xs
xsm
sm
md
lg

ยิงถล่มร้านอาหารกลางยะลา "ครู-อส.หญิง-ชาวบ้าน"สาหัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ท้าทายฝีมือรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่องโดยวานนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 13.15 น. พ.ต.อ.สมเพียร ภูวพงษ์พิทักษ์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้น และอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่ร้านอาหารตามสั่ง และป้อมจุดตรวจบริเวณ 3 แยกทางไป อ.ยะหา ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา เพียง 150 เมตร ภายในเขตเทศบาลบันนังสตา
ที่เกิดเหตุ เป็นร้านอาหารตามสั่ง ข้างโรงเรียนบันนังสตาวิทยา ชื่อร้านป้านา เป็นร้านของนายประนอม อ่องซี เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้าวของภายในร้านกระจุยกระจายตกเต็มพื้น โต๊ะ-เก้าอี้ล้มระเนระนาด ห่างกันเพียงเล็กน้อยพบกองเลือด 3 กอง ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลบันนังสตา และได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทราบชื่อ 1.น.ส.สุวนิตย์ คงสม อายุ 35 ปี อส.ชรบ.มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณมือขวา 2.น.ส.ชิดสุดา วงศ์ประชา อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 2 นัด 3.นางอรนุช กาญจนภูมิ อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณขาขวา 1 นัด ขณะนี้ทั้ง 3 คน พ้นขีดอันตรายแล้ว
ส่วนที่เกิดเหตุอีกจุดบริเวณจุดตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา บริเวณ 3 แยก ทางไป อ.ยะหา ห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 50 เมตร มีรอยกระสุนปืนจำนวนหลายจุด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้งหมดกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวัน ในร้านอาหารดังกล่าว มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่ร้านอาหารป้านา จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน
ส่วนคนร้ายอีก 1 ชุดได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่ป้อมจุดตรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาช่วยเหลือ ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เป็นการก่อเหตุร้ายเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชายวัยรุ่นต้องสงสัยไว้ได้ 8 คน และยึดรถจักรยายนต์ 1 คัน โดยตรวจสอบพบเขม่าดินปืนติดอยู่บนเสื้อผ้า และลำตัว จึงนำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.บันนังสตา

**ตร.ปัตตานีคุยรู้เบาะแสบึ้มจยย.แล้ว
พ.ต.อ.วัลลพ จำนงค์อาสา ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดหน้าสถานีตำรวจภูธรสายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นายว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งมีเบาะแสหลายอย่าง โดยเฉพาะพยานหลักฐานที่เกิดเหตุทั้งโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ ทราบที่ไปที่มาชัดเจนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ อ.สายบุรี และเป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุระเบิดทหาร เสียชีวิต 2 นาย ที่ ต.มะนังดาลัม อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความประมาทของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด และตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุบริเวณใต้เบาะกับถังน้ำมันแล้ว แต่ไม่พบข้อสงสัย จึงนำรถคันนั้นกลับมาที่โรงพักเพื่อตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง และเกิดระเบิดขึ้น
ส่วนตำรวจที่บาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.ต.อ.อาลี มูเก็ม อายุ 33 ปี อาการพ้นขีดอันตราย ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลปัตตานี ส่วน ด.ต.พิทักษ์ รัตนหิรัญ บาดเจ็บเล็กน้อยกลับพักที่บ้านตั้งแต่วานนี้ สำหรับส.ต.ท.พิศาล ศิริอมาต อายุ 27 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุวันนี้จะเคลื่อนศพส่งกลับภูมิลำเนาที่บ้านเกิดเลขที่ 27 ม.7 ต.แพง อ.กุสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ส่วนศพ ด.ต.วิเชียร บุญเพชรศรี อายุ 50 ปี ญาติตั้งศพพำเพ็ญกุศลที่วัดเลียบ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี
