ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือสุดปลื้ม งานด้านการอนุรักษ์มีประสิทธิภาพและการประชาสัมพันธ์ได้ผลดี เครือข่ายประมงพบเต่าตนุติดอวนนำมามอบคืนศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ตั้งชื่อ “บุญรอด” อายุประมาณ 5 ปี จับฝังไมโครชีฟ สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย อัลตราซาวนด์ ก่อนปล่อยลงทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ทึ่งพบมีไข่เต็มรังไข่ก่อนวัยเจริญพันธุ์ สวนทางงานวิจัยสิ้นเชิง
วันนี้ (16 ม.ค.) พลเรือตรี จักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าได้มีชาวประมง พื้นที่ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบลูกเต่าตนุติดอวนมากับเรืออวนลากอยู่กลางทะเลจึงได้ช่วยชีวิตเอาไว้ และไม่กล้าปล่อยกลับคืนสู่ทะเล เพราะไม่ทราบว่าเต่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าปล่อยไปแล้วอาจจะต้องติดอวนเรือมาอีก หรือถ้าพบคนใจร้ายอาจนำไปนำไปฆ่าแล่เนื้อทำเป็นอาหาร เอากระดองขายเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน จึงขอให้ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลจัดเจ้าหน้าที่มารับเต่าไปดูแลต่อไป
ต่อมา พลเรือตรี จักรชัย ภู่เจริญยศ ได้มอบหมายให้ นาวาเอก มนตรี จึงมั่นคง ผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับเต่าตนุ พร้อมทั้งได้ประสานไปยัง รศ.ส.พญ.ดร.นันทริกา ซันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมาทำตรวจร่างกาย ฝังไปโครชีฟ และทำการรักษาพยาบาลเต่าตนุเพศเมีย น้ำหนัก 12.5 กก. กระดองกว้าง 44 ซม.ยาว 47 ซม. ซึ่งเต่าตัวขนาดนี้จะมีอายุเพียง 5 ปี เท่านั้น และขณะที่ทำการตรวจด้วยเครื่องมือทันสมัย อัลตร้าซาวด์ พบเจ้าเต่า "บุญรอด" มีไข่ขนาดใหญ่อยู่ในรังไข่เต็มท้อง ปกติเต่าจะเจริญพันธุ์ตอนอายุ 15-18 ปี ซึ่งถือว่าเต่าตัวนี้แปลกทวนกระแสการวิจัยอย่างมาก ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะสาเหตุใด
รศ.ส.พญ.ดร.นันทริกา ซันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตรวจสภาพร่างกายลูกเต่าทะเลอย่างละเอียด พบว่าสภาพภายนอกทั่วไป มีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ผลจากการตรวจอัลตราซาวนด์พบไข่จำนวนมากอยู่ในท้องจำนวนมาก ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกสุดๆ ไม่เคยพบเห็นมาก่อนว่าเต่าจะมีไข่ก่อนวัยเจริญพันธุ์มากเพียงนี้ จากการวัดความกว้าง ความยาวของกระดอง เต่าและน้ำหนักแล้วอายุประมาณ 5 ปี เท่านั้น
จึงได้ให้ยาถ่ายพยาธิและยาบำรุง พร้อมทั้งฝังไมโครชิปที่บริเวณลำคอบนด้านขวา และได้มอบหมายให้ พลเรือตรี จักรชัย ภู่เจริญยศ ทำพิธีปล่อยเจ้าลูกเต่าปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เนื่องจากเต่าตัวดังกล่าวใช้ชีวิตในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในทะเล จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เต่าใช้ชีวิตในธรรมชาติอย่างแท้จริง เพื่อจะไปหาที่วางไข่ตามเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลอ่าวสัตหีบหรือว่ายน้ำกลับไปยังพื้นที่ซึ่งถูกปล่อยมาในครั้งแรก
พลเรือตรี จักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งกล่าวว่า นับเป็นความสำเร็จอย่างสูงที่ กองทัพเรือได้อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ทำร้ายเต่า ไม่กินไข่เต่า จนในที่สุดก็พบว่าประชาชนมีจิตสำนึกในเรื่องนี้จึงได้นำเต่ามามอบให้กองทัพเรือ ถ้าหากชาวประมงพบเต่าว่ายน้ำอยู่ในทะเลขออย่าได้ทำร้ายหรือจับ หากพบติดอวนขอให้แกะออกและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ หากเต่ามีอาการบาดเจ็บ ขอให้นำมามอบให้กับศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ เพื่อให้การช่วยเหลือก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เราต้องไม่กินเนื้อเต่าไม่กินไข่เต่า และไม่นำกระดองเต่ามาทำเครื่องประดับ พร้อมทั้งต้องช่วยกันอนุรักษ์เต่าทะเลให้แพร่พันธุ์ต่อไป เนื่องจากปัจจุบันจำนวนประชากรเต่าทะเลมีปริมาณลดลงมาก