นายกฯ สั่งชะลอยกตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาตรวจสอบหวั่นสารพิษ และค่าใช้จ่ายสูง แนะตรวจสอบอายุย้อนหลัง ยันจะใช้หลักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่หวั่นโยงการเมือง ด้าน “หมอพรทิพย์” มั่นใจจงใจทิ้งลงทะเล ไม่ทิ้งประเด็นศพวีรชน
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ที่ จ.ชลบุรี ว่า จากอายุที่มีการประเมินว่า น่าจะประมาณ 20 กว่าปี และโยงกับเหตุการณ์ 20 กว่าปีที่แล้วที่เคยมีการนำตู้คอนเทนเนอร์เข้ามา และไม่มีคนรับ ทางกรมศุลกากรก็ให้เอาตู้คอนเทนเนอร์นี้กลับออกไป เข้าใจว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการหย่อนตู้ลงไป เราจึงต้องการให้มีการยืนยันตรงนี้ให้ได้ โดยความเป็นไปได้ ก็คือ ที่ตัวตู้มันจะต้องมีส่วนของกรมศุลกากร ที่มีการบันทึกเอาไว้ตรงนั้น และอาจจะตรวจสอบเรื่องของอายุประการังได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้การที่จะนำตู้ขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ส่วนการจะไปเจาะก็มีปัญหาว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีสารพิษ
“ความที่เราเป็นห่วงเรื่องสารพิษ ผมคิดว่าต้องมีการพิสูจน์ว่าตู้นี้มาอย่างไร แล้วใครต้องมีความรับผิดชอบเอาออกไป และผมคิดว่าคงไม่ยกตู้ฯขึ้นมาหรอกครับ เพราะทั้งค่าใช้จ่าย เรื่องความเสี่ยงของสารพิษต่างๆ แต่เบื้องต้นจะให้กองทัพเรือ นิติวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญที่สามารถพิสูจน์เรื่องอายุได้ ดำเนินการก่อน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานขณะนี้มั่นใจหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพฤษภาทมิฬ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบเรื่องอายุให้ชัดเจนอีกทีหนึ่ง เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญคาดว่าประมาณ 20 กว่าปี เมื่อถามต่อว่า เรื่องกะโหลก มีการรายงานข้อเท็จจริงเข้ามาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน ที่จริงเรื่องนี้เคยมีการมอบหมายกันไปแล้ว บางหน่วยงานไปสอบก็ไม่คิดว่ามีตู้ฯ ฉะนั้นก็จะให้เกิดความมั่นใจเที่ยวนี้ คิดว่าน่าจะมีหลายวิธีที่จะพิสูจน์อายุได้ เมื่อถามว่า ตกลงจำนวนตู้คอนเทนเนอร์มีเท่าไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่รายงานมาก็มีตู้ที่ทิ้งหย่อนลงไป อยู่ในลักษณะที่เอียง มีปะการังรอบๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการพิสูจน์ไปแล้ว คิดว่าจะสามารถปิดตำนานเรื่องโครงกระดูกวีรชนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนปัญหาเรื่องญาติวีรชน ที่เขายังตามหาผู้สูญหายด้วย ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วยกันทำต่อ มีข้อมูล เบาะแสอะไรใหม่ก็ยังต้องทำให้เขา ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องต่างหาก แต่เรื่องตู้นี้ ถ้าไปโยงว่า สงสัยจะมีการพิษหรือไม่ก็ต้องจัดการด้วย ส่วนจำนวนเท่าไรนั้นเขายังไม่ให้ตัวเลขมา แต่เราก็ต้องดูให้ดี เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ ที่อาจจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ มาเป็นประเด็นทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็ทำทุกอย่างตรงไปตรงมาที่สุด และจะให้เป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด ก็ไม่น่าที่จะมีประเด็นอะไรที่จะโยงใยเรื่องการเมือง
ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เรายังไม่แน่ชัดว่ามันมีอะไรอยู่ข้างในตู้ฯ หากเราดำเนินการไม่รอบคอบอาจเกิดความเสียหายขึ้น ก็จะมีปัญหาเรื่องการควบคุมหากสารพิษ มีการแพร่กระจายในทะเล ดังนั้นเราต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนก่อน ดังนั้นเบื้องต้นจะยังไม่มีการยกตู้ฯขึ้นมา เนื่องจากไม่คุ้มค่าที่จะยก ดังนั้นจะทำตามแนวทางของนายกฯคือตรวจสอบว่าเป็นอะไร เป็นของใคร และใครเป็นคนรับผิดชอบ เพราะตู้ฯจะต้องมีเจ้าของ อีกทั้งตัวตู้ฯจะมีสี ตัวอักษร เพื่อให้พิสูจน์ได้ว่าใครคือเจ้าของตู้ฯนี้ และยิ่งมีฐานข้อมูลของกรมศุลกากรอย่างน้อยต้องไปตามคนเป็นเจ้าของมาร่วมรับผิดชอบ เราคงไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลา แต่มันจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการตรวจสอบ แต่ก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ด้าน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ตนได้รายงานนายกฯเบื้องต้นว่า มีผู้แนะนำวิธีเจาะเข้าไปดู ส่องกล้อง แล้วก็ยกขึ้นมา แต่มีผู้ท้วงติงว่าการส่องกล้องให้ระวังสารพิษกับระเบิด บังเอิญเราได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลายสิบปีก่อนมีกระบวนการทิ้งสารเคมี ซึ่งเป็นขยะสารพิษ ไม่ได้มีการดำเนินการระบบการค้าในประเทศไทย ทางกรมศุลได้ดำเนินการผลักดันออก อาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะนำไปทิ้งทะเล กระบวนการจากนี้ไปคงต้องเป็นเรื่องของการตรวจสอบของกองเรือตรวจทุ่นระเบิด เพื่อสำรวจว่ามีตู้ฯอยู่หลายใบจริงตามนั้นหรือไม่ และจะตรวจสอบตู้ฯ มีลักษณะที่เป็นตู้ที่กรมศุลกากรผลักดันออกไหม มีข้อมูลที่ตรงว่ามีบริษัทต่างๆ เกี่ยวข้องไหมจากนั้นค่อยวางแผนอีกครั้งว่า จะเปิด หรือจะยกขึ้น หรือควรทำอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า มีการตรวจสอบเรื่องเพรียงปะการังเพิ่มเติมหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า มีการประสานแล้ว เพราะจากกรณีนี้เรื่องอายุประการัง กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เปิดข้อมูลเพิ่มขึ้น และทำให้คลี่คลายได้พอสมควร ทั้งนี้ในเชิงวิทยาศาสตร์ หากเรารู้ว่าตู้ฯจมในระยะเวลาเท่าไร มันก็จะย้อนไปว่าในช่วงเวลานั้นมีอะไรได้บ้าง เพราะจุดที่พบไม่ใช่จุดเดินเรือ ดังนั้นโอกาศที่ตู้ฯจะหล่นลงไปโดยอุบัติเหตุนั้นมีน้อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าประเด็นญาติวีรชน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ทุกอย่างยังไม่ทิ้ง แต่อย่าลืมว่าเราอย่าไปมุ่งหาแต่ศพในทะเล ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนว่ากระบวนการ เรื่องศพนิรนามของเรามีปัญหา เจอศพที่ไหน แจ้งหายที่ไหน เราประมูลข้อมูลตรงนี้มาเจอกันไม่ได้ ดังนั้นเรื่องศพวีรชนคงถึงเวลาแล้วที่ต้องมีศูนย์รวม โดยเรายินดีที่จะรับข้อมูลนั้นๆ มาทั้งหมด