ปัตตานี – รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ปัตตานี ติดตามคดีสะเทือนขวัญประชาชนทั้ง 5 คดี พร้อมทุ่มงบประมาณพัฒนา 63,000 ล้านบาท
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรค ปชป.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมาที่ จ.ปัตตานี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมร่วมกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ศาลากลางจังหวัด ปัตตานี ประกอบด้วย พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผบช.ศปก.ตร.สน.และ ผวจ.ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าร่วม
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผบช.ศปก.ตร.สน.กล่าวรายงานถึงสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนมิถุนายน ว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 27 เหตุการณ์ แยกเป็น ยะลา 11 เหตุการณ์ นราธิวาส 9 เหตุการณ์ ปัตตานี 7 เหตุการณ์ จากการประเมินสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น เฉลี่ยวันละ 3 - 4 เหตุการณ์ต่อวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 8 มิถุนายน น่าจะมีความสัมพันธ์กับคดียิงชาวบ้านในมัสยิด อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
โดยการก่อเหตุทั้งหมดจะทิ้งร่องรอย ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการ และตอบโต้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง กลุ่มคนร้ายพยายามต้องการให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นเพื่อยกระดับความชอบธรรม เช่น วันที่ 12 มิ.ย.คดีพระ จ.ยะลา 13 มิ.ย.ระเบิดหน้า สภ.สายบุรี ฆ่าประชาชนตัดศีรษะ ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทุกคดีที่เกิดขึ้นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนางานวิทยาศาสตร์เสริมงานสืบสวนหลายคดี สามารถรู้ตัวผู้กระทำความผิด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มีการออกหมายจับ 94 หมาย จับกุมได้ 71 คน ปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาเสียชีวิต 1 ราย
พล.ต.ท.พีระ กล่าวสรุปว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.2552 จับคนร้ายได้ 133 คน ในจำนวนนี้มีการต่อสู้ระหว่างจับกุม 17 คน มีคดีสำคัญ 5 คดี คือ 1.ยิงชาวบ้านในมัสยิด ต.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาสเสียชีวิต 10 เจ็บ 13 ราย 2.ยิงพระขณะบิณฑบาต อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 1 ราย 3.โยนระเบิดใส่รถโดยสาร อ.เมือง จ.ยะลา 4.ยิงครู ร.ร.บ้านพอแม็ง อ.รามัน จ.ยะลา 5.ลอบวางระเบิด หน้า สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อในช่วงนี้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ ที่รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ภาคใต้ที่รุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถดูแลความปลอดภัยของประชาชนได้ เกิดความกดดัน ดังนั้นจึงต้องการเห็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง การทำงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความสามัคคี สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้รวดเร็ว ทันที และสามารถจับคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีได้
ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้เข้มแข็งโดยประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยตนพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณ เครื่องไม้เครื่องมืออย่างเต็มที่
ส่วนคดีสำคัญ มี 5 คดี คดีมีความคืบหน้ามากทุกคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องแถลงให้ประชาชนทราบการพิสูจน์หลักฐานกระสุนปืนที่ใช้พอจะทราบตัวผู้สงสัย และกำลังเชื่อโยงกับเหตุการณ์อื่นๆ ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนที่จะออกหมายจับกุมเพราะคดีเหล่านี้มีความละเอียดอ่อน ให้ยึดหลัก มีความโปร่งใส จับคนร้ายตัวจริง และตอบคำถามต่อสังคมได้ พร้อมกับยืนยันว่า คดียิงชาวบ้านในมัสยิดบ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ไม่พบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ในส่วนของการพัฒนา นายสุเทพ กล่าวว่า ได้อนุมัติงบประมาณ 3 ปี งบไทยเข้มแข็ง เงินกู้ พ.ร.ก.12,000 ล้านบาท ไม่รวมงบปกติ ขอให้จังหวัดได้เร่งรัดการทำงาน โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายสีแดง 217 หมู่บ้าน ที่ให้สร้างบรรยากาศ สภาประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและเป็นคนกำหนดเองว่าเขาจะสร้างอะไร ปลูกอะไร เพื่อให้เห็นบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่ร่วมกัน ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่ได้มอบหมายให้จังหวัดดำเนินการคือ การบูรณะ วัด มัสยิดโดยให้มีการตกแต่งทาสี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
ต่อข้อถามที่ว่า ความคืบหน้าในการจัดตั้ง ศบ.ชต.ที่จะตั้งขึ้นแทน ศอ.บต.นายสุเทพ กล่าวว่า การจัดตั้งหน่วยงานที่จะรับผิดชอบการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเป็นร่าง พระราชบัญญัติ ซึ่งการออกกฎหมายต้องใช้เวลา ขณะนี้ได้มอบหมายให้ นายถาวร เสนเนียม รับผิดชอบ ในการจัดทำเป้าหมายของเรา พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องมีองค์กรพิเศษที่จะมารับหน้าที่บริหารราชการเป็นพิเศษ จากประสบการณ์ ของ ศอ.บต ที่ทำงานในวันนี้ องค์กรที่จะจัดตั้งใหม่ต้องมีประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งรัฐบาลจะรีบทำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ปัญหาวกกลับมาใหม่อีก
ต่อข้อถามที่ว่า งบพัฒนาภาคใต้ที่ลงมามหาศาลรัฐบาลจะมีการติดตามตรวจสอบอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งงบพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 3 ปี ได้ตั้งงบ 63,000 ล้านบาท ปีนี้ 18,000 ล้านบาท งบประมาณนี้ได้แจ้งให้ทุกภาคส่วน ตำรวจ ทหาร พลเรือน ประชาชน ทราบหมดว่าใครทำอะไร ที่ไหน ได้กำชับให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ที่สำคัญผมเองจะเป็นประธานในการเร่งรัดติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ต่อข้อถามที่ว่าข้อเสนอในการแก้ปัญหาที่จะให้มีการใช้รูปแบบการปกครองพิเศษ เป็นไปได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ บ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของที่จะมาทดลองเล่น
หลังจากนั้น นายสุเทพ และคณะ จะเดินทางไปพบปะประชาชน และร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ด.ต.วิเชียร บุญเพรชศรี ที่วัดเนินผาโลการาม ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพในวันเดียวกัน
