กรมราชทัณฑ์ สร้างสำนึกสาธารณะทำทุกความดีข้าราชการ ในสังกัด ปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผุดโครงการ “สังคมสงเคราะห์ สงเคราะห์สังคม” ปลูกจิตสำนึกสาธารณะข้าราชการเรือนจำ สังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม 134 แห่ง ทำทุกความดีไม่ปล่อยผ่าน ให้สังคมใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างปกติสุข ขยายผลแทรกซึมเข้าสู่ผู้ต้องขัง พ้นโทษต้องเป็นคนดีของครอบครัว สังคม ประเทศชาติ

วันนี้ (14 ก.ย.) นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ และผู้แทนเรือนจำต่างๆ ทั้ง 134 แห่งทั่วประเทศ ได้เดินทางมายังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ทะเล กองทัพเรือ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อขยายผลกิจกรรมโครงการ ราชทัณฑ์ยุคใหม่ รักษ์เต่าทะเลไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมี นาวาเอก เอกราช พรหมลัมภัก ผู้บังคับการ กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 ผู้แทน พลเรือตรี ชัยวัฒน์ ศรีอักขรินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ให้การต้อนรับ พร้อมเชิญคณะเข้าห้องประชุม ณ อาคารรูปตัวเต่า เพื่อชมและฟังบรรยายสรุปด้วยวิดีทัศน์ เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาของศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล เกาะแก่งต่างๆ ที่มีเต่าทะเลขึ้นวางไข่ ตลอดจนการเพาะฟักไข่เต่า

คุณอธิชา เขียวเซ็น ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้เรือนจำ จำนวน 134 แห่ง ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ดำเนินโครงการ “สังคมสงเคราะห์ สงเคราะห์สังคม” เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ข้าราชการ ลูกจ้างทุกระดับชั้นดำเนินกิจกรรม “ทำทุกความดีสาธารณะ” โดยไม่ให้ผ่านหน้า และอย่าให้ผ่านข้ามไปในสายงานปกติ โดยให้ดำเนินกิจกรรมร่วมกัน หรือตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงเคราะห์สังคม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทุกประเภททั้งทางบก ทางทะเล การมีส่วนร่วมในการทะนุบำรุงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และอีก 1 ความดีที่ไม่สามารถข้ามผ่านได้ ก็คือ การฝึกอบรมผู้ต้องขังในเรือนจำต่างๆ ให้เป็นคนดีของครอบครัว สังคม ประเทศชาติ มีความรู้ นำไปประกอบอาชีพหารายได้เสริม หรือประกอบอาชีพหลักได้เมื่อพ้นโทษไปแล้ว

นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จะเห็นได้ว่าภาพรวมของสังคมปัจจุบัน มักจะพบว่ามีความเห็นตัว เอาตัวรอดแต่เพียงคนเดียว ขาดความเอื้ออาทรต่อผู้ด้อยโอกาสกว่า หรือไม่มีการแบ่งปันซึ่งกันและกันมากนัก ยิ่งในสภาพที่ประเทศต้องประสบปัญหาภาวะข้าวยาก หมากแพงด้วยแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้สังคมไทยเอื้ออาทรต่อกัน มีเมตตาต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหมด สัตว์ ต้นไม้ เพราะทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ล้วนแล้วมีประโยชน์ และโทษในตัวเอง แล้วแต่จะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“1 ความดีที่ได้ดำเนินการกิจกรรม ก็คือ ราชทัณฑ์ยุคใหม่ รักษ์เต่าทะเลไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ในโครงการ “สังคมสงเคราะห์ สงเคราะห์สังคม” ได้พาข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ และผู้แทนเรือนจำต่าง ๆ ทั่วประเทศมาร่วมกันปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ อีกทั้งได้มอบเงินสนับสนุนในการซื้ออาหารเต่า การบริหารจัดการกับการอนุรักษ์ เพื่อให้ปริมาณเต่าเพิ่มขึ้นในทะเลไทย รักษาภูมิทัศน์ และสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์ต่อไป”