**ยะลาปิด 5โรงเรียนหลังครูถูกยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากโรงเรียนบ้านพอแม็ง ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีครูถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา คือน.ส.เลขา อิสสระ ขณะขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านพักเพื่อมาสอนหนังสือ โดยวานนี้ (17 มิ.ย.) โรงเรียนดังกล่าวปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัด ทพ.4112 มาดูแลรักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 แจ้งว่า โรงเรียนในพื้นที่ อ.รามัน ประกาศปิดการเรียนการสอนเช่นกันรวม 5 แห่ง เพราะเกรงว่าไม่ปลอดภัย คือ โรงเรียนบ้านพอแม็ง โรงเรียนพัฒนาบาลอ โรงเรียนบ้านละแอ โรงเรียนบ้านปูลัย และโรงเรียนบ้านบือยอง โดยโรงเรียนทั้งหมดจะเปิดสอนอีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย.นี้

**"เทพเทือก"ควงผบ.ตร.ลงใต้วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 11.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตรวจเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่จ.ปัตตานี โดยมีพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และส.ส.พื้นที่ภาคใต้ร่วมคณะ โดยรองนายกฯจะลงไปติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่างๆ เยี่ยมเยียนประชาชน และร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ดต.วิเชียร เพชรศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตหลังจากมีการวางระเบิดที่รถจักรยานยนต์ ใน สภอ.สายบุรี จ.ปัตตานี และจะเดินทางกลับกรุงเทพในวันเดียวกัน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่มีการจับกุมชาวโรฮิงญาในภาคใต้ว่า จริงๆขณะนี้ทางดีเอสไอ ลงไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้รายงานแล้ว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับขบวนการนอกประเทศนั้น มีข่าวเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ ขณะนี้เป็นการเชื่อมโยงต่างๆ น่าจะเป็นเรื่องของแหล่งทุนมากกว่า ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีธุรกิจผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องทั้งหมด มาเป็นเรื่องของการแบ่งแยกดินแดนด้วย บางทีเป็นเรื่องของเงินทุนมากกว่า ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นกลุ่มอัลเคด้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าต้องเข้าใจในแง่องค์กรก่อการร้ายระหว่างประเทศ จะมีข่าวอยู่เป็นระยะๆ แต่สิ่งที่เราได้ตรวจสอบมาหลายยุค ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลนี้ ยังไม่มีการเข้ามาในลักษณะนี้ ซึ่งองค์กรเหล่านี้จ้องดูจังหวะอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องป้องกันต่อไป
เมื่อถามว่า มีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองระหว่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า มี เวลาไปประเทศเพื่อนบ้าน ก็ขอความร่วมมือในเรื่องนี้ และประสานงานกันอยู่ ซึ่งการจับกุมของดีเอสไอในครั้งนี้ ก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่จะทำได้มากน้อย หรือขยายผลได้มากน้อยแค่ไหน ยังต้องทำงานกันอีกเยอะ
"มันมีกระบวนการ และกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม เราพอทราบ แต่โครงสร้างของเขาอาจจะไม่เหมือนกับปัญหาลักษณะเดียวกันกับต่างประเทศ ที่มันจะมีการเปิดเผยชัดเจน แต่มันจะมีเป็นกลุ่มๆอยู่"นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบคำถามที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลยังไม่รู้ว่าสู้กับใคร
