที่บริเวณหน้าห้องคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ชั้น2 อาคารรัฐสภา กันอย่างล้นหลามจนล้นไปถึงบันไดทางขึ้น โดยเมื่อเวลาประมาณ13.45น. เริ่มมีคณะกรรมการฯเดินทางมาถึงเป็นกลุ่มแรก ได้แก่นาย ชาญเชาน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงฯ และนาย ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
จากนั้นเวลาประมาณ13.55น. เป็นพล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร.และนาย ปิยะพันธ์ นิมมานเหมินท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงบประมาณ ได้เดินทางมาถึงตามลำดับ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าคณะกรรมการฯทั้งหมด ที่เดินทางมาถึงก่อนเป็นฝั่งที่สนับสนุนพล.ต.อ. ประทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผบ.ตร. เช่น เดียวกับนายกรัฐมนตรี โดยทั้งหมดได้เดินเข้าไปในห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีที่อยู่ติดกัน ซึ่งตัวนายกฯและนาย พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว คาดว่าทั้งหมด คงจะพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อความแน่นอนในการโหวตเลือกผบ.ตร. ก่อนที่จะเริ่มประชุมจริงในเวลา15.00น.
ด้านคณะกรรมการฯที่สนับสนุนพล.ต.อ. จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.มีนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก จากนั้นถัดจากกันประมาณ5นาทีเป็นนาย วิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยนายวิชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ผมขอประชุมก่อน
ขณะที่ นาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุล รมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ว่า ประชุมเสร็จจะรู้ว่าจะได้ผบ.ตร. คนใหม่ เมื่อมีประชุมก็ต้องได้สิ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกิดปัญหาเหมือนเมื่อคราวก่อนหน้านี้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วไม่ได้โหวต เมื่อถามว่า การเลือกผบ.ตร. จะทำให้เป็นปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า ตำแหน่งรักษาการปลัดยุติธรรมสามารถเข้าโหวตหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องฟังนักกฎหมายตนไม่ได้เรียนกฎหมาย เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้จะไม่มีการโหวตเลือกผบ.ตร. นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ นายชวรัตน์ ไม่ตอบพร้อมกับเดินอ้อมห้องน้ำเพื่อเข้าร่วมประชุมทันที
หลังจากใช้เวลาการประชุมเพียงครึ่งชั่วโมง เมื่อเวลา 15.30 น. นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยกรรมการกตช.ทั้งหมด ยกเว้น พล.ต.อ. ธวัชชัย ภัยลี้ ว่าที่กรรมการกตช. ที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมกตช. โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอเรียนว่า คณะกรรมการกตช. ได้ประชุมกัน และวาระที่มีการประชุมกันคือเรื่องการให้ความเห็นชอบตำแหน่งผบ.ตร. ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากการพิจารณาครั้งที่แล้ว ที่ประชุมมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า กระบวนการที่จะพิจารณาในเรื่องนี้สมควรที่จะใช้เวลาเพื่อให้เกิดเอกภาพ และความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการได้ตัวผบ.ตร. และเห็นว่า ในการดำเนินการส่วนนี้ หากมีความจำเป็นคือ ใช้เวลาพิจารณานานเกินวันที่ 30 ก.