หนุนชาวบ้านเลี้ยง “ปลากะรังหน้างอน” สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ราคาสูง-ตลาดต้องการเพียบ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ประมงภูเก็ตส่งเสริมชาวบ้านเลี้ยง “ปลากะรังหน้างอน” สัตว์เศรษฐกิจใหม่ ขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 3 พันบาท เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ ระบุที่ภูเก็ตเป็นที่แรกที่นำมาเลี้ยงในน้ำกร่อยได้ประสบความสำเร็จ

นายอำนาจ ศิริเพชร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงปลากะรังหน้างอน ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ รวมทั้งส่งเสริมการปลาน้ำจืด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปัจจุบันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต จึงเข้าไปส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงปลาน้ำจืดและสัตว์ทะเลให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้าน

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เข้าไปให้ความรู้ประชาชน ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังที่คลองเกาะกุ๋ย เขต.เทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำเสียจากบ่อฝังกลบขยะของเทศบาลนครภูเก็ต จนทำให้ปลากะพงและปลาอื่นๆ ที่เลี้ยงไว้ตาย ให้หันมาเลี้ยงปลาเศรษฐกิจตัวใหม่เพิ่มขึ้นจากปลาชนิดเดิมที่เคยเลี้ยงไว้ โดยเลือกปลากะรังหน้างอนซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ซื้อขายกันในต่างประเทศราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 3,000 กว่าบาท ส่วนในประเทศขายกันกิโลกรัมละประมาณ 1,200-1,600 บาท

สำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงปลากะรังหน้างอนที่ภูเก็ต มีประมาณ 10 ราย และที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็นที่แรกที่มีการเลี้ยงปลากะรังหน้างอนในคลอง ซึ่งเป็นน้ำกร่อยประสบความสำเร็จ ส่วนพื้นที่อื่นนั้นส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในทะเลที่เป็นน้ำเค็ม

ขณะนี้มีเกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงปลากะรังหน้างอนเป็นฟาร์มใหญ่ แต่สำนักงานยังไม่ได้เข้าไปส่งเสริม เพราะขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการทดลองตลาด ซึ่งตลาดหลักของปลากะรังหน้างอนนั้นจะอยู่ที่จีน และปลายในประเทศ อย่างไรก็ตามจะต้องเข้าไปดูในเรื่องตลาดมากกว่านี้ ถ้าหากมีตลาดที่กว้างขึ้น สำนักงานประมงจะเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงมากกว่านี้ เพื่อสร้างมูลค่าการส่งออกให้กับสินค้าเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต

นายอำนาจ กล่าวต่อไปว่า การเลี้ยงปลากะรังหน้างอน ในปัจจุบันนี้ไม่ต้องไปจับลูกปลาในทะเลมาเลี้ยงเนื่องจากมีการเพาะขยายพันธุ์ได้แล้ว โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง จ.กระบี่ ซึ่งนอกจากจะนำมาเลี้ยง เพื่อเป็นอาหารและส่งไปขายต่างประเทศแล้ว ปลากะรังหน้างอนยังสามารถนำมาเลี้ยงเป็นปลาตู้ เพื่อความสวยงามได้อีกด้วย

ในส่วนของการเลี้ยงเพื่อส่งไปขายนั้นจะใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 8 เดือน ปลาจะได้ขนาดตัวละประมาณ 1 กิโลกรัมซึ่งสามารถจับขายได้แล้ว

นายอำนาจ กล่าวต่อไปว่า นอกจากจะส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงปลาในทะเลแล้ว ทางสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตยังได้เข้าไปส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่เลี้ยงปลาน้ำจืดด้วย เนื่องจากปัจจุบันนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีคนจากจังหวัดอื่นๆ เข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมักจะนำมาน้ำจืดมาประกอบอาหาร ซึ่งต่างจากคนภูเก็ตที่ไม่นิยมรับประทานปลาน้ำจืด เมื่อมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นจึงได้เข้าไปส่งเสริม ขณะนี้ทั้งจังหวัดมีประชาชนเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกในการเลี้ยงปลาดุก และปลาน้ำจืดผสมเกือบ 100 รายแล้ว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างดี เพราะปลาที่นำมาเลี้ยงสามารถขายได้ราคาดี และคุ้มค่ากับการลงทุน