ศูนย์ข่าวภูเก็ต -หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมบูรณาการกำหนดมาตรการป้องกันลักลอบจับพะยูนขายเพื่อรับประทาน-ทำยา ขณะที่ จนท.ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากเตรียมผ่าซากโลมากระโดดพรุ่งนี้อีก 1 ตัว เผยในภูเก็ตพบโลมากระโดดจำนวน 2 ฝูง
นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษและหัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการออกมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบจับพะยูน เพื่อนำไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อบ้านของกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ว่า สำหรับเรื่องของการลักลอบจับพะยูน เพื่อจำหน่ายเป็นอาหารและยาของกลุ่มบุคคลนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
เหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดตรัง หลังจากมีข่าวทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีการลักลอบจับพะยูนเพื่อนำไปขายจริง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันกำหนดมาตรการในการป้องกัน เนื่องจากปัจจุบันนี้พะยูนในฝั่งทะเลอันดามันมีจำนวนไม่มากนัก และมีแนวโน้มว่าจำนวนพะยูนจะมีจำนวนลดลง
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัดตรัง สำนักงานประมง กรมอุทยานแห่งชาติเขตห้ามล่าเขาลิบง กรมทรัพยากรทางทะเล และหน่วงงานอื่นทั้งจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดตรัง ร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการ ในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบจับพะยูน เพื่อนำไปจำหน่ายแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ตาม
นางสาวกาญจนา กล่าวต่อไปว่า มาตรการการป้องกันการลักลอบจับพะยูน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกลาดตระเวนอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการป้องปรามกลุ่มบุคคลที่คิดจะลักลอบจับพะยูน โดยการทำงานนั้นจะทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือในทุกด้าน
สำหรับจำนวนประชากรพะยูนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 200 กว่าตัวเท่านั้น โดยการลักลอบจับพะยูนนั้นกลุ่มบุคคลที่ลักลอบจับจะนำอวนไปวางในบริเวณที่พะยูนว่ายน้ำเข้ามาหากิน เมื่อน้ำลงพะยูนว่ายน้ำออกไปก็จะติดอวนที่นำมาวางไว้ หลังจากนั้นจะใช้เรือเร็วเข้าไปนำพะยูนออกมา และส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน
นางสาวกาญจนายังได้กล่าวต่อไปถึงการผ่าซากลูกโลมากระโดด ซึ่งถูกคลื่นทะเลซัดเข้ามาเกยตื้นที่หาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่คืนวันที่ 10 พ.ค.52 ว่า โลมาดังกล่าวเป็นเพศเมีย อายุยังไม่ถึง 1 ปี มีความยาว 170 เซนติเมตร และหนัก 41 กิโลเมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ คาดว่าน่าจะหลงฝูงเข้ามา ซึ่งการผ่าพิสูจน์นั้นจะทำการผ่าในวันพรุ่งนี้ เพื่อตรวจสอบเนื้อเยื่อ กระเพาะอาหาร และอวัยวะภายในอื่นๆที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างชัดเจนต่อไป
สำหรับการสำรวจประชากรของโลมากระโดดนี้ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จากการสำรวจและเก็บข้อมูล ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ในพื้นที่มีจำนวน 2 ฝูง ฝูงละประมาณ 10 ตัว ที่ชาวประมง นักดำน้ำและนักท่องเที่ยว มักจะพบเห็นอยู่บริเวณน่านน้ำใกล้หาดป่าตอง อำเภอกะทู้ กับเกาะราชาใหญ่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต และตัวที่เสียชีวิตนี้ สันนิษฐานว่าอาจจะหลงฝูงและมาเกยตื้นจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี ซากโลมาที่พบนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยที่จะพบบ่อยนักและก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2550 เจ้าหน้าที่ ช่วยลูกโลมาชนิดเดียวกันที่เกยตื้นบริเวณหาดกะรน 1 ตัวและนำมาอนุบาล จากนั้นเมื่อแข็งแรง ได้นำไปปล่อยในถิ่นที่อาศัยในทะเลลึก
นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษและหัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการออกมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบจับพะยูน เพื่อนำไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อบ้านของกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ว่า สำหรับเรื่องของการลักลอบจับพะยูน เพื่อจำหน่ายเป็นอาหารและยาของกลุ่มบุคคลนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
เหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดตรัง หลังจากมีข่าวทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีการลักลอบจับพะยูนเพื่อนำไปขายจริง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันกำหนดมาตรการในการป้องกัน เนื่องจากปัจจุบันนี้พะยูนในฝั่งทะเลอันดามันมีจำนวนไม่มากนัก และมีแนวโน้มว่าจำนวนพะยูนจะมีจำนวนลดลง
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัดตรัง สำนักงานประมง กรมอุทยานแห่งชาติเขตห้ามล่าเขาลิบง กรมทรัพยากรทางทะเล และหน่วงงานอื่นทั้งจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดตรัง ร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการ ในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบจับพะยูน เพื่อนำไปจำหน่ายแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ตาม
นางสาวกาญจนา กล่าวต่อไปว่า มาตรการการป้องกันการลักลอบจับพะยูน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกลาดตระเวนอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการป้องปรามกลุ่มบุคคลที่คิดจะลักลอบจับพะยูน โดยการทำงานนั้นจะทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือในทุกด้าน
สำหรับจำนวนประชากรพะยูนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 200 กว่าตัวเท่านั้น โดยการลักลอบจับพะยูนนั้นกลุ่มบุคคลที่ลักลอบจับจะนำอวนไปวางในบริเวณที่พะยูนว่ายน้ำเข้ามาหากิน เมื่อน้ำลงพะยูนว่ายน้ำออกไปก็จะติดอวนที่นำมาวางไว้ หลังจากนั้นจะใช้เรือเร็วเข้าไปนำพะยูนออกมา และส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน
นางสาวกาญจนายังได้กล่าวต่อไปถึงการผ่าซากลูกโลมากระโดด ซึ่งถูกคลื่นทะเลซัดเข้ามาเกยตื้นที่หาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่คืนวันที่ 10 พ.ค.52 ว่า โลมาดังกล่าวเป็นเพศเมีย อายุยังไม่ถึง 1 ปี มีความยาว 170 เซนติเมตร และหนัก 41 กิโลเมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ คาดว่าน่าจะหลงฝูงเข้ามา ซึ่งการผ่าพิสูจน์นั้นจะทำการผ่าในวันพรุ่งนี้ เพื่อตรวจสอบเนื้อเยื่อ กระเพาะอาหาร และอวัยวะภายในอื่นๆที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างชัดเจนต่อไป
สำหรับการสำรวจประชากรของโลมากระโดดนี้ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จากการสำรวจและเก็บข้อมูล ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ในพื้นที่มีจำนวน 2 ฝูง ฝูงละประมาณ 10 ตัว ที่ชาวประมง นักดำน้ำและนักท่องเที่ยว มักจะพบเห็นอยู่บริเวณน่านน้ำใกล้หาดป่าตอง อำเภอกะทู้ กับเกาะราชาใหญ่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต และตัวที่เสียชีวิตนี้ สันนิษฐานว่าอาจจะหลงฝูงและมาเกยตื้นจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี ซากโลมาที่พบนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยที่จะพบบ่อยนักและก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2550 เจ้าหน้าที่ ช่วยลูกโลมาชนิดเดียวกันที่เกยตื้นบริเวณหาดกะรน 1 ตัวและนำมาอนุบาล จากนั้นเมื่อแข็งแรง ได้นำไปปล่อยในถิ่นที่อาศัยในทะเลลึก