ย. นี้ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายไปพลางก่อนได้ นั้นคือให้มีผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในระหว่างที่กระบวนการของการให้ความเห็นชอบและการแต่งตั้งยังไม่เสร็จสิ้น นี่คือมติที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ยังไม่สามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้เพราะอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลได้อธิบายไปชัดเจนแล้ว เพื่อความเป็นเอกภาพ เพื่อความเรียบร้อย อยากจะเรียนว่า ที่จริงแล้วการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมามีลักษณะที่ทำให้เกิดความรู้สึกของคนในสังคมว่า มีความขัดแย้ง และมีการวิเคราะห์วิจารณ์ไปในทางที่เหมาะสมบ้าง ไม่เหมาะสมบ้าง ซึ่งคณะกรรมการทุกท่านไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดสภาพอย่างนี้ในสังคม จึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า แนวทางที่จะดำเนินการต่อไปคงต้องใช้เวลา อีกระยะหนึ่ง
เมื่อถามว่า อะไรจะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ เพราะเวลาผ่านมาเกือบเดินแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความรับผิดชอบเบื้องต้นอยู่ที่ตัวผมเอง และจะดำเนินการอย่างดีที่สุด เพราะได้ฟังความคิดเห็นคณะกรรมการในวันนี้ด้วย เมื่อถามว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช้เท่าที่จำเป็น เมื่อถามว่า เลยวันที่ 30 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าเสร็จก่อนก็ดี
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการล๊อบบี้และกดดันอย่างหนักหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ ขณะนี้เราต้องการให้สังคมมีเวลาให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นๆในสังคม เรื่องนี้สำคัญ แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ควรจะเป็นชนวนความขัดแย้งในบ้านเมือง ฉะนั้นทุกท่านเห็นว่า ให้ผมในฐานะประธาน และมีความรับผิดชอบในการเสนอชื่อ ได้ใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
เมื่อถามว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่าการตั้งผบ.ตร.คนหนึ่งทำไม มันยากเย็นเหลือเกิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมไม่เคยมีความเสียใจเรื่องตั้งยาก ตั้งง่าย ผมเสียใจว่า มีการนำเอาเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งการวิพากษ์วิจารณ์ข้อมูลไม่ตรงกัน ถ้าจะเสียใจ จะเสียใจเรื่องนั้น แต่เรื่องการทำงานตรงนี้ ผมเคารพ อำนาจหน้าที่ทุกฝ่าย และยืนยันว่า ทุกสิ่งที่ผมทำอยู่บนผลประโยชน์ของส่วนรวม ฉะนั้นผมไม่มีอะไรเสียใจในเรื่องนี้”
เมื่อถามว่า กรรมการกตช.มีความเข้าใจตรงกันใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มติเป็นเอกฉันท์นั่งอยู่ตรงนี้ครบทุกท่าน เมื่อถามว่า การบริหารประเทศต่อไปหลังจากนี้จะมีความยากลำบากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ ๆ เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้คิดว่าไม่ยากลำบาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เห็นทุกท่านนั่งยิ้มอยู่ในตอนนี้( ขณะเดียวกันพล.ต.อ. ธานี กัดฟันกรอด และทำมือยุกยิกหยิบเล็บตัวเอง) เมื่อถามว่า ในส่วนของรมว.มหาดไทย จะต้องยืนยันตามนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ อยู่หรือไม่ นาย ชวรัตน์ ตอบเรื่องนี้แทนว่า วันนี้ประชุมนายกฯเป็นประธาน เมื่อถามว่า หมายถึงว่า ต่อไปรมว.มหาดไทยจะทำตามที่นายกฯเสนอใช่หรือไม่ นายอภิสิทธ์ ชิงตอบแทนนาย ชวรัตน์ ว่า “เป็นคำถามที่ไม่เป็นธรรมกับกรรมการ ถ้าไปถามกรรมการอย่างนี้ก็ไม่ต้องประชุมหรอก”
