ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปัญหาเจ็ตสกีสร้างความรำคาญ และเอาเปรียบนักท่องเที่ยวที่ภูเก็ตโผล่อีกแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องหาแนวทางล้อมคอก ไม่ให้มีจำนวนเพิ่มและจัดอบรมให้ความรู้
พ.ต.ท.เสกสรรค์ สว่างแก้ว รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรกะทู้ กล่าวถึงปัญหาของการขับขี่เรือเจ็ตสกีของนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ในการประชุมโครงการฝึกอบรมและสัมมนาหลักสูตร “การขับขี่เจ็ตสกีอย่างปลอดภัยและใช้งานเจ็ตสกี” ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ห้อง POC เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ
โดยมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมในครั้งนี้ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมว่า ปัญหาของนักท่องเที่ยวที่เกิดจากการขับขี่เรือเจ็ตสกี มีด้วยกัน 3 ประเด็นใหญ่ๆ คือ ราคาค่าเช่าเจ็ทสกีมีราคาแพงอย่างเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้บริการ การจ่ายค่าเสียหายไม่เป็นธรรมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และการเกิดอุบัติเหตุกับตัวนักท่องเที่ยวเอง
สำหรับการแก้ไขปัญหาข้างต้นนั้น เสนอให้มีการติดป้ายประกาศเกี่ยวกับราคาค่าเช่าเรือเจ็ตสกีอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว อีกทั้งในการเช่าเจ็ตสกีแต่ละครั้ง เมื่อมีการทำสัญญาเช่าเจ็ตสกี ควรมีพยานรับรู้ในการเช่าแต่ละครั้ง เนื่องจากหลายครั้งที่สัญญาเช่ามักถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาไทย และนักท่องเที่ยวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมในภายหลังได้
นอกจากนี้ อู่ซ่อมสำหรับเจ็ตสกีในจังหวัดภูเก็ต ควรมีการกำหนดราคากลางหรือจัดตั้งอู่กลางเพื่อกำหนดราคาในการซ่อมที่เป็นมาตรฐานเท่าเทียมกัน โดยเมื่อเกิดความเสียหายแต่ละครั้ง อู่กลางจะต้องเป็นผู้ตีราคาค่าซ่อม หรืออีกกรณีหนึ่ง ให้กระทำโดยการร่างราคาค่าซ่อมจากอู่กลางในสัญญาเช่า เพื่อแจ้งให้นักท่องเที่ยวรับทราบตั้งแต่เริ่มทำการเช่าเจ็ทสกี
“ด้านอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เล่นเจ็ตสกีนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชำนาญของนักท่องเที่ยวเอง และขาดการแนะนำจากเจ้าของผู้ประกอบการในการใช้เจ็ตสกีที่ถูกต้อง นอกจากนี้ การกำหนดโซนนิ่งที่ไม่ชัดเจนยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในการเล่นเจ็ทสกีได้ง่าย ฉะนั้น การวางทุ่นเพื่อกำหนดพื้นที่ในการเล่นเจ็ตสกีอย่างชัดเจน จึงเป็นวิธีหนึ่งในการลดอุบัติเหตุได้ ไม่เพียงเท่านี้ยังถือเป็นการกำหนดการใช้พื้นที่ของการทำกิจกรรมอื่นได้อีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อการใช้พื้นที่แต่ละโซน” พ.ต.ท.เสกสรรค์ กล่าว
ด้าน นายดุลยพากย์ กรณฑ์แสง นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวนั้น มีการกำหนดราคาค่าเช่าเจ็ตสกีไว้อย่างชัดเจน โดยหลังจากนี้จะร่วมหารือกับทางหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อร่วมกันกำหนดราคาค่าเช่าเรือเจ็ตสกีที่เป็นมาตราฐานเท่าเทียมกัน และยื่นเสนอจังหวัดเพื่อร่างสัญญากลางและกำหนดใช้เป็นประกาศจังหวัดต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการที่นักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบจากราคาเช่าเรือเจ็ตสกี พร้อมทั้งเสนอให้ผู้ประกอบการให้เช่า ทำประกันภัยเรือเจ็ตสกี เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากค่าเสียหายในกรณีที่เรือเจ็ตสกีเกิดอุบัติเหตุ
“ในการจดทะเบียนเจ็ตสกี ตามที่มีการควบคุมจำนวนเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวนรวมทั้งสิ้น 219 ลำ และไม่รับจดทะเบียนเรือเจ็ตสกีอื่นๆ นอกเหนือจากนี้นั้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายใช้วิธีการนำเรือเจ็ตสกี ออกจดทะเบียนนอกพื้นที่ โดยในส่วนนี้ยังไม่มีกฎหมายใดควบคุมการจดทะเบียนเรือเจ็ตสกีนอกพื้นที่ได้ แต่จะใช้วิธีการตรวจสอบจากการจดทะเบียนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งหากพบว่ามีการนำเรือเจ็ตสกีที่จดทะเบียนนอกพื้นที่มาใช้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตแล้ว จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นเรือเจ็ตสกีที่อยู่นอกเหนือการควบคุม 219 ลำ” นายดุลยพากย์ กล่าว
ด้าน นายโอฬาร เฮงเจริญ หัวหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวถึงแนวทางในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้เรือเจ็ตสกีว่า ขณะนี้ได้ประสานงานกับบริษัท วัชร มารีน จำกัด (สาขาภูเก็ต) และบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในการที่จะส่งเสริมกิจกรรมการขับขี่เจ็ตสกีภายในจังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มโครงการแรกที่บริเวณหาดป่าตอง ภายใต้โครงการ “เสริมสร้างความปลอดภัยและส่งเสริมการท่องเที่ยวในการขับขี่เจ็ตสกี” ระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2552 ด้วยการอบรมการขับขี่เจ็ตสกีที่ถูกต้องแก่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว เพื่อลดการอุบัติเหตุจากการขับขี่เจ็ตสกี โดยการอมรบมีระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง