xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตเตรียมลุยเก็บปลาดาวหนาม 3 เกาะ 14 ก.พ.นี้เปิดรับอาสาสมัครร่วมเก็บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธ์ เกาะเฮ เกาะแอว เกาะไม้ท่อน เปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมดำเนินการ 14 ก.พ.นี้ คาดจัดเก็บปลาดาวมงกุฏหนามได้ไม่น้อยกว่า 400 ตัว

นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กล่าวถึงการจัดโครงการ “จัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธุ์ บริเวณเกาะเฮ เกาะแอว เกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต” ว่า หลังจากมีการสำรวจพบว่าบริเวณ เกาะเฮ เกาะแอวและเกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีการระบาดของปลาดาวมงกุฎหนาม รวมทั้งจำนวนขยะใต้ทะเลบริเวณดังกล่าวมีจำนวนมาก ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล แลป่าชายเลน อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรปะการัง ชมรมนักดำน้ำกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองเรือภาคที่ 3 กองกำกับการตำรวจน้ำภูเก็ตและเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต

จึงได้ร่วมกันจัดโครงการจัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธ์ขึ้น เพื่อรณรงค์รักษาความสะอาดใต้ท้องทะเลและร่วมกันเก็บขยะที่ปกคลุมบนแนวปะการังใต้ทะเล ซึ่งจะทำให้ปะการังมีโอกาสฟื้นตัวและทำให้ทัศนียภาพใต้ทะเล และบริเวณชายหาดมีความสวยงามเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ช่วยสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งให้มากขึ้น รวมทั้งลดจำนวนปลาดาวมงกุฎหนามที่กำลังระบาด และขยะบริเวณแนวปะการังให้น้อยลง

สำหรับโครงการดังกล่าวนั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.2552 ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรับสมัครอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการโดยรับไม่จำกัดจำนวน และคาดว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีอาสาสมัครเข้าร่วมดำน้ำเก็บขยะและปลาดาวมงกุฎหนามไม่น้อยกว่า 100 คน จัดเก็บปลาดาวมงกุฎหนามได้ไม่น้อยกว่า 300-400 ตัว ส่วนจำนวนขยะคาดว่าจะสามารถจัดเก็บได้จำนวนมากเช่นกัน ในพื้นที่ 3 เกาะ คือ เกาะแอว เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน ผู้สนใจจะสมัครเข้าร่วมโครงการติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 หมายเลขโทรศัพท์ 0-7639-3566-7

นายไพทูล กล่าวต่อว่า พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันมีทรัพยากรแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย วางไข่ และเลี้ยงตัวของสัตว์น้ำวัยอ่อน ของสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งประกอบอาชีพประมง นอกจากนี้แนวปะการังยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างงานและทำรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และประเทศเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท

แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังอย่างหนึ่งคือ การทิ้งขยะของเสียลงทะเลและบริเวณชายฝั่ง ทั้งจากชุมชน บ้านเรือน จากเรือท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และจากการทำการประมง ขยะเหล่านี้ได้แก่ เศษพลาสติก เศษแก้ว โฟม เศษวัสดุก่อสร้าง เศษอวน เศษเครื่องมือประมง เชือก เอ็นตกปลา ฯลฯ รวมถึงขยะที่อยู่ตามชายฝั่ง เมื่อถูกลมพัดลงสู่ทะเลจะปกคลุมทับถมบนแนวปะการัง ทำให้ปะการังแตกหัก หรือทำให้ปะการังตายในที่สุด และส่งผลต่อทัศนียภาพใต้ท้องทะเล ขาดความสวยงาม ขยะต่างๆ เหล่านี้นับวันจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากไม่มีการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล และกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยว
กำลังโหลดความคิดเห็น