จันทบุรี - สำนักงาน ป.ป.ช.จัดเสวนาเรื่อง ภาคธุรกิจโปร่งใสต้านภัยคอร์รัปชัน ดึงภาคธุรกิจเป็นแนวร่วมหวังลดปัญหาทุจริตคอรัปชัน ที่มีผลกระทบต่อประเทศ
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่โรงแรมคาริบูร ไฮแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้จัดเสวนา ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และภาคธุรกิจเอกชน เรื่อง “ภาคธุรกิจโปร่งใส ต้านภัยคอร์รัปชัน” โดยมีนางสาวดวงพร รุจิเรข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานเปิดการสัมมนา และมีผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน ในจังหวัดจันทบุรีเข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก
โครงการสัมมนาในจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมายไว้ 8 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย จังหวัดสุโขทัย ลำพูน สุรินทร์ หนองคาย จันทบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจเอกชน ที่เป็นสมาชิกหอการค้าจังหวัด ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องดังกล่าวได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการพัฒนาประเทศ
รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และรณรงค์สร้างกระแสในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนประกอบการด้วยหลักบรรษัทภิบาล
ตลอดจนส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนได้มีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ และสร้างศรัทธาความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันจะนำไปสู่การรวมพลังกันเป็นเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อไป
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่โรงแรมคาริบูร ไฮแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้จัดเสวนา ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และภาคธุรกิจเอกชน เรื่อง “ภาคธุรกิจโปร่งใส ต้านภัยคอร์รัปชัน” โดยมีนางสาวดวงพร รุจิเรข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานเปิดการสัมมนา และมีผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน ในจังหวัดจันทบุรีเข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก
โครงการสัมมนาในจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมายไว้ 8 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย จังหวัดสุโขทัย ลำพูน สุรินทร์ หนองคาย จันทบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจเอกชน ที่เป็นสมาชิกหอการค้าจังหวัด ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องดังกล่าวได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการพัฒนาประเทศ
รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และรณรงค์สร้างกระแสในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนประกอบการด้วยหลักบรรษัทภิบาล
ตลอดจนส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนได้มีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ และสร้างศรัทธาความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันจะนำไปสู่การรวมพลังกันเป็นเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อไป