กระบี่ - ผู้ว่าฯ กระบี่ สั่งล่าตัวผู้บงการตัดไม้ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจามาดำเนินคดี ชี้หากพบเจ้าหน้าที่รัฐพัวพันโทษหนักให้ออกจากราชการ
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่ทางป้องกันจังหวัดกระบี่นำกำลัง เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดกระบี่ (อส.จ.กระบี่) จำนวน 20 นาย เดินทางไปตรวจสอบ การลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ-ป่าเขาพนมเบญจา เมื่อ วันที่ 13 มกราคม 2552 ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง พื้นที่หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน กำลังทำการแปรรูปไม้อยู่บนเนินเขา โดยมีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งนั่งคอยดูต้นทางอยู่ด้านล่าง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เผลอได้หลบหนีไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนขยายผลว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง ที่เป็นผู้บงการ มาดำเนินคดี เนื่องจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จังหวัดกระบี่จะต้องรักษา ทรัพยากรของชาติ ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญและอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจา ซึ่งเป็นป่าสงวนที่มีคุณค่าทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ
“ไม่มีใครที่จะมีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย เข้าไปบุกรุก แผ้วถางหรือโค่นต้นไม้เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ โดยที่จึงหวัดกระบี่จะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ขณะเดียวกันทางจังหวัดได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทย”
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า หากทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจาในครั้งนี้ จะตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัย มีโทษถึงให้ออกจากราชการ สำหรับทางวัดโพธิ์เรียงที่ทางผู้ต้องหากล่าวถึงนั้น จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ เข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่ทางป้องกันจังหวัดกระบี่นำกำลัง เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดกระบี่ (อส.จ.กระบี่) จำนวน 20 นาย เดินทางไปตรวจสอบ การลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ-ป่าเขาพนมเบญจา เมื่อ วันที่ 13 มกราคม 2552 ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง พื้นที่หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน กำลังทำการแปรรูปไม้อยู่บนเนินเขา โดยมีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งนั่งคอยดูต้นทางอยู่ด้านล่าง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เผลอได้หลบหนีไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนขยายผลว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง ที่เป็นผู้บงการ มาดำเนินคดี เนื่องจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จังหวัดกระบี่จะต้องรักษา ทรัพยากรของชาติ ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญและอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจา ซึ่งเป็นป่าสงวนที่มีคุณค่าทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ
“ไม่มีใครที่จะมีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย เข้าไปบุกรุก แผ้วถางหรือโค่นต้นไม้เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ โดยที่จึงหวัดกระบี่จะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ขณะเดียวกันทางจังหวัดได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทย”
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า หากทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจาในครั้งนี้ จะตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัย มีโทษถึงให้ออกจากราชการ สำหรับทางวัดโพธิ์เรียงที่ทางผู้ต้องหากล่าวถึงนั้น จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ เข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง