เมืองลุงตั้ง กก.พิจารณาหลักเกณฑ์ประมูลรังนกใหม่หลังนักธุรกิจยื่นคัดค้าน

พัทลุง – ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รับข้อเสนอทบทวน แก้ไขข้อกำหนดการประมูลรังนกอีแอ่นรอบใหม่ หลังนักธุรกิจยื่นหนังสือคัดค้านกฎระเบียบ ในการประมูลครั้งใหม่ ระบุไม่เป็นธรรม ด้าน ผวจ.ตั้งคณะกรรมการพิจารณาอีกรอบก่อนเปิดประมูลจริง

หลังจากสัญญาสัมปทานรังนกอีแอ่น ในท้องที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 กันยายน 2551 นี้ ซึ่งทางคณะกรรมการรังนกจังหวัดพัทลุง ได้ยกร่างสัญญาขึ้นมาใหม่ โดยได้พิจารณาเพิ่มราคากลางรังนก จากการราคาประมูล 500 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เป็น 627 ล้านบาท ในระยะเวลา 7 ปี โดยผู้ประมูลเก็บรังนกจะต้องซื้อซองเป็นเงิน 150,000 บาท มีเงินสด หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคาร จำนวน 470 ล้านบาท จะเปิดซองประมูลราคาในวันที่ 24 ก.ค.ห้องประชุม ชั้น 5 ศาลางกลางจังหวัดพัทลุง นั้น

นายพิพัฒน์ อมรวัตพงศ์ ตัวแทนบริษัท เบสท์เนสท์ จำกัด บริษัทสัมปทานรังนกรายใหญ่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อขอให้พิจารณา แก้ไขข้อบังคับ หลักเกณฑ์ การประมูลเงินอากรนกอีแอ่น เนื่องจากบริษัทเห็นว่า วันที่มีการประมูลกระชั้นชิด มีเงื่อนไขหลักเกณฑ์หลายประการ ไม่เหมาะสม ไม่ชอบธรรม ขัดต่อกฎหมายหลายประการ และขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี บริษัทจึงขอเสนอให้ทางคณะกรรมการได้มีการพิจารณา ทบทวน และแก้ไขหลักเกณฑ์ ที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม เพื่อเปิดกว้างให้มีการแข่งขันกันอย่างแท้จริง ซึ่งการเปิดประมูลตามเวลาที่กำหนด เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น โดยรัฐจะเป็นฝ่ายเสียหาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุด

นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง กล่าวว่า หลังได้รับหนังสือขอให้ทบทวนและแก้ไขข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ ของบริษัท เบสท์เนสท์ จำกัด แล้ว เพื่อให้การยื่นซองประมูลสัมปทานรังนกในครั้งนี้เป็นไปด้วยบริสุทธิ์ เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและชาวพัทลุง จึงได้ชะลอการประกาศประมูลเงินอากรรังนกอีแอ่นไว้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการยังมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างคอบรอบ และป้องกันปัญหาวุ่นวายจากการดำเนินงานจนทำให้รัฐและชาวพัทลุงได้รับความเสียหาย

พร้อมกันนั้น ก็ได้มอบหมายให้ นายกฤติพงษ์ คงแข็ง ปลัดจังหวัดพัทลุง ในฐานะกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการ ไปประสานงานกับ นายประยูร พัฒนอมร อัยการจังหวัดพัทลุง เพื่อทบทวนระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการเปิดประมูลเงินอากรรังนกอีแอ่นอีกครั้งหนึ่ง ตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการดำเนินการในครั้งนี้ การประมูลฯจึงต้องสะอาด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะในวันประมูล ตนจะเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ตัวแทนสื่อมวลชนใน จ.พัทลุง เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมกันติดตามการดำเนินงานในการประมูลด้วย