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯบอกว่ามีปัญหาด้านเทคนิค และพยายามคุยเพื่อเคลียร์แสดงว่าปัญหายังไม่สามารถคลี่คลายได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่จบ ตนคิดว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการและผมเองทำได้หลายวิธี แต่สิ่งที่ผมต้องการทำคือ ความเป็นเอกภาพ ความเรียบร้อยในบ้านเมือง เมื่อถามว่า นายกฯ บอกว่าสิ่งที่เสียใจคือการนำไปพูดวิจารณ์ต่างๆนานา วันนี้การที่กตช.ไม่สามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้ ยิ่งจะเป็นจุดวิจารณ์มากขึ้น ไม่ห่วงตรงนี้หรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ ผมคิดว่าอยากให้สื่อมวลชนได้พิจารณาและระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสารต่างๆ หากมันมีปัญหาจริงๆ มันไม่เสร็จเร็วอย่างนี้หรอก เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่า ข่าวในวันพรุ่งนี้เช้าจะออกมาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ ผมไม่มีหน้าที่ในการที่จะไปบอกว่า จะเสนอข่าวสารอย่างไร ผมทำได้เพียงหวังว่า ท่านจะเสนอในทางสร้างสรรค์”
เมื่อถามว่า ปัญหาในวันนี้เป็นเพราะมีปัญหาในทางข้อกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา และไม่มีข้อขัดข้องทางข้อกฎหมาย วันนี้ได้มีการพูดคุยชัดเจนเรื่ององค์ประกอบของที่ประชุมและอะไรต่างๆ ไม่มีปัญหา เพราะทุกอย่างผมพูดมาตลอดว่า ผมปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีตรงไหนที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และผมเชื่อว่า กรรมการถ้ามีปัญหาในข้อกฎหมายก็คงไม่เห็นชอบกับสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้
เมื่อถามว่า จะเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดินหรือเปล่าว่าไม่สามารถมีผบ.ตร.จริงได้ แต่ต้องมีรักษาราชการแทน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตมีแล้ว และถ้ามันมีอะไรที่ไม่เหมือนของเดิมบ้าง แล้วมันดีกว่าก็ไม่เป็นไร เมื่อถามว่า ถ้าหาความเป็นเอกภาพไม่ได้ ไม่ต้องมีรักษาราชการแทนไปตลอด 1 ปี ที่เหลืออายุราชการอยู่หรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผมยังเชื่อว่าหาได้
เมื่อถามว่า จะตั้งให้พล.ต.อ.ธานี รักษาการอยู่ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าท่านหยุดอายุตัวเองได้ บังเอิญท่านหยุดไม่ได้ เมื่อถามว่า ทอดเวลายาวออกไปจะกดดันตัวเอง และกดดันกตช.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เมื่อถามว่า เสียงกรรมการจะยังแบ่งเป็น 2 เสียงหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มียังเป็นเอกฉันท์ เมื่อถามว่า ชื่อที่นายกฯเสนอจะเป็นคนที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ที่ผ่านมาผมเสนอผู้ขึ้นมารักษาราชการ ตามสถานการณ์ ก็เห็นอยู่แล้ว มีการทำมา 3 ครั้ง ในช่วง1-2 เดือนนี้ ไม่จำเป็นว่า จะต้องเหมือนกัน เมื่อถามว่า ห่วงว่า จะกระทบต่อการบริหารราชการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรกระทบ วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อย งานทุกอย่างเดินต่อไปได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้ไม่มีการเสนอชื่อผบ.ตร. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้เราพูดถึงวิธีการที่จะทำงาน เพราะมีความกังวลกับสภาพการนำเสนอข้อมูลต่างๆที่ผ่านมา และไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น และในข้อกฎหมายก็ไม่เป็นอุปสรรค และการประชุมครั้งต่อไปก็ต่อเมื่อนัด
เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลว่าจะมีความขัดแย้งต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่กล่าวตอบแต่ทำสีหน้าแบะปากพร้อมกับโบ้ยปากไปทางคนด้านหน้า ซึ่งมีนายชวรัตน์ เดินนำหน้านายกฯออกจากห้องประชุม เมื่อถามว่า การประชุมคราวหน้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้ นาย อภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คิดว่า สูญเสียอำนาจหรือไม่ในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ เมื่อถามว่า คิดว่าคนอื่นจะมองว่าตัวนายกฯสูญเสียอำนาจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าย้ำอีกว่า ไม่ครับ
พล.ต.อ. ธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ขณะเดินไปขึ้นรถว่า หลังวันที่ 30 ก.ย. นี้ ตนก็เกษียรเป็นประชาชนไปแล้ว เมื่อถามว่า นายกฯได้มีการคุยถึงเรื่องการต่ออายุราชการหรือไม่ พล.ต.อ. ธานี ไม่ตอบ เมื่อถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.ต.อ. ธานี เพียงแค่ พยักหน้า
ขณะที่ พล. ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะเลขาธิการกตช. และโฆษกสตช.ให้สัมภาษณ์ถึงการต่ออายุราชการของพล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร.ว่า ตามกฎหมายตำรวจไม่สามารถทำได้ ซึ่งอย่างที่ นายกฯพูดถ้ายังไม่มีผบ.ตร.ก็สามารถตั้งรักษาการได้
เมื่อ ถามว่า มีการพิจารณาบุคคลใดไว้ รักษาการแทนในช่วงที่ไม่มี ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ เพราะเป็นอำนาจของนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะตั้งช่วงไหนก่อนหรือหลังหรือวันที่ 30 กันยาฯก็อยู่ที่นายกฯ
เมื่อถามต่อว่า หากวันที่ 30 ก.ย.นี้ไปแล้วยังไม่มี ผบ.ตร.จะเกิดสูญญากาศหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า โดยหลักแล้วจะไม่ปล่อยให้มีสูญญากาศต้องมีคนรับผิดชอบ
“กรณีเช่นนี้ทำได้ 2 กรณีคือ นายกฯแต่งตั้ง หรือถ้านายกฯไม่แต่งตั้งก็จะมีระเบียบ กตร.ว่าด้วยการรักษาราชการแทนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่อาวุโสในระเบียบ กตร.ว่าด้วยการรักษาราชการแทนก็สามารถจะทำหน้าที่ต่อไปโดยอัตโนมัติ เว้นเสียแต่ว่า นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งตั้งเป็นอย่างอื่น โดยสามารถแต่งตั้งใครเป็นก็ได้ และ ถ้านายกฯ แต่งตั้งเองก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอาวุโส” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่า การเลื่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะกระทบต่อการดูแลการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานี ก็รักษาราชการแทนและมีอำนาจเต็มที่ในการทำหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการประชุมเตรียมการไว้หมดแล้ว ซึ่งท่านต้องรับผิดชอบ ถือว่าเป็นหน้าที่ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้วไม่ต้องเป็นห่วง
เมื่อถามว่าการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. จะส่งผลให้ตำรวจต้องทำงานระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อาจจะมีความห่วงใยบ้าง แต่ก็เป็นหน้าที่ของราชการตำรวจที่จะต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งรัฐบาลก็มีการมาตรการทางกฎหมายเข้ามา มีทั้งทหารที่เข้ามาเป็นผู้ช่วย ดังนั้นตำรวจทุกคนก็มั่นใจมากขึ้น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจจะใส่เกียร์ว่างนั้น เป็นเพียงแค่ข่าว
เมื่อ ถามว่า ตำรวจมักเป็นแพะทางการเมืองทางนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้ให้ความมั่นใจในความรับผิดชอบตรงนี้หรือไม่อย่างไร พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า นายสุเทพ ย้ำหลายครั้งว่ารัฐบาล และตัวท่านรับผิดชอบ
ด้านพ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่สื่อมวลชนแตกฮือลงมาจากชั้น 2 อาคารรัฐสภา หลังนายกฯแถลงเสร็จโดยสอบถามสื่อมวลชนว่า เกิดอะไรขึ้นกับที่ประชุมกตช. ใครได้เป็นผบ.ตร. คนใหม่ ขณะที่สื่อมวลชนกล่าวสั้นๆ ว่า นายกฯเลื่อนการประชุมออกไปไม่มีกำหนด ยังไม่ได้ตัวผบ.ตร. นายวินัยกล่าวด้วยสีหน้างงงวย ทันทีว่า “สูญเสียลีดเดอร์ชิฟ (ภาวะความเป็นผู้นำ)”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงข่าว
