พัทลุง – การประมูลรังนกอีแอ่น จังหวัดพัทลุง ส่อเค้าวุ่นศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราว-ส.อบจ.พื้นที่ระบุต้องเฝ้าระวังเกาะเป็นพิเศษ หวั่นอาจมีโจรเพิ่มมากขึ้นหลังระงับการประมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า นายประเสริฐ ดำสุด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง แจ้งในที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญครั้งที่ 2 ว่า ฝ่ายกิจการรังนกอีแอ่นองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้สั่งระงับขายซองประมูลรังนกอีแอ่นไว้ชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนไปยังศาลปกครองและศาลได้สั่งให้การคุ้มครองชั่วคราวตามที่มีผู้ร้องเรียน ฝ่ายกิจการรังนกอีแอ่น ได้เปิดขายซองได้ 1 วันและมีกลุ่มทุนขอซื้อซองประมูลรังนกอีแอ่นของจังหวัดพัทลุงได้เพียง 2 ราย
โดย นายจรูญ สอนสังข์ ส.จ.เขต อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากคณะกรรมการรังนกอีแอ่น ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับนกอีแอ่น กฎหมายกำหนดให้ข้าราชการเป็นคณะกรรมการโดยตำแหน่ง ทั้งที่หัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงานไม่เคยเห็นรังนกอีแอ่นมาก่อน เมื่อมีอำนาจตัดสินใจก็ทำไปโดยขาดความรู้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องพึ่งผู้แทนราษฎรของจังหวัดพัทลุงให้ช่วยเสนอแก้กฎหมายรังนกอีแอ่นเสียใหม่ เปิดโอกาสให้ผู้รู้ได้ทำงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของจังหวัดพัทลุง
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการได้แต่งตั้งที่ปรึกษากรรมการรังนกเพิ่มอีก 3 คนนั้น ประธานกรรมการจะต้องให้เหตุผลจนเป็นที่เข้าใจ ว่า มีความจำเป็นอย่าไรที่ต้องแต่งตั้งที่ปรึกษา ให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าประชุมและเงินรายเดือน ถ้าหากเป็นไปตามที่ปรึกษาคณะกรรมการมีรายได้อยู่ทุกวันนี้เป็นเบี้ยประชุมครั้งละ 3,000 บาท และเงินเดือนๆ ละ 15,000 เพราะฉะนั้นจะต้องนำรายได้จากรังนกมาจ่ายเพิ่มเดือนละ 48,000 บาท ให้กับที่ปรึกษาของคณะกรรมการ
ทางด้าน นายปรีดี มนตรี ส.อบจ.เขต อ.บางแก้ว กล่าวว่า การประมูลสัมปทานรังนกอีแอ่นของจังหวัดพัทลุง จะมีปัญหาแน่นอน เมื่อศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว จังหวัดพัทลุงก็จะดำเนินการอะไรไม่ได้อีกแล้ว ในขณะที่สัญญาเก่าก็จะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน ผู้สัมปทานรายใหม่ก็ยังไม่ได้ยื่นซองประมูล จะทำให้รังนกอีแอ่นในหมู่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน เป็นรังนกที่ไม่มีเจ้าของอยู่กลางทะเล
ทางคณะกรรมการจะต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และฝ่ายปกครอง ออกไปรักษาความปลอดภัยเกาะรังนก จะต้องจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเฝ้ารังนก ค่าอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทางประมาณเดือนละ 1.3 ล้านบาท ก็ยังไม่เห็นว่าจังหวัดพัทลุงจะนำเงินส่วนไหนมาเป็นค่าใช้จ่าย และที่สำคัญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพัทลุง ไม่ว่าจะเป็น อบต.หรือเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล ได้ประมาณการายรับแต่ตั้งงบประมาณไปแล้ว เมื่อรายได้จากค่าอากรรังนกที่ได้รับเป็นประจำทุกปี เมื่อไม่เป็นไปตามกำหนด จะต้องรื้อโครงการกันใหม่ทุกตำบล
