ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลเมืองป่าตองจับมือไทยเบฟเวอเรจใช้งบกว่า 40 ล้านบาท จัดงาน “เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหาดป่าตอง”กลางเดือนธันวาคมนี้เพื่อประกาศให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรับทราบภูเก็ตเข้าสู่หน้าไฮซีซันพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ขณะที่ ททท.มั่นใจนักท่องเที่ยวเข้าเพียบ ทำเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
ที่บริเวณลานบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รอง ผบก.ภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต และผู้บริหารจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าว “งานเกิดฤดูกาลท่องเที่ยวหาดป่าตองประจำปี 2552” หรือ “2009 Phuket Carnival at Patong” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-20 ธันวาคมนี้ ที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง
นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวถึงการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า ในปีนี้ทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดขึ้นเป็นปีที่ 24 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับหาดป่าตอง สร้างกิจกรรมซึ่งเพิ่มรายได้ และช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับจังหวัดภูเก็ต เป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวหาดป่าตองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของหาดป่าตอง และจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพ และความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตในการรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาตลอดจนทั้งปี
นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทุกปีงานดังกล่าวจะในช่วงระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นวันเริ่มต้นของฤดูการท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาในช่วงดังกล่าวมักจะยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และเป็นอุปสรรคกับการจัดงานค่อนข้างมาก ดังนั้น จากการหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะเลื่อนระยะเวลาการจัดงานมาเป็นช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งจะไม่มีปัญหาในเรื่องของสภาพอากาศ และขณะนี้เทศบาลก็ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพบริเวณชาวหาดซึ่งมีจำนวนประมาณ 20 กลุ่ม และประชาชนชาวป่าตองทุกคน
สำหรับการจัดงานปีนี้จะแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีภาคเอกชน คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการจัดงานทั้งหมดโดยใช้งบประมาณของเขาเอง ซึ่งคาดว่าจะใช้ประมาณ 40 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการจัดแสดงแสง สี เสียง การแสดงดนตรีและกิจกรรมอื่นๆ มากมาย โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 บูทสินค้าและบริการต่างๆ โซนที่ 2 เวทีการแสดงหลัก บริเวณสนามฟุตบอล สวนสาธารณะโลมา และโซนที่ 3 เวทีการแสดงรอง บริเวณลานบางลา ที่สำคัญในวันเปิดงานจะมีขบวน Carnival ที่จะสร้างสีสันต์ของการจัดงานได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังได้มีการมอบเงินสนับสนุนให้กับทางเทศบาลฯในเบื้องต้นจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อให้ในการประกอบกิจกรรมสาธารณะประโยชน์
ขณะที่ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนนั้นมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เพราะนอกจากเราจะมีธรรมชาติที่สวยงามเป็นส่วนดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว
สิ่งสำคัญคือ ความเป็นคนไทยที่มีอัธยาศัยน้ำใจไมตรี ซึ่งไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ แม้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราจะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ไข้หวัด 2009 หรือปัญหาการเมืองภายในประเทศ แต่เชื่อว่านับจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น เห็นได้จากสายการบินต่างๆ ที่มีการเปิดเที่ยวบินตรงเข้ามาจากประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญของการท่องเที่ยว คือ จะต้องไม่ไปเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม นายสมบูรณ์กล่าวถึงการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยว่า ได้มีพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขบวนคานิวัล ซึ่งสามารถสร้างสีสันต์ได้เป็นอย่างดี และหวังว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาไปสู่ความเป็นอินเตอร์เท่ากับบราซิล ขณะเดียวกันก็ทราบว่าในส่วนของ ททท.นั้นก็ได้มีการบรรจุงานดังกล่าวไว้ในปฎิทินการท่องเที่ยวประจำปี ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น
ด้าน นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ในแต่ละปีจังหวัดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละประมาณ 5 ล้านคน สร้างรายได้ปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท โยที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดว่าในช่วงระยะเวลาของการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจะดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาร่วมแสนคน และทำให้มีเงินสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท
