สมาคมประมงชายฝั่งทะเล ตอ.ออกโรงดันพิสูจน์ตู้ปริศนา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมประมงภาคตะวันออก ผลักดันรัฐยกตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาพิสูจน์ หวั่นเป็นตู้เจ้าปัญหามีสารพิษร้ายทำลายสิ่งแวดล้อมในทะเลเสียหาย ทำลายการท่องเที่ยว การประมง เรียกร้องให้รัฐบาลนำตู้ขึ้นมาผ่าพิสูจน์ ไม่ได้สนใจเรื่องมีศพ แต่สนใจธุรกิจประมงพังถ้ามีสารพิษ

นายสณชัย เชี่ยนมั่น นายกสมาคมประมงช่องแสมาสาร อำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่า สำหรับการพบตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาในทะเล ซึ่งจมอยู่ในร่องน้ำเดินเรือ และเป็นแหล่งปลาชุกชุมที่สุดในบริเวณอ่าวนี้ เรือประมงทั้งในและนอกพื้นที่ต้องไปลากปลากันในบริเวณนี้ จนอวนติดกับตู้จำนวนมากมานานนับสิบปี แต่ไม่มีกล้าฟันธงว่าภายในตู้มีอะไรอยู่ ในเมื่อมีกระแสข่าวและการวิเคราะห์กันว่าข้างในมีสารพิษ และมีซากศพ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการพิสูจน์ทราบ เรื่องศพต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญจะก่อความเดือดร้อนให้กับธุรกิจประมง ธุรกิจท่องเที่ยวชายฝั่ง ดำน้ำใต้ทะเล อย่างแน่นอนถ้าเป็นสารพิษ ประเทศชาติต้องได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

สมาคมประมงในภาคตะวันออกทั้งหมดในขณะนี้ ต้องการให้รัฐบาลนำตู้คอนเทเนอร์ขึ้นมาพิสูจน์ให้ได้ว่าภายในบรรจุสิ่งใดไว้ ถ้าขืนปล่อยไว้เมื่อเกิดผุพังไปตามกาลเวลาสารพิษจะต้องกระจายออกไปสู่ทะเลในวงกว้าง วัตถุ สิ่งมีชีวิตต้นไม้ สัตว์ทะเล จะต้องได้รับผลกระทบ หรืออาจจะทำให้สัตว์ทะเลหนีหายไปจากแหล่งปลาชุกชุมแห่งนี้ และใกล้เคียง จึงอยากให้รัฐบาลมีการแก้ไขต้องนำขึ้นมาพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าคืออะไร

ด้าน นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง เลขานุการฝ่ายโครงการจัดการชายฝั่งแบบบูรณาการจังหวัดชลบุรี (I.C.M) ภายใต้ความร่วมมือของโครงการสร้างพันธมิตรในการจัดการสิ่งแวดล้อมในทะเลเอเชียตะวันออก หรือ PEMSEA กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวเรื่องการพบตู้คอนเทเนอร์ในทะเลซีกภาคตะวันออก จำนวน 8 ตู้ และมีข้อมูลท้องถิ่นว่าพบตั้งแต่ประมาณต้นปี พ.ศ.2536 เปรียบเสมือนสิ่งปฏิกูลกีดขวางการลากอวนในทะเล มานาน และมีกระแสข่าวว่าภายในตู้อาจเป็นสารพิษชนิดใดชนิดหนึ่ง อีกทั้งซากมนุษย์ ทำให้การตื่นตัวของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ธุรกิจประมงทั้งในและนอกชายฝั่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง

ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลนำตู้คอนเทนเนอร์มาพิสูจน์ทราบให้แน่ใจว่าเป็นอะไรแน่นอน ถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนี้รับรองได้ว่าประชาชน องค์กรต่างๆ จะออกมาเรียกร้องให้มีการดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องของมลพิษ ทำให้มลภาวะในทะเลเสียหายในเรื่องของธุรกิจประมง การท่องเที่ยวในภาคตะวันออกอย่างแน่นอน