ปิดล้อมป่าสงวนฯ ภูพานหวังจับมอดไม้รวบได้แค่ปลายแถวเหลือบตัวจริงล่องหน

กาฬสินธุ์ - สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (มหาสารคาม) ร่วมตำรวจ-เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.คำม่วง นำกำลังกว่า 100 นายเข้าปิดล้อมปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน ตะลึงมีการปักเขตแบ่งแดนเตรียมปลูกยางพารา พื้นที่ป่าถูกทำลายมากกว่า 200 ไร่ เสียหายกว่า 30 ล้านบาท ด้าน ผอ.เตรียมเสนอแผนเร่งฟื้นฟูสภาพป่า

เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (มหาสารคาม) กรมป่าไม้ พ.ต.ต.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ สวป.สภ.คำม่วง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคำม่วง นำโดยนายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อม ตรวจค้นปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูพาน บริเวณทิศเหนือบ้านดงสรวง ตำบลนาทัน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดสกลนครกับจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

หลังจากสืบทราบว่ามีนายทุนว่าจ้างชาวบ้านขึ้นไปแผ้วถาง ตัดไม้เพื่อเตรียมการปลูกยางพาราหลายร้อยไร่โดยในการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่ากว่า 10 กิโลเมตร และจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าถูกแผ้วถางต้นไม้น้อยใหญ่ถูกตัดเป็นบริเวณกว้าง เสียหายมากกว่า 200 ไร่ มีการปักเสาแบ่งเขตแดน เพื่อเตรียมการปลูกยางพารา

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกระท่อมหลายหลัง ซึ่งปลูกขึ้นเพื่อพักอาศัยของชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายปัง บรรเลงส่ง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.2 ตำผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าของกระท่อมและจากการตรวจค้นภายในกระท่อมพบอุปกรณ์ซ่อมเลื่อยยนต์หลายอย่างไม้แปรรูปอีกหลายแผ่นบริเวณรอบๆกระท่อมมีพื้นที่ป่าถูกแผ้วถางเสียหายกว่า 30 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งตำรวจดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก ก่อสร้างแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆไหวตัวทันสามารถหลบหนีไปได้

นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (มหาสารคาม) กรมป่าไม้ กล่าวว่า อธิบดีกรมป่าไม้สั่งการให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (มหาสารคาม) กรมป่าไม้ สนธิกำลังกับตำรวจฝ่ายปกครองอำเภอคำม่วงเข้าปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูพานอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งนี้การเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากสืบทราบว่าผู้ที่เข้าไปตัดไม้มีอาวุธครบมือและอาวุธสงครามด้วย

กระนั้นก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่ามีนายทุนนอกพื้นที่ว่าจ้างชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเข้าไปตัดไม้แผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างบางจุดมีการปักเสาแบ่งเขตแดนแสดงความเป็นเจ้าของ เพื่อเตรียมปลูกยางพารา ทำให้พื้นที่ป่าถูกทำลายไปกว่า 200 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากว่า 30 ล้านบาท

นายพิชิต กล่าวอีกว่า หลังจากเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (มหาสารคาม)กรมป่าไม้จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอไปยังกรมป่าไม้ และจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อพิจารณาเร่งทำการฟื้นฟูพื้นที่ป่าดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพราะหากปล่อยไว้ต่อไปพื้นที่ป่าจะถูกแผ้วถางมากกว่าเดิม