ส.อบจ.เขต อ.บางแก้ว กล่าวอีกว่า รังนกอีแอ่นมีราคาแพงเฉพาะรังนกดำขายได้กิโลกรัมละ 1 หมื่นบาทเศษ รังนกขาวราคาสูงกว่า 1 แสนบาท เมื่อไม่มีเจ้าของตัวจริงหรือผู้ได้ประโยชน์ดูแลรักษาความปลอดภัย จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ อส.ไปเฝ้าเกาะมากน้อยแค่ไหน ก็จะมีโจรรังนกเกิดขึ้นมาอีกและเชื่อว่าเวลาภายใน 15 วัน รังนกก็จะถูกขโมยจากฝีมือของชาวบ้าน ที่จ้องจะบุกขึ้นเกาะอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า นายประเสริฐ ดำสุด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง แจ้งในที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญครั้งที่ 2 ว่า ฝ่ายกิจการรังนกอีแอ่นองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้สั่งระงับขายซองประมูลรังนกอีแอ่นไว้ชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนไปยังศาลปกครองและศาลได้สั่งให้การคุ้มครองชั่วคราวตามที่มีผู้ร้องเรียน ฝ่ายกิจการรังนกอีแอ่น ได้เปิดขายซองได้ 1 วันและมีกลุ่มทุนขอซื้อซองประมูลรังนกอีแอ่นของจังหวัดพัทลุงได้เพียง 2 ราย
โดย นายจรูญ สอนสังข์ ส.จ.เขต อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากคณะกรรมการรังนกอีแอ่น ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับนกอีแอ่น กฎหมายกำหนดให้ข้าราชการเป็นคณะกรรมการโดยตำแหน่ง ทั้งที่หัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงานไม่เคยเห็นรังนกอีแอ่นมาก่อน เมื่อมีอำนาจตัดสินใจก็ทำไปโดยขาดความรู้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องพึ่งผู้แทนราษฎรของจังหวัดพัทลุงให้ช่วยเสนอแก้กฎหมายรังนกอีแอ่นเสียใหม่ เปิดโอกาสให้ผู้รู้ได้ทำงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของจังหวัดพัทลุง
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการได้แต่งตั้งที่ปรึกษากรรมการรังนกเพิ่มอีก 3 คนนั้น ประธานกรรมการจะต้องให้เหตุผลจนเป็นที่เข้าใจ ว่า มีความจำเป็นอย่าไรที่ต้องแต่งตั้งที่ปรึกษา ให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าประชุมและเงินรายเดือน ถ้าหากเป็นไปตามที่ปรึกษาคณะกรรมการมีรายได้อยู่ทุกวันนี้เป็นเบี้ยประชุมครั้งละ 3,000 บาท และเงินเดือนๆ ละ 15,000 เพราะฉะนั้นจะต้องนำรายได้จากรังนกมาจ่ายเพิ่มเดือนละ 48,000 บาท ให้กับที่ปรึกษาของคณะกรรมการ
ทางด้าน นายปรีดี มนตรี ส.อบจ.เขต อ.บางแก้ว กล่าวว่า การประมูลสัมปทานรังนกอีแอ่นของจังหวัดพัทลุง จะมีปัญหาแน่นอน เมื่อศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว จังหวัดพัทลุงก็จะดำเนินการอะไรไม่ได้อีกแล้ว ในขณะที่สัญญาเก่าก็จะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน ผู้สัมปทานรายใหม่ก็ยังไม่ได้ยื่นซองประมูล จะทำให้รังนกอีแอ่นในหมู่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน เป็นรังนกที่ไม่มีเจ้าของอยู่กลางทะเล
ทางคณะกรรมการจะต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และฝ่ายปกครอง ออกไปรักษาความปลอดภัยเกาะรังนก จะต้องจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเฝ้ารังนก ค่าอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทางประมาณเดือนละ 1.3 ล้านบาท ก็ยังไม่เห็นว่าจังหวัดพัทลุงจะนำเงินส่วนไหนมาเป็นค่าใช้จ่าย และที่สำคัญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพัทลุง ไม่ว่าจะเป็น อบต.หรือเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล ได้ประมาณการายรับแต่ตั้งงบประมาณไปแล้ว เมื่อรายได้จากค่าอากรรังนกที่ได้รับเป็นประจำทุกปี เมื่อไม่เป็นไปตามกำหนด จะต้องรื้อโครงการกันใหม่ทุกตำบล
ส.อบจ.เขต อ.บางแก้ว กล่าวอีกว่า รังนกอีแอ่นมีราคาแพงเฉพาะรังนกดำขายได้กิโลกรัมละ 1 หมื่นบาทเศษ รังนกขาวราคาสูงกว่า 1 แสนบาท เมื่อไม่มีเจ้าของตัวจริงหรือผู้ได้ประโยชน์ดูแลรักษาความปลอดภัย จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ อส.ไปเฝ้าเกาะมากน้อยแค่ไหน ก็จะมีโจรรังนกเกิดขึ้นมาอีกและเชื่อว่าเวลาภายใน 15 วัน รังนกก็จะถูกขโมยจากฝีมือของชาวบ้าน ที่จ้องจะบุกขึ้นเกาะอยู่แล้ว