ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ป.ป.ช.จัดเสวนา “ภาคธุรกิจโปร่งใส ต้านภัยคอร์รัปชัน” เพื่อให้ภาคธุรกิจเอกชนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งในระบบสากลถือว่าเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และได้ให้ภาคธุรกิจเอกชนได้มีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็น และแนวทางการแก้ไขปัญหาป้องกันการทุจริตต่อไป
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการจัดกิจกรรมเสวนาระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และภาคธุรกิจเอกชน เรื่อง “ภาคธุรกิจโปร่งใส ต้านภัยคอร์รัปชัน” โดยมี ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา กล่าวให้การต้อนรับ และ ศ.ดร. ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดการเสวนา
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ภาคธุรกิจโปร่งใส ต้านภัยคอร์รัปชัน” ว่า สภาพปัญหาและสาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการพัฒนาประเทศของเรามาอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับการทุจริตคอร์รัปชันในระบบสากล เป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ความเสียหายอย่างร้ายแรง รวมทั้งส่งผลกระทบภาคธุรกิจเอกชนโดยตรง ซึ่งหากเราไม่ร่วมมือป้องกันแก้ไขแล้ว ในอนาคตการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาคธุรกิจเอกชนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีความร้ายแรงมากกว่าในภาครัฐก็อาจเป็นได้” ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อและว่า
ทั้งนี้ สาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชันนั้นมีหลายปัจจัย อาทิ ปัจจัยทางสังคม, ทางการเมือง, กระแสบริโภคนิยมและวัตถุนิยม ฯลฯ โดยเฉพาะปัจจัยทางการเมืองเป็นระบบที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุด ซึ่งมีผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง เป็นผู้แสวงหาอำนาจรัฐ ประพฤติปฏิบัติคอร์รัปชั่น โดยมีการแทรกแซงเข้ามาทางการบริหารและองค์กรตรวจสอบ มีการกำหนดนโยบาย ออกกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการได้ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ปัจจัยทางการเมือง จึงเป็นสาเหตุแรกที่จะทำให้เกิดปัญหาลูกโซ่
“ผลกระทบของการทุจริตคอร์รัปชัน ก่อให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือ การยอมรับในเวทีโลกทั้งระดับสากล ในเรื่องของการแก้ปัญหานั้น อยากให้ทุกคนมีจิตสาธารณะ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์ระดับชาติ ว่าด้วยการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อกำหนดทิศทางและแนวทางร่วมกัน เน้นให้การศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ปรับเปลี่ยนกฎหมายให้รัดกุมมากขึ้น” ศ.ดร.ภักดีกล่าว
ด้าน ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวเรื่อง “การเสริมสร้างบรรษัทภิบาลในภาคธุรกิจเอกชน” ว่า บรรษัทภิบาลมีหลักการสำคัญ คือ สิทธิและความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ถือหุ้น ตระหนักถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บทบาทและความรับผิดชอบของผู้บริหารขององค์กร ต้องมีความซื่อสัตย์และการมีจริยธรรม มีจรรยาบรรณ มีการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
สำหรับ การเสริมสร้างบรรษัทภิบาลในภาคธุรกิจเอกชนนั้น เราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ธุรกิจจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ (CSR) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้า เช่น โค้ก ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับในตัวสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจน้ำดำที่มีการแข่งขันทางการตลาดกันสูง
“ในเรื่องของการโกงในภาคธุรกิจนั้นมี 2 สาเหตุ คือ สาเหตุการโกงภายนอก ถูกบังคับให้โกงเพราะต้องจ่ายสินบนหรือใต้โต๊ะให้กับหน่วยราชการ จึงเกิดเป็นห่วงโซ่การโกงกินจากปัจจัยภายนอก และสาเหตุการโกงภายใน เปรียบเหมือน “เหลือบ” ในองค์กรต้นตอการโกงกิน ซึ่งใช้องค์กรในการทำมาหากินอยู่เพื่อดูดเลือด ไม่มีที่ไป ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้สร้างสรรค์ เกาะองค์กรเพื่ออยู่รอด” ดร.โสภณกล่าว