วันนี้(16 ก.ย.) ที่รัฐสภา บรรยากาศ การประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.)เพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นไปอย่างคึกคักมีสื่อมวลชนมาดักรอทำข่าว ที่บริเวณหน้าห้องคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ชั้น2 อาคารรัฐสภา กันอย่างล้นหลามจนล้นไปถึงบันไดทางขึ้น โดยเมื่อเวลาประมาณ13.45น. เริ่มมีคณะกรรมการฯเดินทางมาถึงเป็นกลุ่มแรก ได้แก่นาย ชาญเชาน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงฯ และนาย ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
จากนั้นเวลาประมาณ13.55น. เป็นพล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร.และนาย ปิยะพันธ์ นิมมานเหมินท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงบประมาณ ได้เดินทางมาถึงตามลำดับ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าคณะกรรมการฯทั้งหมด ที่เดินทางมาถึงก่อนเป็นฝั่งที่สนับสนุนพล.ต.อ. ประทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผบ.ตร. เช่น เดียวกับนายกรัฐมนตรี โดยทั้งหมดได้เดินเข้าไปในห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีที่อยู่ติดกัน ซึ่งตัวนายกฯและนาย พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว คาดว่าทั้งหมด คงจะพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อความแน่นอนในการโหวตเลือกผบ.ตร. ก่อนที่จะเริ่มประชุมจริงในเวลา15.00น.
ด้านคณะกรรมการฯที่สนับสนุนพล.ต.อ. จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.มีนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก จากนั้นถัดจากกันประมาณ5นาทีเป็นนาย วิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยนายวิชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ผมขอประชุมก่อน
ขณะที่ นาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุล รมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ว่า ประชุมเสร็จจะรู้ว่าจะได้ผบ.ตร. คนใหม่ เมื่อมีประชุมก็ต้องได้สิ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกิดปัญหาเหมือนเมื่อคราวก่อนหน้านี้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วไม่ได้โหวต เมื่อถามว่า การเลือกผบ.ตร. จะทำให้เป็นปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า ตำแหน่งรักษาการปลัดยุติธรรมสามารถเข้าโหวตหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องฟังนักกฎหมายตนไม่ได้เรียนกฎหมาย เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้จะไม่มีการโหวตเลือกผบ.ตร. นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ นายชวรัตน์ ไม่ตอบพร้อมกับเดินอ้อมห้องน้ำเพื่อเข้าร่วมประชุมทันที
หลังจากใช้เวลาการประชุมเพียงครึ่งชั่วโมง เมื่อเวลา 15.30 น. นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยกรรมการกตช.ทั้งหมด ยกเว้น พล.ต.อ. ธวัชชัย ภัยลี้ ว่าที่กรรมการกตช. ที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมกตช. โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอเรียนว่า คณะกรรมการกตช. ได้ประชุมกัน และวาระที่มีการประชุมกันคือเรื่องการให้ความเห็นชอบตำแหน่งผบ.ตร. ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากการพิจารณาครั้งที่แล้ว ที่ประชุมมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า กระบวนการที่จะพิจารณาในเรื่องนี้สมควรที่จะใช้เวลาเพื่อให้เกิดเอกภาพ และความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการได้ตัวผบ.ตร. และเห็นว่า ในการดำเนินการส่วนนี้ หากมีความจำเป็นคือ ใช้เวลาพิจารณานานเกินวันที่ 30 ก.