กระบี่ - ชาวสวนปาล์มกระบี่ ลังเลโฉมหน้ารัฐมนตรีเกษตร “มาร์ค 1” เหตุหน้าใหม่ ไม่มั่นใจในฝีมือ ฝากเร่งแก้ราคาพืชเกษตรด่วน
นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงโฉมหน้าว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ที่มี นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และนายศุภชัย โพธิ์สุ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ เป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ว่า ทั้ง 3 คน ตนคิดว่าจะมี วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความรู้ความสามารถในเรื่องของภาคการเกษตรมากน้อยแค่ไหน รู้สึกเป็นห่วงมาก เนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้ถูกจุดหรือไม่ เพราะกระทรวงเกษตรฯ ถือว่าเป็นกระทรวงใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับคนกว่าครึ่งประเทศ ซึ่งคนที่เข้ามาทำงานในกระทรวงนี้ จะต้องรู้จริง และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่แพ้กระทรวงสำคัญอื่นๆ
นายวิศาล กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีเกษตรฯทั้ง 3 คน ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงในแวดวงด้านการเกษตรมาก่อน ซึ่งรู้สึกเสียดาย ในโอกาสที่รัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเอาคนจากพรรคประชาธิปัตย์ มานั่งในตำแหน่งนี้ เพราะมีคนที่มีความรู้ความสามารถ และคลุกคลีอยู่ในแวดวงด้านการเกษตรอยู่หลายคน ทั้ง นายอาคม เอ่งฉ้วน ที่เคยเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการเกษตรมานาน แต่ก็ไม่มีรายชื่อโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีเกษตรแต่อย่างใด ซึ่งยอมรับว่า เป็นห่วงมาก แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องให้โอกาส พิสูจน์ความสามารถไปก่อน หากไม่ดีทางรัฐบาลก็ต้องหาคนใหม่เข้ามาแทน
“สิ่งที่อยากฝากไปยังคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนใหม่ จะต้องมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพราะมีหลายเรื่องที่รอรัฐมนตรีอยู่ โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดและอีกหลายอย่าง และนอกจากนี้ ก็เป็นในเรื่องของพลังงานทดแทน ที่รัฐมนตรี หรือรัฐบาล จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าเมื่อน้ำมันลงเรื่องก็เงียบหาย และเมื่อน้ำมันแพงก็นำกลับมาปัดฝุ่นกันอีก และเป็นอย่างนี้ตลอด ไม่เคยจริงจัง นอกจากนี้ ก็ควรจะหยุดทำร้ายเกษตรกรชาวเหนือ หรืออีสาน ในการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมัน เพราะเป็นพืชต้องการน้ำมาก ควรจะกำหนดโซนให้ชัด
สำหรับภาคใต้เองการปลูกปาล์มน้ำมันก็ใช่ว่าจะให้ผลผลิตมากมาย โดยเฉลี่ยต่อไร่/ปี มีผลผลิตเพียง 2.7 ตันเท่านั้น ทั้งที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งถือว่ายังต่ำอยู่ ในส่วนภาคเหนือภาคอีสานนั้นฝนตกน้อย และปาล์มเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ผลผลิตก็คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน ควรที่จะส่งเสริมให้ปลูกพืชอย่างอื่นที่มีความเหมาะสมมากกว่า ซึ่งถือว่าที่ผ่านมารัฐบาลกำหนดยุทธ์ศาสตร์ผิดพลาดในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสในการเป็นผู้นำรัฐบาลก็ควรจะทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่”
นายวิศาล ได้กล่าวด้วยว่า สำหรับเกษตรกรชาวสวนปาล์มขณะนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคาผลปาล์มตกต่ำ เฉลี่ยราคาหน้าโรงงานรับซื้อ กิโลกรัมละ ประมาณ 3 บาท ส่วนของลานเท รับซื้อกิโลกรัมละประมาณ 2.70 บาท ซึ่งยังถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากไม่คุ้มทุน หากว่าจะให้เกษตรกรอยู่ได้ต้องราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.50 บาท ซึ่งราคาที่ขยับขึ้นนี้เป็นผลมาจากทางรัฐบาลมีข่าวว่าจะเข้าแทรกแซงราคา 3.50 บาท โดยก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 2 บาทต้นๆเท่านั้น และเชื่อว่า เมื่อสิ้นสุดโครงการแทรกแซงราคาก็จะดิ่งเหวอีกครั้ง
นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงโฉมหน้าว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ที่มี นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และนายศุภชัย โพธิ์สุ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ เป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ว่า ทั้ง 3 คน ตนคิดว่าจะมี วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความรู้ความสามารถในเรื่องของภาคการเกษตรมากน้อยแค่ไหน รู้สึกเป็นห่วงมาก เนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้ถูกจุดหรือไม่ เพราะกระทรวงเกษตรฯ ถือว่าเป็นกระทรวงใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับคนกว่าครึ่งประเทศ ซึ่งคนที่เข้ามาทำงานในกระทรวงนี้ จะต้องรู้จริง และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่แพ้กระทรวงสำคัญอื่นๆ
นายวิศาล กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีเกษตรฯทั้ง 3 คน ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงในแวดวงด้านการเกษตรมาก่อน ซึ่งรู้สึกเสียดาย ในโอกาสที่รัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเอาคนจากพรรคประชาธิปัตย์ มานั่งในตำแหน่งนี้ เพราะมีคนที่มีความรู้ความสามารถ และคลุกคลีอยู่ในแวดวงด้านการเกษตรอยู่หลายคน ทั้ง นายอาคม เอ่งฉ้วน ที่เคยเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการเกษตรมานาน แต่ก็ไม่มีรายชื่อโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีเกษตรแต่อย่างใด ซึ่งยอมรับว่า เป็นห่วงมาก แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องให้โอกาส พิสูจน์ความสามารถไปก่อน หากไม่ดีทางรัฐบาลก็ต้องหาคนใหม่เข้ามาแทน
“สิ่งที่อยากฝากไปยังคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนใหม่ จะต้องมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพราะมีหลายเรื่องที่รอรัฐมนตรีอยู่ โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดและอีกหลายอย่าง และนอกจากนี้ ก็เป็นในเรื่องของพลังงานทดแทน ที่รัฐมนตรี หรือรัฐบาล จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าเมื่อน้ำมันลงเรื่องก็เงียบหาย และเมื่อน้ำมันแพงก็นำกลับมาปัดฝุ่นกันอีก และเป็นอย่างนี้ตลอด ไม่เคยจริงจัง นอกจากนี้ ก็ควรจะหยุดทำร้ายเกษตรกรชาวเหนือ หรืออีสาน ในการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมัน เพราะเป็นพืชต้องการน้ำมาก ควรจะกำหนดโซนให้ชัด
สำหรับภาคใต้เองการปลูกปาล์มน้ำมันก็ใช่ว่าจะให้ผลผลิตมากมาย โดยเฉลี่ยต่อไร่/ปี มีผลผลิตเพียง 2.7 ตันเท่านั้น ทั้งที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งถือว่ายังต่ำอยู่ ในส่วนภาคเหนือภาคอีสานนั้นฝนตกน้อย และปาล์มเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ผลผลิตก็คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน ควรที่จะส่งเสริมให้ปลูกพืชอย่างอื่นที่มีความเหมาะสมมากกว่า ซึ่งถือว่าที่ผ่านมารัฐบาลกำหนดยุทธ์ศาสตร์ผิดพลาดในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสในการเป็นผู้นำรัฐบาลก็ควรจะทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่”
นายวิศาล ได้กล่าวด้วยว่า สำหรับเกษตรกรชาวสวนปาล์มขณะนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคาผลปาล์มตกต่ำ เฉลี่ยราคาหน้าโรงงานรับซื้อ กิโลกรัมละ ประมาณ 3 บาท ส่วนของลานเท รับซื้อกิโลกรัมละประมาณ 2.70 บาท ซึ่งยังถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากไม่คุ้มทุน หากว่าจะให้เกษตรกรอยู่ได้ต้องราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.50 บาท ซึ่งราคาที่ขยับขึ้นนี้เป็นผลมาจากทางรัฐบาลมีข่าวว่าจะเข้าแทรกแซงราคา 3.50 บาท โดยก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 2 บาทต้นๆเท่านั้น และเชื่อว่า เมื่อสิ้นสุดโครงการแทรกแซงราคาก็จะดิ่งเหวอีกครั้ง