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาระบุว่า มีกลุ่มนายทหารและตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป ขอให้เป็นเรื่องการดำเนินการภายในองค์กร ซึ่งผู้บังคับบัญชาคงจะมีการตรวจสอบอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่อดีตนายทหารระดับสูงหลายคน ออกมาวิจารณ์การข่าวในพื้นที่ของรัฐบาลว่าล้มเหลวนั้น นายถาวร กล่าวว่า ขอให้วิจารณ์ไป แต่ขอให้ย้อนไปดูสมัยที่ยังรับราชการอยู่ด้วยว่าเคยเห็นอย่างนี้หรือไม่ การวิจารณ์ว่าล้มเหลวเป็นการวิจารณ์ที่ง่าย ไม่ต้องรับผิดชอบไม่อยากพูดว่าเพ้อเจ้อ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ถูกกดดันในการทำงาน ยังทำงานอยู่ตามปกติ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทหารพยายามเตะถ่วงให้การออก พ.ร.บ.สำนักงานบริหารกิจการชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ล่าช้า เพราะเป็นกฎหมายตัดทอนอำนาจของทหารนั้น นายถาวร กล่าวว่า อยู่ที่นโยบายฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำไม่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล และรัฐบาลก็ไม่ได้แหยงทหาร ยืนยันว่าจะผลักดันกฎหมาย สบ.ชต. ต่อไป

**ส.ว.จี้รัฐเร่งจับกุมโจรใต้ยิงมัสยิด
นายวรวิทย์ บารู ส.ว.ปัตตานี พร้อมด้วยกลุ่ม ส.ว.เพื่อนพี่น้องชายแดนใต้ อาทินายต่วน อับดุลเลาะ ดาโอ๊ะมารียอ ส.ว.ยะลา นางสาวรสนา โตสิตระกุล ส.ว.กทม.นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นายตวง อันทะไชย นายคำณูน สิทธิสมาน และนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ได้ร่วมกันแถลงข่าวเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวรวิทย์ กล่าวว่า ปัญหาขณะนี้ลำพังแค่ ส.ว.ในพื้นที่ คงไม่พอ ดังนั้นเพื่อน ส.ว.จากทั่วประเทศ จึงร่วมกันตั้งกลุ่ม เพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่อรัฐบาล ดังนี้คือ
1.รัฐต้องเร่งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่โดยเร่งด่วน เน้นที่ความร่วมมือ และให้ความสำคัญต่อประชาชนในชุมชน เพราะรู้ข้อมูลดีกว่าเจ้าหน้าที่
2. ต้องเร่งสอบสวนและติดตามหาคนร้าย โดยเฉพาะกลุ่มที่ยิงมัสยิด ที่อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทุกอย่างต้องทำให้โปร่งใส ไม่เดินตามธงที่ตั้งไว้ ซึ่งจะได้คำตอบจริง อย่าใช้แค่เจ้าหน้าที่อย่างเดียว แต่ควรมีคณะกรรมการกลาง เข้าไปร่วมด้วย จะสร้างความรู้สึกร่วมของประชาชนได้
นายวรวิทย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา โดยปรับกระบวนทัศน์ใหม่ในหลายด้านอาทิ ต้องเข้าใจภูมิรัฐศาสตร์พื้นที่ให้ถ่องแท้กว่านี้ การมองประชาชนในพื้นที่ต้องมองอย่างเข้าใจถึงวัฒนธรรม ไม่ใช่มุ่งล้างสมอง ซึ่งความเข้าใจของผู้ปฏิบัติต่อพื้นที่มีส่วนสำคัญมาก ที่ผ่านมามีการทุ่มเทงบประมาณลงไปมากมาย แต่ไม่เคยมีโครงการที่จะพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ถนน 4 เลน ของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ก็ยังสร้างไม่เสร็จ สะพานข้ามแม่น้ำตากใบ ก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นิคมอาหารฮาลาล ก็ยังไม่คืบหน้า นอกจากนี้กฎหมายต่างๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ก็อืดอาดล่าช้า
เมื่อถามว่า มองแนวทางการแก้ปัญหาที่รัฐบาลนำการเมืองนำการทหาร แต่กลับทุ่มเทงบประมาณไปยังฝ่ายความมั่งคงอย่างเดียว อย่างไร นายวรวิทย์ กล่าวยอมรับว่าไม่มีใครปฏิเสธ การทุ่มเทเม็ดเงินของรัฐบาลลงไปในพื้นที่ว่าเกินพอที่จะแก้ปัญหา แต่งานที่จะสร้างและพัฒนาพื้นที่ให้ยั่งยืน กลับโดนฝ่ายความมั่นคงยึดไปหมด งบส่วนใหญ่ทุ่มไปที่การจัดสัมมนาตามโรงแรมของฝ่ายความมั่นคง สำหรับการจัดซื้อบอลลูน เรือเหาะ ตรวจการของทางกองทัพจะได้ผลหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ไม่น่าจะได้ผล รู้สึกเสียดายเงินกว่า 300 ล้านบาท ที่นำมาจัดซื้อ เพราะพื้นที่ภาคใต้เป็นลักษณะเฉพาะ มีแต่ต้นไม้และป่า ไม่เหมือนทะเลทราย ไม่เหมือนประเทศอิรัก ที่มีแต่ทะเลทราย
กำลังโหลดความคิดเห็น