พิษณุโลก - ป่าไม้เมืองพิษณุโลก นำกำลังบุกจับกลุ่มนายทุน ลักลอบตัดไม้และแผ้วถางป่าสงวนฯ ปลูกยางพารา รวบตัว 3 ผู้ต้องหาพร้อมของกลางในที่เกิดเหตุ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม นครไทย
วันนี้ (12 ต.ค.) สายตรวจปราบปรามประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 ร่วมกับ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ประจำจังหวัดพิษณุโลก และกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 50 นายพร้อมสื่อมวลชนจังหวัดพิษณุโลก ได้บุกเข้าจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ แผ้วถางป่า และยึดครองป่าไม้เพื่อปลูกยางพารา บริเวณป่าบ้านไร่วังเงิน หมู่ที่ 24 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งขาติป่าเนินเพิ่ม สามารถจับผู้กระทำผิด 3 ราย คือนายจักวาลย์ กาหาวงศ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 5 ต.ซำค้อ กิ่งอำเภอ เขาชะเมา จ.ระยอง, นายสำเริง เจริญรื่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 5 ต.ซำต้อ กิ่งอำเภอเขาชะเมา จ.ระยอง และนายสุทธิ สุวรรณพิทักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ที่ 4 ต.ซากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จับพิกัดทางดาวเทียม พบพื้นที่ป่าสงวนได้ถูกแผ้วถาง จำนวน 112 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา และพบไม้แปรรูปบางส่วนที่ถูกตัดในพื้นที่ป่าสงวน นำมาก่อสร้างบ้านอีกจำนวน 4 หลัง ทั้งนี้ได้ตรวจยึดไม้กระยาเลยจำนวน 9 ต้น พร้อมยึดเลื่อยโซ่ยนต์ที่ไม่ทะเบียน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบว่ามีนายทุนจากภาคอื่นมาลักลอบตัดไม้แผ้วถางพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม เพื่อปลูกยางพารา จึงได้สนธิกำลัง พร้อมกับใช้เครื่องหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ ด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม GPS จำนวน 13 จุด และพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว บางจุดเป็นพื้นที่โล่งเตียน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่จริงและพบว่ามีผู้กระทำผิดดังกล่าว
นายสำเริง หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ตนและพวกได้รับจ้างจากนายทุนคนหนึ่ง มาร่วมปลูกยางพาราในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่ทราบว่า เป็นพื้นที่ป่าสงวน จึงได้รับจ้างปลูกยางพารา เพื่อหารายได้ส่งไปเลี้ยงครอบครัวที่ จ.ระยอง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และในข้อหา เขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507
วันนี้ (12 ต.ค.) สายตรวจปราบปรามประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 ร่วมกับ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ประจำจังหวัดพิษณุโลก และกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 50 นายพร้อมสื่อมวลชนจังหวัดพิษณุโลก ได้บุกเข้าจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ แผ้วถางป่า และยึดครองป่าไม้เพื่อปลูกยางพารา บริเวณป่าบ้านไร่วังเงิน หมู่ที่ 24 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งขาติป่าเนินเพิ่ม สามารถจับผู้กระทำผิด 3 ราย คือนายจักวาลย์ กาหาวงศ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 5 ต.ซำค้อ กิ่งอำเภอ เขาชะเมา จ.ระยอง, นายสำเริง เจริญรื่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 5 ต.ซำต้อ กิ่งอำเภอเขาชะเมา จ.ระยอง และนายสุทธิ สุวรรณพิทักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ที่ 4 ต.ซากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จับพิกัดทางดาวเทียม พบพื้นที่ป่าสงวนได้ถูกแผ้วถาง จำนวน 112 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา และพบไม้แปรรูปบางส่วนที่ถูกตัดในพื้นที่ป่าสงวน นำมาก่อสร้างบ้านอีกจำนวน 4 หลัง ทั้งนี้ได้ตรวจยึดไม้กระยาเลยจำนวน 9 ต้น พร้อมยึดเลื่อยโซ่ยนต์ที่ไม่ทะเบียน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบว่ามีนายทุนจากภาคอื่นมาลักลอบตัดไม้แผ้วถางพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม เพื่อปลูกยางพารา จึงได้สนธิกำลัง พร้อมกับใช้เครื่องหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ ด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม GPS จำนวน 13 จุด และพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว บางจุดเป็นพื้นที่โล่งเตียน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่จริงและพบว่ามีผู้กระทำผิดดังกล่าว
นายสำเริง หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ตนและพวกได้รับจ้างจากนายทุนคนหนึ่ง มาร่วมปลูกยางพาราในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่ทราบว่า เป็นพื้นที่ป่าสงวน จึงได้รับจ้างปลูกยางพารา เพื่อหารายได้ส่งไปเลี้ยงครอบครัวที่ จ.ระยอง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และในข้อหา เขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507
