xs
xsm
sm
md
lg

ส่อแววตายฟรี! ตร.เปลี่ยนประเด็นฆ่าโหดนักข่าวมติชน ลูก-เมียเตรียมร้อง มท.1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - นักข่าวเมืองคอนส่อแววตายฟรี-ตร.เปลี่ยนเป้าสอบประเด็นขัดแย้งคนข้างบ้าน เมียเตรียมหอบลูกร้อง มท. 1 นักข่าวเมืองคอนหวาดผวาใครจะเป็นรายต่อไป วอน ตร.หามาตรการคุ้มครองชีวิต

จากกรณีคนร้ายบุกสังหารโหดนายอธิวัฒน์ ไชยนุรัตน์ อายุ 48 ปี นักข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตขณะทำกับข้าวไว้รอลูกเมีย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 1 ส.ค. 2551 ที่ผ่านมา โดยตำรวจระดมกำลังทั้งจาก สตช. ภาค 8 และตำรวจพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ระดมกำลังสอบสวนสืบสวนคลี่คลายคดีแลชะมุ่งปมการนำเสนอข่าวขุดคุ้ยนักการเมืองท้องถิ่น และเสนอข่าวจนขัดแย้งกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวมาตามลำดับแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อวันนี้ (16 ส.ค.) แม้ พล.ต.อ.ปรุง บุญผดุง รอง ผบ.ตร.ปป.2 พล.ต.ต.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. รวมทั้ง ผช.ผบ.ตร. ผบช.ภาค 8 จะสลับกันเดินทางไปลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกำชับติดตามการคลี่คลายคดี แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แววว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับกุมมือปืนและผู้บงการได้

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากส่วนกลาง จากภาค 8 และในพื้นที่เริ่มแสดงอาการไม่มั่นใจว่าจะสามารถปิดคดีนี้ได้ เนื่องจากประเด็นหลักที่มุ่งสอบสวนสืบสวนโดยมีตัวละครทั้งในส่วนของทีมสังหารและผู้บงการ ยิ่งสอบยิ่งทำให้น้ำหนักในประเด็นดังกล่าวน้อยลง จนไม่สามารถที่จะหาพยานหลักฐานมาประกอบประเด็นการสอบสวนได้ จึงเริ่มหันมาสอบสวนสืบสวนในประเด็นเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะความขัดแย้งกับคนข้างบ้าน และในละแวกใกล้เคียงซึ่งน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า 2 ประเด็นแรก

เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่รับผิดชอบ ในทีมสอบสวนคลี่คลายคดีรายหนึ่งกล่าวว่า การสอบสวนสืบสวนมาจนถึงขณะนี้ยอมรับว่าหนักใจมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้ตายยืนยันกับนางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ภรรยา รวมทั้งผู้ตายโทรศัพท์ไปแจ้งกับ พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภาค 8 เรื่องที่ถูกปองร้ายและสั่งเสียเอาไว้ว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองสาเหตุมาจาก 2 เรื่องที่ว่าอย่างแน่นอน แต่ประเด็นเรื่องพฤติกรรมของคนร้ายและอาวุธปืนขนาด .32 ที่ใช้สังหารนั้นทำให้ตำรวจสงสัยมาตั้งแต่ต้นว่า ไม่น่าจะเป็นการกระทำของมือปืนอาชีพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ รอง ผกก.ศูนย์สืบสวนภาค 8 ได้เดินทางเข้าพบนางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ภรรยาของนายอธิวัฒน์ เพื่อสอบสวนในประเด็นความขัดแย้งกับคนในหมู่บ้านว่าขัดแย้งกับใครเรื่องอะไรบ้าง โดยนางพรพิมล ได้ให้รายละเอียดทั้งหมดไปว่านายอธิวัฒน์ สามีมีความขัดแย้งกับคนในหมู่บ้าน 2-3 ราย แต่โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นประเด็นที่นำมาสู่การสังหารสามี และนางพรพิมลยังยืนยันอย่างมั่นใจว่า สาเหตุการสังหารนายอธิวัฒน์ สามีมาจากเรื่องการเสนอข่าวความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันที่ชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มนักข่าวทุกแขนงได้ร่วมกันประชุมปรึกษาหารือกรณีคดีสังหารนายอธิวัฒน์ โดยมีนางพรพิมล ไชยนุรัตน์ เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งเพื่อประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการคลี่คลายคดีและนำไปสู่การจับกุมคนร้าย และได้ข้อสรุปว่า ในการทำงานของตำรวจทุกระดับยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร โดยเฉพาะในทางสืบสวนนั้นถือว่าคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง แต่ในทางสอบสวนแทบจะไม่มีความคืบหน้าใด ๆ พอที่จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า จะสามารถนำไปสู่การอนุมัติหมายจับกุมทีมสังหารและผู้บงการได้

นางพรพิมล ไชยนุรัตน์ กล่าวว่า ตั้งแต่นายอธิวัฒน์ สามีถูกฆ่าตายตนได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่และตำรวจทุกระดับ ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสอบสวนปากคำและสอบถามรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ จากตนอย่างต่อเนื่อง แต่เท่าที่ได้รับทราบจากตำรวจทำให้ตนเริ่มไม่มั่นใจว่า การทำงานของตำรวจจะนำไปสู่การจับกุมทีมสังหารหรือผู้บงการได้

นอกจากนี้ ตำรวจเริ่มหันมาให้น้ำหนักกับประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือปลีกย่อยกับคนในหมู่บ้านและในละแวกใกล้เคียง และตนเข้าใจการทำงานของตำรวจแต่โดยส่วนตัวแล้วตนยังมั่นใจในประเด็นเดิมเพราะนายอธิวัฒน์ สามีเขาได้บอกยืนยันกับตนเองและกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาตลอด 2 วันก่อนถูกฆ่าตาย เขาก็ยังพูดย้ำในลักษณะหยอกล้อกับตนในเรื่องที่เขาถูกปองร้ายโดยยังย้ำว่าหากเขาถูกฆ่าตายสาเหตุมาจากเรื่องการเสนอข่าวขุดคุ้ยทางการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน

"สำหรับประเด็นขัดแย้งกับคนข้างบ้าน แม้ในความเป็นจริงจะมีความเป็นไปได้เช่นกัน แต่น้ำหนักน้อยมาก ที่สำคัญคนข้างบ้านที่ขัดแย้งกับนายอธิวัฒน์ ล้วนแต่เกี่ยวข้องโยงใยไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นทั้งนั้น ทำให้การทำงานของตำรวจเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ไม่มีใครให้ความร่วมมือและกล้าให้ข้อมูลกับตำรวจ"

นางพรพิมล กล่าวอีกว่า ตนคงไม่ยอมให้นายอธิวัฒน์ตายฟรีแน่ ตนจะให้เวลาตำรวจทำงานอีกระยะหนึ่งหากไม่มีอะไรคืบหน้าตนจำเป็นที่จะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รวมทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศต่อไป

ในขณะที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การสังหารนายอธิวัฒน์ สร้างความหวาดผวากับนักข่าวในพื้นที่เป็นอย่างมาก ยิ่งมาการพูดวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ตำรวจและประชาชนทั่วไปว่านายอธิวัฒน์ ใม่ใช่รายสุดท้าย แต่ยังมีนักข่าวที่อยู่ในข่ายถูกเด็ดหัวอีก 2-3 ราย ยิ่งทำให้นักข่าวน้อยใหญ่หวาดกลัวจนแทบไม่กล้าออกไปทำข่าวตามปกติและต้องระมัดระวังตัวเองมากยิ่งขึ้นแต่ก็ใช่ว่าจะอยู่รอดปลอดภัยเพราะหากคนร้ายมุ่งสังหารจริงๆ ก็ทำได้อย่างไม่อยากเย็นเนื่องจากนักข่าวในนครศรีธรรมราชไม่มีเขี้ยวเล็บอะไร มาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของฝ่ายบ้านเมืองก็ไม่มีอะไรที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักข่าวได้ ความรู้สึกของนักข่าวทุกคนจึงย่ำแย่มาก

"หากภายในวันที่ 20 ส.ค. 2551 นี้ ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมมือปืนและผู้บงการได้ หรือระบุสาเหตุการสังหารนายอธิวัฒน์ ที่แน่ชัดได้ ทางชมรมนักข่าวจะทำหนังสือถึงองค์กรสื่อและ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและ มท. 1 เพื่อให้เร่งหามาตรการที่ชัดเจนและมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักข่าวในจังหวัดนครศรีธรรมราชรวมทั้งให้เร่งสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมมือปืนและผู้บงการสังหารนายอธิวัฒน์มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว"นายไพฑูรย์ กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น