กระบี่ - ผวจ.กระบี่ ลุยตรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจา หลังพบมีการบุกรุกป่าและแปรรูปไม้ เตรียมตั้งกรรมการสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวิสุทธิวงศ์ อนันตพงศ์ นายอำเภอเมืองกระบี่ นายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ ฝ่ายป้องกัน นายวัชรา แก้วสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาและควบคุมไฟป่าสำนัก 12 สาขากระบี่ นายทศพร โชติช่วง ผู้ช่วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมชาย จิตหลัง หัวหน้าหน่วยประสานงานและป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพนมเบญจา ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังจากได้รับแจ้งว่า มีการบุกรุก ลักลอบตัดไม้ และแปรรูปไม้จำนวนมาก
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่าสภาพพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ บริเวณป่าเชิงเขา พบตอไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ รวมจำนวน 6 จุด มีทั้งไม้ตะเคียนราก ไม้มะแวง ไม้ตะเคียนสามพร และพบไม้ถูกแปรรูปขนาด 1.5x5 นิ้ว ยาว 4 เมตร จำนวน 6 ท่อน และที่แปรรูปเป็นเสาขนาด 5x5 นิ้ว ยาว 4 เมตรจำนวน 6 ท่อน ไม้ซุงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 ซม.ยาว4 เมตร อีกจำนวน 3 ท่อน นอกจากนั้น ยังพบพื้นที่ป่าถูกแผ้วถางเตรียมปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อประมาณ 4-5 ไร่ ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบน้ำมันเชื้อเพลิงบรรจุแกลลอน 5 ลิตร จำนวน 2 แกลลอน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ว่า มีการลักลอบตัดไม้และแปรรูปไม้ในพื้นที่ป่างวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันเข้าตรวจสอบ โดยสามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ขณะหลบหนีลงจากเขา ทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ อินทร์เอียด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 ม.10 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ตรวจพบหลักฐานหมึกสีแดงซึ่งใช้ในการตีเส้นไม้ก่อนแปรรูปที่มือทั้งสองข้าง แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ จึงได้เก็บลายนิ้วมือที่ไม้แปรรูปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์ต่อไป
ด้าน นายวัชรา แก้วสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาและควบคุมไฟป่าสำนัก 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกกันอย่างต่อเนื่อง จากการสืบสวนในทางลับ พบว่า มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ทราบชื่อเล่นคือ นายเบิ้ม มีส่วนรู้เห็น เพราะทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ ผู้บุกรุกจะรู้ตัวและหลบหนีไปก่อนทุกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้จะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริงต่อไป หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาด