ผู้สื่อช่าวรายงานว่า วานนี้ (17 พ.ค.) มีการจัดงานวันรำลึกพฤษภาประชาธรรม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ที่ทหารใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีบุคคลที่ร่วมในเหตุการณ์เข้าร่วมงาน อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายโคทม อาริยา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ยังมี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทน ราษฎร และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 17 พฤษภาคม 2535 ถือเป็นบทเรียน ของสังคมไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบัน ที่จะต้องตระหนักและทบทวนว่าสังคมไทยควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นในอดีต
ขณะเดียวกัน นายสาทิตย์ ได้นำพวงมาลาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาร่วมสดุดีวีรชนด้วย โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงไม่สามารถเดินทางมาได้
นายโคทม อาริยา กล่าวว่า 17 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สังคมจะตระหนักและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ทว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีส่วนสำคัญให้ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า วันนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เมื่อปี 2535 คือช่วงที่ได้เกิดเหตุการณ์ในทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันเราเรียกกันว่า เหตุการณ์ พฤษภาประชาธรรม เป็นเหตุการณ์ที่พี่น้องประชาชนได้ออกมาเรียกร้องและต่อสู้ในเรื่องของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และวันนี้ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่วันนี้มาครบรอบ ความจริงแล้วทุกปีในช่วงเช้าอย่างนี้ตนจะไปร่วมในงานระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ว่าวันนี้ติดภารกิจในการที่มาบันทึกรายการจึงไม่ได้ไป อย่างไรก็ตามคิดว่าเป็นโอกาสที่อยากจะให้พี่น้องประชาชนได้ระลึก ถึงการต่อสู้เพื่อ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลายครั้งในอดีต
วันนี้เราก็ร่วมรำลึกถึงประชาชนที่ได้ร่วมต่อสู้ในวันนั้น แล้วผมเชื่อว่าถ้าเราระลึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว และมาทบทวนดูว่ามีอะไรบ้าง ที่เราจะส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยของเรา ก็ถือว่าเป็นการสานต่ออุดมการณ์ในการต่อสู้ ทางการเมือง เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนมีสิทธิมีเสรีภาพ มีส่วนร่วมในการชี้ชะตาอนาคตของบ้านเมืองของเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคมนั้น ก็มีงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องอยู่ ก็คือการเดินหน้าในเรื่องของการจัดทำอนุสรณ์สถาน ซึ่งขณะนี้ในเรื่องของที่นั้นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งในเรื่องของแบบก่อสร้าง ซึ่งตนได้มีโอกาสพบกับคณะกรรมการญาติวีรชน แล้วก็คิดว่าภายในครึ่งปีข้างหน้านี้ ก็จะสามารถที่จะปรับสภาพพื้นที่และ ดำเนินการในส่วนนี้ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ใต้ทะเลที่ญาติผู้สูญหาย สงสัยว่าอาจเป็นศพที่เกิดขึ้นในช่วงพฤษภาทมิฬแล้วนำไปทิ้งกลางทะะลวนั้น ขณะนี้ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตู้คอนเทนเนอร์น่าจะมีอายุมากกว่า 20 ปี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 17 พฤษภาคม แต่อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นที่จะต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติม ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายที่ไปทำงานในเรื่องนี้เสนอแนะมาว่าจะทำอย่างไร เพราะว่าถ้าจะยกขึ้นมาก็ต้องใช้งบประมาณมากพอสมควร ซึ่งมีผู้เสนอมาหลายวิธีในการตรวจพิสูจน์เช่น การเจาะตู้คอนเทนเนอร์เข้าไป หรือจะเอาปะการังมาพิสูจน์ในเรื่องของอายุ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่จะมีการดำเนินการติดตามต่อไป
