ตรัง – หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าฯ สนธิกำลังจับกุม 6 ผู้ต้องหาขณะกำลังถางป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าใสป่าแก่ จ.ตรัง จำนวน 2 ไร่ เพื่อจะปลูกยางพารา โดยหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าของด้วยการซื้อมาแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2520
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. นายธนวัฒน์ พลพละ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ตง.3 วังวิเศษ จังหวัดตรัง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังวิเศษ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา รวมจำนวน 6 คน นำโดย นายปรีชา ใจสมุทร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 7 ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง พร้อมพวกอีก 5 คน ขณะกำลังบุกรุกแผ้วถางป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าใสป่าแก่ พื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นายปรีชา พร้อมพวก ได้เข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าดังกล่าว ซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรมในลักษณะเนินสูงลาดเอียง ซึ่งยังคงเหลือป่าไม้เฉพาะที่บริเวณตรงกลาง เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ในขณะที่พื้นที่ใกล้เคียง ทั้งด้านหน้า ด้านซ้าย และด้านขวา ได้มีผู้ลักลอบเข้าไปยึดครองด้วยการปลูกยางพารา อายุประมาณ 5-6 ปี ส่วนด้านล่างก็ได้มีการปลูกปาล์มน้ำมันเอาไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบการบุกรุกแผ้วถางไปแล้ว จำนวนกว่า 2 ไร่
จากการสอบสวนพบว่า พื้นที่ดังกล่าวนายปรีชาเป็นผู้ซื้อต่อมาจากบุคคลอื่น ตั้งแต่ปี 2520 แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ กระทั่ง นายปรีชาได้นำเพื่อนบ้านไปช่วยถางป่า เพื่อจะได้ทำประโยชน์ปลูกยางพารา และได้ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการจับกุมดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริงๆ และชาวบ้านได้แบ่งกันยึดถือครองทำกิน โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่ประการใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายปรีชา กับพวก นำส่ง พ.ต.ท.ประทีป เทพกิจ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.วังวิเศษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 08.30 น. นายธนวัฒน์ พลพละ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ตง.3 วังวิเศษ จังหวัดตรัง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังวิเศษ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา รวมจำนวน 6 คน นำโดย นายปรีชา ใจสมุทร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 7 ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง พร้อมพวกอีก 5 คน ขณะกำลังบุกรุกแผ้วถางป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าใสป่าแก่ พื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นายปรีชา พร้อมพวก ได้เข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าดังกล่าว ซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรมในลักษณะเนินสูงลาดเอียง ซึ่งยังคงเหลือป่าไม้เฉพาะที่บริเวณตรงกลาง เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ในขณะที่พื้นที่ใกล้เคียง ทั้งด้านหน้า ด้านซ้าย และด้านขวา ได้มีผู้ลักลอบเข้าไปยึดครองด้วยการปลูกยางพารา อายุประมาณ 5-6 ปี ส่วนด้านล่างก็ได้มีการปลูกปาล์มน้ำมันเอาไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบการบุกรุกแผ้วถางไปแล้ว จำนวนกว่า 2 ไร่
จากการสอบสวนพบว่า พื้นที่ดังกล่าวนายปรีชาเป็นผู้ซื้อต่อมาจากบุคคลอื่น ตั้งแต่ปี 2520 แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ กระทั่ง นายปรีชาได้นำเพื่อนบ้านไปช่วยถางป่า เพื่อจะได้ทำประโยชน์ปลูกยางพารา และได้ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการจับกุมดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริงๆ และชาวบ้านได้แบ่งกันยึดถือครองทำกิน โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่ประการใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายปรีชา กับพวก นำส่ง พ.ต.ท.ประทีป เทพกิจ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.วังวิเศษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป