กระบี่- “นายกสมาคมชาวสวนยางกระบี่” อ้อนรัฐอุ้มเกษตรกร หลังราคายางพาราลดลงต่ำกว่า 50 บาท ชี้ราคาซื้อขายตลาดท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม
นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อราคาพืชทางการเกษตรมีราคาตกต่ำด้วย โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งเป็นพืชทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ สำหรับจังหวัดกระบี่พื้นที่ปลูกยางพารามีกว่า 1 ล้านไร่
เมื่อราคาตกก็กระทบเป็นวงกว้าง โดยราคาลดต่ำลงจากอาทิตย์ที่ผ่านมา ราคาตลาดกลางทั้งหาดใหญ่,สุราษฏร์ธานี ,และนครศรีธรรมราช อยู่ที่ 54 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงเหลือ 51.75 บาทต่อกิโลกรัม ภายในเพียง 1 สัปดาห์ และมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับราคายางพาราในปัจจุบัน เป็นราคาที่ต้องยอมรับว่า เกษตรกรไม่มีผลกำไร แต่เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่จะต้องยอมรับในเรื่องของกลไกลทางตลาด เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่สั่งซื้อยางพาราจากประเทศไทย ลดจำนวนการสั่งซื้อลง
ทำให้มีผลต่อราคาการซื้อขายยางพาราในประเทศปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง อีกปัจจัยหนึ่งคือเรื่องของอัตราการแลกเปลี่ยน ทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัว ซึ่งอาจมีผลต่อการซื้อขาย ทำให้ราคาซื้อขายยางพาราภายในประเทศลดลงด้วย
นายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า การที่ราคายางพาราในตลาดกลางทั้งหาดใหญ่ ,สุราษฏร์ธานี ,และนครศรีธรรมราช ลดลงอยู่ที่ 51.75บาท / กิโลกรัม แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นนอนในเรื่องของราคายางพาราซึ่งอาจจะทำให้ราคาลดลงอีก ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดซื้อขายยางพาราในท้องถิ่นไม่ควรต่ำกว่า 49 บาท/กิโลกรัม ถ้าราคาต่ำกว่านี้เกษตรกรก็จะอยู่ไม่ได้ ในวันนี้ราคาซื้อขายในตลาดท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ราคายางแผ่นดิบอยู่ที่ 48 – 49 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด 48-49 บาท/กิโลกรัม เศษยาง 20 บาท/กิโลกรัม
สิ่งที่รัฐบาลควรจะเตรียมการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ก็คือการเข้ามาแทรกแซงราคายางพารา ให้ราคาในตลาดท้องถิ่นอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา ซึ่งจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำเกษตรกรลืมตาอ้างปากได้ ที่สำคัญเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนหลายจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคอีสานที่กลุ่มเกษตรกรชุมนุมประท้วงปิดถนน
เนื่องจากราคาพืชเกษตรตกต่ำ ซึ่งทางเกษตรกรชาวสวนยางพาราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการหลอกเลียนแบบ จะทำให้ธุรกิจประเภทอื่นๆมีผลกระทบตามไปด้วย อย่างเช่นธุรกิจภาคการท่องเที่ยว
นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อราคาพืชทางการเกษตรมีราคาตกต่ำด้วย โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งเป็นพืชทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ สำหรับจังหวัดกระบี่พื้นที่ปลูกยางพารามีกว่า 1 ล้านไร่
เมื่อราคาตกก็กระทบเป็นวงกว้าง โดยราคาลดต่ำลงจากอาทิตย์ที่ผ่านมา ราคาตลาดกลางทั้งหาดใหญ่,สุราษฏร์ธานี ,และนครศรีธรรมราช อยู่ที่ 54 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงเหลือ 51.75 บาทต่อกิโลกรัม ภายในเพียง 1 สัปดาห์ และมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับราคายางพาราในปัจจุบัน เป็นราคาที่ต้องยอมรับว่า เกษตรกรไม่มีผลกำไร แต่เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่จะต้องยอมรับในเรื่องของกลไกลทางตลาด เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่สั่งซื้อยางพาราจากประเทศไทย ลดจำนวนการสั่งซื้อลง
ทำให้มีผลต่อราคาการซื้อขายยางพาราในประเทศปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง อีกปัจจัยหนึ่งคือเรื่องของอัตราการแลกเปลี่ยน ทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัว ซึ่งอาจมีผลต่อการซื้อขาย ทำให้ราคาซื้อขายยางพาราภายในประเทศลดลงด้วย
นายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า การที่ราคายางพาราในตลาดกลางทั้งหาดใหญ่ ,สุราษฏร์ธานี ,และนครศรีธรรมราช ลดลงอยู่ที่ 51.75บาท / กิโลกรัม แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นนอนในเรื่องของราคายางพาราซึ่งอาจจะทำให้ราคาลดลงอีก ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดซื้อขายยางพาราในท้องถิ่นไม่ควรต่ำกว่า 49 บาท/กิโลกรัม ถ้าราคาต่ำกว่านี้เกษตรกรก็จะอยู่ไม่ได้ ในวันนี้ราคาซื้อขายในตลาดท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ราคายางแผ่นดิบอยู่ที่ 48 – 49 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด 48-49 บาท/กิโลกรัม เศษยาง 20 บาท/กิโลกรัม
สิ่งที่รัฐบาลควรจะเตรียมการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ก็คือการเข้ามาแทรกแซงราคายางพารา ให้ราคาในตลาดท้องถิ่นอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา ซึ่งจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำเกษตรกรลืมตาอ้างปากได้ ที่สำคัญเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนหลายจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคอีสานที่กลุ่มเกษตรกรชุมนุมประท้วงปิดถนน
เนื่องจากราคาพืชเกษตรตกต่ำ ซึ่งทางเกษตรกรชาวสวนยางพาราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการหลอกเลียนแบบ จะทำให้ธุรกิจประเภทอื่นๆมีผลกระทบตามไปด้วย อย่างเช่นธุรกิจภาคการท่องเที่ยว