ย. นี้ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายไปพลางก่อนได้ นั้นคือให้มีผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในระหว่างที่กระบวนการของการให้ความเห็นชอบและการแต่งตั้งยังไม่เสร็จสิ้น นี่คือมติที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ยังไม่สามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้เพราะอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลได้อธิบายไปชัดเจนแล้ว เพื่อความเป็นเอกภาพ เพื่อความเรียบร้อย อยากจะเรียนว่า ที่จริงแล้วการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมามีลักษณะที่ทำให้เกิดความรู้สึกของคนในสังคมว่า มีความขัดแย้ง และมีการวิเคราะห์วิจารณ์ไปในทางที่เหมาะสมบ้าง ไม่เหมาะสมบ้าง ซึ่งคณะกรรมการทุกท่านไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดสภาพอย่างนี้ในสังคม จึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า แนวทางที่จะดำเนินการต่อไปคงต้องใช้เวลา อีกระยะหนึ่ง
เมื่อถามว่า อะไรจะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ เพราะเวลาผ่านมาเกือบเดินแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความรับผิดชอบเบื้องต้นอยู่ที่ตัวผมเอง และจะดำเนินการอย่างดีที่สุด เพราะได้ฟังความคิดเห็นคณะกรรมการในวันนี้ด้วย เมื่อถามว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช้เท่าที่จำเป็น เมื่อถามว่า เลยวันที่ 30 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าเสร็จก่อนก็ดี
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการล๊อบบี้และกดดันอย่างหนักหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ ขณะนี้เราต้องการให้สังคมมีเวลาให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นๆในสังคม เรื่องนี้สำคัญ แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ควรจะเป็นชนวนความขัดแย้งในบ้านเมือง ฉะนั้นทุกท่านเห็นว่า ให้ผมในฐานะประธาน และมีความรับผิดชอบในการเสนอชื่อ ได้ใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
เมื่อถามว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่าการตั้งผบ.ตร.คนหนึ่งทำไม มันยากเย็นเหลือเกิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมไม่เคยมีความเสียใจเรื่องตั้งยาก ตั้งง่าย ผมเสียใจว่า มีการนำเอาเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งการวิพากษ์วิจารณ์ข้อมูลไม่ตรงกัน ถ้าจะเสียใจ จะเสียใจเรื่องนั้น แต่เรื่องการทำงานตรงนี้ ผมเคารพ อำนาจหน้าที่ทุกฝ่าย และยืนยันว่า ทุกสิ่งที่ผมทำอยู่บนผลประโยชน์ของส่วนรวม ฉะนั้นผมไม่มีอะไรเสียใจในเรื่องนี้”
เมื่อถามว่า กรรมการกตช.มีความเข้าใจตรงกันใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มติเป็นเอกฉันท์นั่งอยู่ตรงนี้ครบทุกท่าน เมื่อถามว่า การบริหารประเทศต่อไปหลังจากนี้จะมีความยากลำบากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ ๆ เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้คิดว่าไม่ยากลำบาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เห็นทุกท่านนั่งยิ้มอยู่ในตอนนี้( ขณะเดียวกันพล.ต.อ. ธานี กัดฟันกรอด และทำมือยุกยิกหยิบเล็บตัวเอง) เมื่อถามว่า ในส่วนของรมว.มหาดไทย จะต้องยืนยันตามนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ อยู่หรือไม่ นาย ชวรัตน์ ตอบเรื่องนี้แทนว่า วันนี้ประชุมนายกฯเป็นประธาน เมื่อถามว่า หมายถึงว่า ต่อไปรมว.มหาดไทยจะทำตามที่นายกฯเสนอใช่หรือไม่ นายอภิสิทธ์ ชิงตอบแทนนาย ชวรัตน์ ว่า “เป็นคำถามที่ไม่เป็นธรรมกับกรรมการ ถ้าไปถามกรรมการอย่างนี้ก็ไม่ต้องประชุมหรอก”
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯบอกว่ามีปัญหาด้านเทคนิค และพยายามคุยเพื่อเคลียร์แสดงว่าปัญหายังไม่สามารถคลี่คลายได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่จบ ตนคิดว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการและผมเองทำได้หลายวิธี แต่สิ่งที่ผมต้องการทำคือ ความเป็นเอกภาพ ความเรียบร้อยในบ้านเมือง เมื่อถามว่า นายกฯ บอกว่าสิ่งที่เสียใจคือการนำไปพูดวิจารณ์ต่างๆนานา วันนี้การที่กตช.ไม่สามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้ ยิ่งจะเป็นจุดวิจารณ์มากขึ้น ไม่ห่วงตรงนี้หรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ ผมคิดว่าอยากให้สื่อมวลชนได้พิจารณาและระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสารต่างๆ หากมันมีปัญหาจริงๆ มันไม่เสร็จเร็วอย่างนี้หรอก เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่า ข่าวในวันพรุ่งนี้เช้าจะออกมาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ ผมไม่มีหน้าที่ในการที่จะไปบอกว่า จะเสนอข่าวสารอย่างไร ผมทำได้เพียงหวังว่า ท่านจะเสนอในทางสร้างสรรค์”
เมื่อถามว่า ปัญหาในวันนี้เป็นเพราะมีปัญหาในทางข้อกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา และไม่มีข้อขัดข้องทางข้อกฎหมาย วันนี้ได้มีการพูดคุยชัดเจนเรื่ององค์ประกอบของที่ประชุมและอะไรต่างๆ ไม่มีปัญหา เพราะทุกอย่างผมพูดมาตลอดว่า ผมปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีตรงไหนที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และผมเชื่อว่า กรรมการถ้ามีปัญหาในข้อกฎหมายก็คงไม่เห็นชอบกับสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้
เมื่อถามว่า จะเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดินหรือเปล่าว่าไม่สามารถมีผบ.ตร.จริงได้ แต่ต้องมีรักษาราชการแทน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตมีแล้ว และถ้ามันมีอะไรที่ไม่เหมือนของเดิมบ้าง แล้วมันดีกว่าก็ไม่เป็นไร เมื่อถามว่า ถ้าหาความเป็นเอกภาพไม่ได้ ไม่ต้องมีรักษาราชการแทนไปตลอด 1 ปี ที่เหลืออายุราชการอยู่หรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผมยังเชื่อว่าหาได้
เมื่อถามว่า จะตั้งให้พล.ต.อ.ธานี รักษาการอยู่ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าท่านหยุดอายุตัวเองได้ บังเอิญท่านหยุดไม่ได้ เมื่อถามว่า ทอดเวลายาวออกไปจะกดดันตัวเอง และกดดันกตช.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เมื่อถามว่า เสียงกรรมการจะยังแบ่งเป็น 2 เสียงหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มียังเป็นเอกฉันท์ เมื่อถามว่า ชื่อที่นายกฯเสนอจะเป็นคนที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ที่ผ่านมาผมเสนอผู้ขึ้นมารักษาราชการ ตามสถานการณ์ ก็เห็นอยู่แล้ว มีการทำมา 3 ครั้ง ในช่วง1-2 เดือนนี้ ไม่จำเป็นว่า จะต้องเหมือนกัน เมื่อถามว่า ห่วงว่า จะกระทบต่อการบริหารราชการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรกระทบ วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อย งานทุกอย่างเดินต่อไปได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้ไม่มีการเสนอชื่อผบ.ตร. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้เราพูดถึงวิธีการที่จะทำงาน เพราะมีความกังวลกับสภาพการนำเสนอข้อมูลต่างๆที่ผ่านมา และไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น และในข้อกฎหมายก็ไม่เป็นอุปสรรค และการประชุมครั้งต่อไปก็ต่อเมื่อนัด
เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลว่าจะมีความขัดแย้งต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่กล่าวตอบแต่ทำสีหน้าแบะปากพร้อมกับโบ้ยปากไปทางคนด้านหน้า ซึ่งมีนายชวรัตน์ เดินนำหน้านายกฯออกจากห้องประชุม เมื่อถามว่า การประชุมคราวหน้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถเลือกผบ.ตร.คนใหม่ได้ นาย อภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คิดว่า สูญเสียอำนาจหรือไม่ในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ เมื่อถามว่า คิดว่าคนอื่นจะมองว่าตัวนายกฯสูญเสียอำนาจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าย้ำอีกว่า ไม่ครับ
