กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ เอาจริง บุกรุกป่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องร่วมรับผิดชอบหากปล่อยให้มีการบุกรุกเกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมย้ำกล้วยไม้รองเท้านารีเป็นพันธุ์ไม้ในโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะต้องช่วยกันรักษา
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทรัพยากรป่าไม้ของจังหวัดกระบี่ ลดจำนาวนลงเหลือน้อยมาก ทางจังหวัดกระบี่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการดูแลรักษาป่าไม้เอาไว้ โดยมีพื้นที่ป่าแยกเป็นพื้นที่ป่าสงวน มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,400,000 ไร่เศษ อุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง มีเนื้อที่ 4 แสนไร่เศษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2 แห่ง มีเนื้อที่ 2 แสนไร่เศษ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า 1 แห่ง มีเนื้อที่ 3 หมื่นไร่เศษ นองจากนั้น จังหวัดกระบี่ยังมีพื้นที่ป่าชายเลนอีก 5 อำเภอซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองกระบี่ อำเภออ่าวลึก อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อมและอำเภอเกาะลันตา มีเนื้อที่กว่า 2 แสนไร่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า แต่ในปัจจุบันนี้เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จังหวัดกระบี่ เหลือพื้นที่ป่าไม้น้อยมาก เพียง 20% เท่านั้น จากพื้นที่ป่าทั้งหมด ดังนั้น ภารกิจของจังหวัดคือไล่ล่า พร้อมกับดำเนินตามกฎหมายอย่างจริงจังและเฉียบขาดกับผู้บุกรุก
โดยเฉพาะการบุกรุกแผ้วถางป่าหากตรวจพบก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทันที และจะทำป้ายประกาศกำหนดจุดบุกรุกห้ามผู้ใดเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ บางพื้นที่มีกล้วยไม้รองเท้านารี (เหลืองกระบี่)ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่หายากมาก
โดยทางจังหวัดกระบี่ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างสูง เพราะเป็นพันธุ์ไม้ในโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงแหนเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดกระบี่ก็มีมาตรการรักษาพันธุ์ไม้รองเท้านารีและมาตรการห่วงห้ามพันธุ์ไม้สำคัญเหล่านี้ด้วย
นอกจากนี้ ใช้มาตรการกำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ห้ามมิให้มีการลักลอบทำลายป่าไม้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือตลอดจนนายก อบต.เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับพื้นที่มากที่สุด จะต้องรับผิดชอบด้วย โดยจะอ้างไม่รู้ไม่ทราบเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
กรณีดังกล่าวจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษขั้นเด็จขาดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อบต.และว่า การเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดูแลรักษาป่าไม้ได้เป็นอย่างดี เพราะเบาะแสที่ชาวบ้านแจ้งมานั้นทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือ ให้ชาวบ้านเห็นในการทำงานของเข้าหน้าที่เป็นความตั้งใจจริงที่ป้องกันรักษาพื้นที่ป่า
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ทางจังหวัดกระบี่มีการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือครองที่ดินของรัฐทั้งที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ พื้นที่สาธารณประโยชน์ด้วย เพื่อจะเฝ้าระวังพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เรากำลังใช้ข้อมูลสารสนเทศ แผนที่ หาค่าจีพีอาร์เอส ในการตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกไปแล้ว เพื่อจะยึดกลับคืนมาเป็นของรัฐ ก็เป็นสิ่งที่จะต้องทำงานกันต่อไป
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทรัพยากรป่าไม้ของจังหวัดกระบี่ ลดจำนาวนลงเหลือน้อยมาก ทางจังหวัดกระบี่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการดูแลรักษาป่าไม้เอาไว้ โดยมีพื้นที่ป่าแยกเป็นพื้นที่ป่าสงวน มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,400,000 ไร่เศษ อุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง มีเนื้อที่ 4 แสนไร่เศษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2 แห่ง มีเนื้อที่ 2 แสนไร่เศษ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า 1 แห่ง มีเนื้อที่ 3 หมื่นไร่เศษ นองจากนั้น จังหวัดกระบี่ยังมีพื้นที่ป่าชายเลนอีก 5 อำเภอซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองกระบี่ อำเภออ่าวลึก อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อมและอำเภอเกาะลันตา มีเนื้อที่กว่า 2 แสนไร่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า แต่ในปัจจุบันนี้เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จังหวัดกระบี่ เหลือพื้นที่ป่าไม้น้อยมาก เพียง 20% เท่านั้น จากพื้นที่ป่าทั้งหมด ดังนั้น ภารกิจของจังหวัดคือไล่ล่า พร้อมกับดำเนินตามกฎหมายอย่างจริงจังและเฉียบขาดกับผู้บุกรุก
โดยเฉพาะการบุกรุกแผ้วถางป่าหากตรวจพบก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทันที และจะทำป้ายประกาศกำหนดจุดบุกรุกห้ามผู้ใดเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ บางพื้นที่มีกล้วยไม้รองเท้านารี (เหลืองกระบี่)ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่หายากมาก
โดยทางจังหวัดกระบี่ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างสูง เพราะเป็นพันธุ์ไม้ในโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงแหนเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดกระบี่ก็มีมาตรการรักษาพันธุ์ไม้รองเท้านารีและมาตรการห่วงห้ามพันธุ์ไม้สำคัญเหล่านี้ด้วย
นอกจากนี้ ใช้มาตรการกำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ห้ามมิให้มีการลักลอบทำลายป่าไม้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือตลอดจนนายก อบต.เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับพื้นที่มากที่สุด จะต้องรับผิดชอบด้วย โดยจะอ้างไม่รู้ไม่ทราบเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
กรณีดังกล่าวจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษขั้นเด็จขาดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อบต.และว่า การเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดูแลรักษาป่าไม้ได้เป็นอย่างดี เพราะเบาะแสที่ชาวบ้านแจ้งมานั้นทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือ ให้ชาวบ้านเห็นในการทำงานของเข้าหน้าที่เป็นความตั้งใจจริงที่ป้องกันรักษาพื้นที่ป่า
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ทางจังหวัดกระบี่มีการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือครองที่ดินของรัฐทั้งที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ พื้นที่สาธารณประโยชน์ด้วย เพื่อจะเฝ้าระวังพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เรากำลังใช้ข้อมูลสารสนเทศ แผนที่ หาค่าจีพีอาร์เอส ในการตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกไปแล้ว เพื่อจะยึดกลับคืนมาเป็นของรัฐ ก็เป็นสิ่งที่จะต้องทำงานกันต่อไป
