ยะลา-นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ยะลา พบปะชาวบ้าน และ ร่วมเคารพศพพระสมบัติ ศรีสุวรรณวิเชียร ซึ่งถูกคนร้ายยิงมรณภาพ พร้อมนำเงินมอบให้กับญาติเพื่อเยียวยาช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้สองทางออกป้องกันพระถูกทำร้าย
วันนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ ศาลาการเปรียญ วัดวาลุการาม (วัดคลองทรายใน) หมู่ที่ 5 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางไปพบปะชาวบ้าน และ ร่วมเคารพศพ พระสมบัติ ศรีสุวรรณวิเชียร (สมบัติ อาทโร) ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า (AK 47) ยิงเข้าใส่จนมรณภาพ ขณะออกบิณฑบาต เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.20 น. ของวานนี้ บนถนนสายท่าสาป - คลองขุด หมู่ที่ 5 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และ ประชาชนร่วมให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ นายถาวรยังได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ญาติของ พระสมบัติเป็นเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นนายถาวรและคณะ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมืองยะลา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของพระธวัชชัย ไชยหมาน ซึ่งถูกยิงพร้อมกับพระสมบัติและยังมอบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง
นายถาวรกล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ต้องพยายามทำความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนทุก ๆ หมู่เหล่า ให้เห็นว่าการกระทำที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องมุสลิมซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันสูญเสีย ได้รับบาดเจ็บ และ ล้มตาย พี่น้องไทยพุทธรวมทั้งพระสงฆ์ที่ต้องมรณภาพ จะต้องใจเย็นและมีความอดทน ขอให้บ้านเมืองรีบเร่งทำความเข้าใจอย่าให้เกิดความแตกแยกระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธและชาวมุสลิม อย่าให้มีการติดขัดในการแก้ไขปัญหา ให้รีบทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดเพื่อจะให้เกิดความกระจ่างชัดว่าใครเป็นคนร้าย ทำเพื่อวัตถุประสงอะไร และไม่ต้องเกรงกลัวว่าฝ่ายไหนเป็นคนร้าย ใครเป็นคนร้าย ขอให้เจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายที่แท้จริงมาดำเนินคดี แล้วเหตุการณ์ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนในเรื่องของการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ หรือ ชาวไทยมุสลิม ทางรัฐบาลเองได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบดูแลรีบทำการเยียวยา และทำความเข้าใจกับข่าวที่แพร่สะพัด ซึ่งฝ่ายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ได้ใช้สถานการณ์ในช่วงนี้ แจกใบปลิวในรูปแบบต่างๆ ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกิดความสับสน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ตั้งสติ ส่วนในเรื่องของการดูแลพระสงฆ์ที่วัด รวมทั้งผู้นำศาสนาอิสลามที่ไปประกอบศาสนกิจในมัสยิด ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำการดูแลวัดทุกวัด และมัสยิดทุกมัสยิด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้รับความปลอดภัย
สำหรับพระสงฆ์ที่จะต้องออกไปบิณฑบาต ให้มีทางเลือก 2 ทางคือ 1.ให้พุทธศาสนิกชนให้ไปทำบุญที่วัด 2.หรือพระสงฆ์มีความประสงค์ที่จะออกบิณฑบาตก็จะให้มีผู้คุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งฝ่ายปกครอง มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย สิ่งเหล่านี้นั้นเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่มีความอ่อนไหวซึ่งทางรัฐบาลเองจะดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ดีที่สุด ข้าราชการที่ลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเองรู้ดีว่ามีความเหน็ดเหนื่อยมาก แต่ความเหน็ดเหนื่อยนั้นจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่จะนำไปสู่สันติสุขต่อไปในภายภาคหน้า
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ได้มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้แล้วและได้มีการวิเคราะห์ในเชิงลึก ซึ่งทางรัฐบาลรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่สามารถเปิดเผยออกสู่ที่สาธารณะได้ ซึ่งในขณะนี้ต้องสร้างความเข้าใจให้มากที่สุด และ เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเข้าถึงพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายให้มากที่สุด อีกทั้งรัฐบาลก็จะเร่งการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการส่งเสริมการประกอบอาชีพ การเพิ่มรายได้ โดยรัฐบาลได้มีจัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 54,000 ล้านบาท ออกมาในรูปแบบแผนงานโครงการต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เมื่องบประมาณผ่าน ก็จะเร่งดำเนินการทันที คิดว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น และ ขอให้กำลังใจกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนให้สู่ต่อไป