พล.ต.อ. ธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ขณะเดินไปขึ้นรถว่า หลังวันที่ 30 ก.ย. นี้ ตนก็เกษียรเป็นประชาชนไปแล้ว เมื่อถามว่า นายกฯได้มีการคุยถึงเรื่องการต่ออายุราชการหรือไม่ พล.ต.อ. ธานี ไม่ตอบ เมื่อถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.ต.อ. ธานี เพียงแค่ พยักหน้า
ขณะที่ พล. ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะเลขาธิการกตช. และโฆษกสตช.ให้สัมภาษณ์ถึงการต่ออายุราชการของพล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร.ว่า ตามกฎหมายตำรวจไม่สามารถทำได้ ซึ่งอย่างที่ นายกฯพูดถ้ายังไม่มีผบ.ตร.ก็สามารถตั้งรักษาการได้
เมื่อ ถามว่า มีการพิจารณาบุคคลใดไว้ รักษาการแทนในช่วงที่ไม่มี ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ เพราะเป็นอำนาจของนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะตั้งช่วงไหนก่อนหรือหลังหรือวันที่ 30 กันยาฯก็อยู่ที่นายกฯ
เมื่อถามต่อว่า หากวันที่ 30 ก.ย.นี้ไปแล้วยังไม่มี ผบ.ตร.จะเกิดสูญญากาศหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า โดยหลักแล้วจะไม่ปล่อยให้มีสูญญากาศต้องมีคนรับผิดชอบ
“กรณีเช่นนี้ทำได้ 2 กรณีคือ นายกฯแต่งตั้ง หรือถ้านายกฯไม่แต่งตั้งก็จะมีระเบียบ กตร.ว่าด้วยการรักษาราชการแทนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่อาวุโสในระเบียบ กตร.ว่าด้วยการรักษาราชการแทนก็สามารถจะทำหน้าที่ต่อไปโดยอัตโนมัติ เว้นเสียแต่ว่า นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งตั้งเป็นอย่างอื่น โดยสามารถแต่งตั้งใครเป็นก็ได้ และ ถ้านายกฯ แต่งตั้งเองก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอาวุโส” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่า การเลื่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะกระทบต่อการดูแลการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานี ก็รักษาราชการแทนและมีอำนาจเต็มที่ในการทำหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการประชุมเตรียมการไว้หมดแล้ว ซึ่งท่านต้องรับผิดชอบ ถือว่าเป็นหน้าที่ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้วไม่ต้องเป็นห่วง
เมื่อถามว่าการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. จะส่งผลให้ตำรวจต้องทำงานระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อาจจะมีความห่วงใยบ้าง แต่ก็เป็นหน้าที่ของราชการตำรวจที่จะต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งรัฐบาลก็มีการมาตรการทางกฎหมายเข้ามา มีทั้งทหารที่เข้ามาเป็นผู้ช่วย ดังนั้นตำรวจทุกคนก็มั่นใจมากขึ้น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจจะใส่เกียร์ว่างนั้น เป็นเพียงแค่ข่าว
เมื่อ ถามว่า ตำรวจมักเป็นแพะทางการเมืองทางนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้ให้ความมั่นใจในความรับผิดชอบตรงนี้หรือไม่อย่างไร พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า นายสุเทพ ย้ำหลายครั้งว่ารัฐบาล และตัวท่านรับผิดชอบ
ด้านพ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่สื่อมวลชนแตกฮือลงมาจากชั้น 2 อาคารรัฐสภา หลังนายกฯแถลงเสร็จโดยสอบถามสื่อมวลชนว่า เกิดอะไรขึ้นกับที่ประชุมกตช. ใครได้เป็นผบ.ตร. คนใหม่ ขณะที่สื่อมวลชนกล่าวสั้นๆ ว่า นายกฯเลื่อนการประชุมออกไปไม่มีกำหนด ยังไม่ได้ตัวผบ.ตร. นายวินัยกล่าวด้วยสีหน้างงงวย ทันทีว่า “สูญเสียลีดเดอร์ชิฟ (ภาวะความเป็นผู้นำ)”