เราก็ต้องการที่จะให้ญาติของผู้ที่ได้สูญหายไปได้มีความสบายใจ และขณะนี้เราก็ต้องการที่จะให้ประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์สำคัญ ๆ นั้น เราได้ทราบข้อเท็จจริง มากที่สุดเท่าที่เราจะทราบได้ และเผยแพร่ต่อไปเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับพี่น้องประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้งว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าตู้คอนเทนเตอร์มีอายูกว่า 20 ปี ซึ่งก็จะไปโยงกับเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วมีการนำตู้คอนเทรนเนอร์เข้ามาในประเทศแล้วไม่มีคนรับ ทางกรมศุลกากรจึงให้นำตู้คอนเทรนเนอร์นี้กลับออกไปจึงเข้าใจว่าอาจมีการ หย่อนตู้คอนเทรนเนอร์ลงไปในทะเล เราต้องการให้มีการยืนยันตรงนี้ให้ได้โดยที่ตัวตู้คอนเทรนเนอร์จะมีการบันทึกรายละเอียดของกรมศุลกากร นอกจากนั้นอาจจะตรวจสอบอายุของปะการังได้อีกทางหนึ่ง แต่การนำขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และถ้าเจาะก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีสารพิษ
รัฐบาลเป็นห่วงในเรื่องสารพิษอย่างมากจึงต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่า ตู้คอนเทรนเนอร์นั้นมาอย่างไรและใครต้องรับผิดชอบ ในการเอาตู้คอนเทรนเนอร์กลับออกไป เบื้องต้นมีรายงานว่ามีเพียง 1 ตู้ที่มีการทิ้งหย่อนลงไป และอยู่ในลักษณะที่เอียง และมีปะการังอยู่รอบๆตู้คอนเทรนเนอร์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคงจะไม่มีการยกตู้คอนเทนเตอร์ขึ้นมาเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้ข่าย และมีความเสี่ยงในเรื่องของสารพิษ แต่ในเบื้องต้นจะมอบหมายให้กองทัพเรือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถพิสูจน์เรื่องอายุดำเนินการก่อน และขั้นตอนต่อไปต้องพิสูจน์และหาคนที่จะเอาตู้คอนเทรนเนอร์ออกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากหลักฐานที่ปรากฎขณะนี้แสดงให้เห็นว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาทมิฬฯ ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบเรื่องอายุให้เรียบร้อยเสียก่อน และในเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีอายุประมาณ 20 กว่าปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ญาติวีรชนยังคงตามหาผู้สูญหาย ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะช่วยกันทำกันต่อไปหากมีเบาะแสหรือมีข้อมูลอะไรใหม่ เราก็ต้องช่วยทำให้ญาติวีรชน ส่วนเรื่องตู้คอนเทรนเนอร์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องตรวจสอบและถ้าไปโยงหรือมีความสงสัยว่าจะมีสารพิษเราก็ต้องตรวจสอบ
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาประชาธรรม กล่าวว่าที่พวกเราไม่สบายใจคือ เหตุใดไม่มีการพิสูจน์ตู้ ที่เปิดออกมาแล้ว แต่กลับไปพิสูจน์ตู้ที่จมทะเลอยู่ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ตำหนิรัฐบาล แต่อย่างน้อยตนอยากให้มีการพิสูจน์ ในตู้คอนเทนเนอร์ที่เปิดอยู่อีกหลายตู้น่าจะมีวิธีการพิสูจน์ได้ นอกเหนือจากนำปะการังมาพิสูจน์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพควรนำตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมา จากทะเลเพื่อพิสูจน์ เพราะมีงบประมาณมากมาย หากอ้างว่านำขึ้นมาไม่ได้เพราะค่าใช้จ่ายสูงแล้วจะเปิดใต้น้ำก็ควรให้สื่อไปสังเกตการณ์ด้วย
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในวัรนี้(18พ.ค.) เวลา 10.00 น. กลุ่มญาติวีรชนจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้กองทัพคืนศพวีรชนในการนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่กองบัญชาการทหารบก
ญาติต้องการกระดูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา เพราะขณะนี้มีกฎหมาย นิรโทษกรรมออกมาจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในขณะนี้ถือว่ามีแสงริบหรี่มาก่อความหวัง ในระยะเวลาที่รอมาอย่างเนิ่นนานกว่า 17 ปี ดังนั้นจะต้องมีการสื่อ หรือแสดงออกในการค้นหาศพได้แล้ว ซึ่งขณะนี้เรามีความหวังหลังพบโครงกระดูกในตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมาก
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 17 พฤษภาคม 2535 ถือเป็นบทเรียน ของสังคมไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบัน ที่จะต้องตระหนักและทบทวนว่าสังคมไทยควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นในอดีต
ขณะเดียวกัน นายสาทิตย์ ได้นำพวงมาลาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาร่วมสดุดีวีรชนด้วย โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงไม่สามารถเดินทางมาได้
นายโคทม อาริยา กล่าวว่า 17 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สังคมจะตระหนักและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ทว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีส่วนสำคัญให้ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า วันนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เมื่อปี 2535 คือช่วงที่ได้เกิดเหตุการณ์ในทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันเราเรียกกันว่า เหตุการณ์ พฤษภาประชาธรรม เป็นเหตุการณ์ที่พี่น้องประชาชนได้ออกมาเรียกร้องและต่อสู้ในเรื่องของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และวันนี้ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่วันนี้มาครบรอบ ความจริงแล้วทุกปีในช่วงเช้าอย่างนี้ตนจะไปร่วมในงานระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ว่าวันนี้ติดภารกิจในการที่มาบันทึกรายการจึงไม่ได้ไป อย่างไรก็ตามคิดว่าเป็นโอกาสที่อยากจะให้พี่น้องประชาชนได้ระลึก ถึงการต่อสู้เพื่อ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลายครั้งในอดีต
วันนี้เราก็ร่วมรำลึกถึงประชาชนที่ได้ร่วมต่อสู้ในวันนั้น แล้วผมเชื่อว่าถ้าเราระลึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว และมาทบทวนดูว่ามีอะไรบ้าง ที่เราจะส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยของเรา ก็ถือว่าเป็นการสานต่ออุดมการณ์ในการต่อสู้ ทางการเมือง เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนมีสิทธิมีเสรีภาพ มีส่วนร่วมในการชี้ชะตาอนาคตของบ้านเมืองของเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคมนั้น ก็มีงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องอยู่ ก็คือการเดินหน้าในเรื่องของการจัดทำอนุสรณ์สถาน ซึ่งขณะนี้ในเรื่องของที่นั้นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งในเรื่องของแบบก่อสร้าง ซึ่งตนได้มีโอกาสพบกับคณะกรรมการญาติวีรชน แล้วก็คิดว่าภายในครึ่งปีข้างหน้านี้ ก็จะสามารถที่จะปรับสภาพพื้นที่และ ดำเนินการในส่วนนี้ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ใต้ทะเลที่ญาติผู้สูญหาย สงสัยว่าอาจเป็นศพที่เกิดขึ้นในช่วงพฤษภาทมิฬแล้วนำไปทิ้งกลางทะะลวนั้น ขณะนี้ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตู้คอนเทนเนอร์น่าจะมีอายุมากกว่า 20 ปี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 17 พฤษภาคม แต่อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นที่จะต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติม ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายที่ไปทำงานในเรื่องนี้เสนอแนะมาว่าจะทำอย่างไร เพราะว่าถ้าจะยกขึ้นมาก็ต้องใช้งบประมาณมากพอสมควร ซึ่งมีผู้เสนอมาหลายวิธีในการตรวจพิสูจน์เช่น การเจาะตู้คอนเทนเนอร์เข้าไป หรือจะเอาปะการังมาพิสูจน์ในเรื่องของอายุ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่จะมีการดำเนินการติดตามต่อไป
เราก็ต้องการที่จะให้ญาติของผู้ที่ได้สูญหายไปได้มีความสบายใจ และขณะนี้เราก็ต้องการที่จะให้ประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์สำคัญ ๆ นั้น เราได้ทราบข้อเท็จจริง มากที่สุดเท่าที่เราจะทราบได้ และเผยแพร่ต่อไปเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับพี่น้องประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้งว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าตู้คอนเทนเตอร์มีอายูกว่า 20 ปี ซึ่งก็จะไปโยงกับเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วมีการนำตู้คอนเทรนเนอร์เข้ามาในประเทศแล้วไม่มีคนรับ ทางกรมศุลกากรจึงให้นำตู้คอนเทรนเนอร์นี้กลับออกไปจึงเข้าใจว่าอาจมีการ หย่อนตู้คอนเทรนเนอร์ลงไปในทะเล เราต้องการให้มีการยืนยันตรงนี้ให้ได้โดยที่ตัวตู้คอนเทรนเนอร์จะมีการบันทึกรายละเอียดของกรมศุลกากร นอกจากนั้นอาจจะตรวจสอบอายุของปะการังได้อีกทางหนึ่ง แต่การนำขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และถ้าเจาะก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีสารพิษ
รัฐบาลเป็นห่วงในเรื่องสารพิษอย่างมากจึงต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่า ตู้คอนเทรนเนอร์นั้นมาอย่างไรและใครต้องรับผิดชอบ ในการเอาตู้คอนเทรนเนอร์กลับออกไป เบื้องต้นมีรายงานว่ามีเพียง 1 ตู้ที่มีการทิ้งหย่อนลงไป และอยู่ในลักษณะที่เอียง และมีปะการังอยู่รอบๆตู้คอนเทรนเนอร์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคงจะไม่มีการยกตู้คอนเทนเตอร์ขึ้นมาเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้ข่าย และมีความเสี่ยงในเรื่องของสารพิษ แต่ในเบื้องต้นจะมอบหมายให้กองทัพเรือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถพิสูจน์เรื่องอายุดำเนินการก่อน และขั้นตอนต่อไปต้องพิสูจน์และหาคนที่จะเอาตู้คอนเทรนเนอร์ออกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากหลักฐานที่ปรากฎขณะนี้แสดงให้เห็นว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาทมิฬฯ ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบเรื่องอายุให้เรียบร้อยเสียก่อน และในเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีอายุประมาณ 20 กว่าปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ญาติวีรชนยังคงตามหาผู้สูญหาย ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะช่วยกันทำกันต่อไปหากมีเบาะแสหรือมีข้อมูลอะไรใหม่ เราก็ต้องช่วยทำให้ญาติวีรชน ส่วนเรื่องตู้คอนเทรนเนอร์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องตรวจสอบและถ้าไปโยงหรือมีความสงสัยว่าจะมีสารพิษเราก็ต้องตรวจสอบ
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาประชาธรรม กล่าวว่าที่พวกเราไม่สบายใจคือ เหตุใดไม่มีการพิสูจน์ตู้ ที่เปิดออกมาแล้ว แต่กลับไปพิสูจน์ตู้ที่จมทะเลอยู่ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ตำหนิรัฐบาล แต่อย่างน้อยตนอยากให้มีการพิสูจน์ ในตู้คอนเทนเนอร์ที่เปิดอยู่อีกหลายตู้น่าจะมีวิธีการพิสูจน์ได้ นอกเหนือจากนำปะการังมาพิสูจน์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพควรนำตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมา จากทะเลเพื่อพิสูจน์ เพราะมีงบประมาณมากมาย หากอ้างว่านำขึ้นมาไม่ได้เพราะค่าใช้จ่ายสูงแล้วจะเปิดใต้น้ำก็ควรให้สื่อไปสังเกตการณ์ด้วย
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในวัรนี้(18พ.ค.) เวลา 10.00 น. กลุ่มญาติวีรชนจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้กองทัพคืนศพวีรชนในการนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่กองบัญชาการทหารบก
ญาติต้องการกระดูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา เพราะขณะนี้มีกฎหมาย นิรโทษกรรมออกมาจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในขณะนี้ถือว่ามีแสงริบหรี่มาก่อความหวัง ในระยะเวลาที่รอมาอย่างเนิ่นนานกว่า 17 ปี ดังนั้นจะต้องมีการสื่อ หรือแสดงออกในการค้นหาศพได้แล้ว ซึ่งขณะนี้เรามีความหวังหลังพบโครงกระดูกในตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมาก