ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ศูนย์การค้าเอาท์เล็ทมอลล์ จับมือมิสเตอร์โบ๊ทแมน จัดงาน “Phuket Boat Show” รวมพลคนรักเรือครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อนำสินค้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเรือมาให้ผู้ที่แล่นเรือ และรักเรือได้ชมและเลือกซื้อ และหวังยกระดับให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเรือยอชต์ในอนาคต
น.ส.ภิญญลักษณ์ มหาอริยชัยสิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารศูนย์การค้าและการตลาด บริษัท เอาท์เล็ทมอลล์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงาน “Phuket Boat Show” หรือรวมพลคนรักเรือ ครั้งที่ 1 ว่า บริษัทได้ร่วมกับมิสเตอร์โบ๊ทแมน จัดงาน“Phuket Boat Show” หรือรวมพลคนรักเรือ ครั้งที่ 1 ขึ้น ระหว่างวันที่ 23 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2253 นี้ ที่บริเวณลานกิจกรรม ศูนย์การค้าพรีเมี่ยมเอาท์เล็ท จ.ภูฌก็ต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวและการลงทุนในตลาด High End รวมทั้ง เพื่อเป็นการผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตพัฒนาไปสู่เมืองน่าอยู่ที่เศรษฐีจากทุกมุมโลกจะต้องมาซื้อที่อยู่อาศัย เรือส่วนตัว และมีท่าเรือที่ดีที่สุด โดยจะจัดให้มีเป็นงานประจำปีของชาวภูเก็ต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลงทุนให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนหลั่งไหลเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
สำหรับรูปแบบของงาน น.ส.ภิญญลักษณ์ กล่าวว่า จะเป็นการนำผู้ประกอบการด้านเรือประเภทต่างๆ และอุปกรณ์ เช่น บริษัทนำเข้าเรือและอุปกรณ์เรือ รถ ATV เรือพาย คายัค แคนนู แพลอยน้ำทำท่าเรือมาจัดแสดงและจำหน่าย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น รีสอร์ท บ้าน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง เป็นต้น ตลอดจนรถยนต์นำเข้าในตลาด Grey Market เป็นการผนึกกำลังกันของทุกภาคส่วน
การจัดงานดังกล่าวว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของภูเก็ตที่พร้อมในการพัฒนาทุกๆด้าน
ขณะที่ นายอนันต์ ลิ้มประเสริฐ หรือ มิสเตอร์โบ๊ทแมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนน์ตี้ไนน์อินเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางของการเรือยอช์ทในภูมิภาคนี้ จากข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มนักแล่นเรือเข้ามาในภูเก็ตเพิ่มขึ้นปีละหนึ่งเท่าตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งก่อให้เกิดรายได้กับพื้นที่ในหลายรูปแบบ เช่น ธุรกิจทำความสะอาด อาหาร เฟอร์นิเจอร์ มารีน่า การซ่อมแซมเรือ เป็นต้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับเรือทั้งหมดได้พบกับผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของเรือและคนที่รัการแล่นเรือโดยตรง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต
สำหรับผู้ประกอบการที่ตอบรับเข้าร่วมนำสินค้ามาจัดแสดงในงานเบื้องต้นมีประมาณ 15-20 ราย และอยู่ระหว่างการตัดสินใจอีกประมาณ 30-40 ราย โดยสินค้าที่นำมาจัดแสดงมีทั้งเรือใบ เจ็ทสกีรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สปีดโบ๊ต เรือพาย อุปกรณ์ที่ใช้กับเรือ เป็นต้น พิเศษกับเรือกึ่งเครื่องบินซึ่งผลิตโดยคนไทย ทั้งนี้ในส่วนของราคาจะต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากมูลค่าของสินค้าที่นำมาจัดแสดงและจำหน่าย ซึ่งจะมีราคาตั้งแต่หลักแสนบาทจนถึงหลักร้อยล้านบาท คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 700-800 ล้านบาท และจะมียอดขายประมาณ 30-40% ของมูลค่าสินค้ารวม
ด้าน นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ททท.ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวทางทะเลมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้มีการผลักดันลดภาษีการนำเข้าเรือสำราญกีฬาให้เหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มีเรือยอชต์เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล และที่ผ่านมาตลาดการท่องเที่ยวทางเรือเติบโตขึ้นตามลำดับ
ปัจจุบันตัวเลขเรือยอชต์ที่เข้ามาภูเก็ตปีละประมาณ 1,200 ลำ ถือเป็นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพสูง มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันประมาณ 5,000 บาท สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปและภูเก็ตก็ถือเป็นศูนย์กลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพ และความพร้อมในการรองรับกลุ่มเรือยอช์ท ส่งผลให้มีนักเดินเรือจากยุโรปสนใจที่จะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แทนแหล่งท่องเที่ยวในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน การรวมตัวกันของผู้ประกอบการจึงนับเป็นเรื่องที่ดีในการส่งเสริมการตลาดต่อไปในอนาคต
ส่วน นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การท่องเที่ยวทะเลเป็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาภูเก็ตปีละจำนวนไม่น้อย จากที่ภูเก็ตมีที่ตั้งและภูมิอากาศที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
ดังนั้น การรวมตัวกันของผู้ประกอบการจึงเป็นเรื่องที่ดี ในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ในการเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นมารีน่า บุคลากร และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะเป็นโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้เดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
