นครศรธรรมราช - เมียนักข่าวมติชนเมืองคอน ประกาศจะเก็บศพสามีที่ถูกลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยมไว้จนกว่าตำรวจจับกุมคนร้ายได้ ผบช.ภ.8 ลั่น “ทำกับเพื่อนรัก” ขอเวลาสางคดี เผย ตร.มึนตึ๊บมือสังหารใช้ปืน .32 ชี้ มืออาชีพไม่ใช้กัน พล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง รอง ผบ.ตร.ขีดเส้น 10 ส.ค.บินคุมคดีปาฏิหาริย์ฝนตกหนักแดดออก ขณะทำพิธีเก็บศพ ผู้เฒ่าเชื่อจับคนร้ายได้แน่นอน
กรณีคนร้ายบุกเข้าไปสังหาร นายอธิวัฒน์ หรือ แวว ไชยนุรัตน์ อายุ 48 ปี ผู้สื่อข่าวมติชนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตภายในห้องครัว ขณะที่กำลังเตรียมกับข้าวให้กับลูกเมียที่กำลังเดินทางกลับบ้านอย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคดีนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรสื่อทั้งใน และต่างประเทศ อย่างกว้างขวาง เพราะถือเป็นการคุกคามสื่ออย่างรุนแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปี และเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมกำชับตำรวจเร่งสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าในวันนี้ (7 ส.ค.) จะเป็นการบำเพ็ญกุศลศพ นายอธิวัฒน์ เป็นคืนสุดท้าย โดยมี นายสมนึก เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช และ นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ รองประธานบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.เพื่อนสื่อมวลชน เดินทางมาร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนในคดีนี้คนหนึ่ง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ตำรวจสืบสวนสอบสวนจะใกล้ที่จะสรุปสำนวนและรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขออนุมัติหมายจับกุมจากศาลแล้ว ซึ่งล่าสุดตำรวจทราบรถ จยย.พาหนะของคนร้ายทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ และฮอนด้าคลิก สีดำคาดขาว รวมทั้งคนชี้เป้าก่อนวันสังหารไม่กี่วัน โดยอาจจะเสนอขออนุมัติหมายจับกุมในวันนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้วหรือไม่ โดยทาง พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรธรรมราชจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประชุมปรึกษาหารือ และร่วมกันพิจารณาสำนวนและพยานหลักฐานในคดีนี้อีกครั้งหนึ่ง
นางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า เวลา 13.00 น. พรุ่งนี้ (8 ส.ค.) จะมีการทำพิธียกศพนายอธิวัฒน์ ไปยังวัดหนองบัว ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยมีนายปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน และมี พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบชภาค 8 พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ข้าราชการตำรวจระดับสูง นักการเมือง และสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดเดินทางมาร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น
“อย่างไรก็ตาม คงเป็นเพียงแค่พิธีเผาหลอกเท่านั้นเมื่อเสร็จพิธีแล้วจะไม่มีการเผาจริง โดยฉันและญาติๆ ได้ปรึกษาหารือและตกลงกันแล้วว่าจะนำศพนายอธิวัฒน์ ไปเก็บไว้ที่สุสานวัดชลเฉนียน (วัดชายคลอง) ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช จนกว่าทางตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมมือปืนและผู้บงการมาลงโทษตามกฎหมายได้” นางพรพิมล กล่าว
ในขณะที่ พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภาค 8 เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง และให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้คืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยตามปกติ นายอธิวัฒน์ ถือเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกับตนเป็นอย่างมาก มีอะไรก็จะโทรศัพท์บอกเล่ากันมาตลอด ล่าสุด มี 2-3 เรื่องที่ นายอธิวัฒน์ โทรศัพท์ไปเล่าให้ตนฟัง และบอกว่า กำลังถูกปองร้าย ซึ่ง 2-3 ประเด็นดังกล่าวมีน้ำหนักพอสมควรที่นำมาสู่การสังหารนายอธิวัฒน์ได้ ซึ่งในคดีนี้ขอยืนยันว่าตำรวจทำอย่างเต็มที่ และโดยส่วนตัวนั้นถือว่าทำกับเพื่อนรัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูพฤติกรรมของคนร้ายรวมทั้งอาวุธปืนขนาด .32 ที่ใช้สังหารทำให้ตำรวจต้องคิดหนัก เพราะพฤติกรรมและปืนที่ใช้ตามธรรมดามือปืนอาชีพเขาไม่ใช้กัน หรือมีใช้น้อยมาก ตนจึงกำชับให้ตำรวจเร่งสอบสวนในประเด็นส่วนตัวอื่นๆ ในทุกประเด็น เพราะอาจจะเป็นประเด็นที่แท้จริงก็ได้
ในวันที่ 10 ส.ค.2551 นี้ จะมีการสรุปการทำงานทั้งหมดของตำรวจ โดย พล.ต.อ.ปรุง บุญผดุง รอง ผบ.ตร.จะเดินทางมาติดตามคดีด้วยตัวเอง ในส่วนของตำรวจภาค 8 ไม่หนักใจที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งชุดคลี่คลายคดีลงมาร่วมทำคดีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ช่วยกันในทุกระดับ แม้จะมั่นใจว่าในที่สุดตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้แน่ แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ตำรวจจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและอาจจะนำไปสู่การจับแพะ
ในส่วนของครอบครัว นายอธิวัฒน์ ที่อยู่ในความหวาดกลัว ตนได้สั่งการให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชจัดกำลังตำรวจ นปพ.มาคอยอารักขาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้จนกว่าภรรยาลุลูก ๆ รวมทั้งญาติ ๆ ของนายอธิวัฒน์ จะสบายใจมั่นใจในความปลอดภัย” ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อขึ้นหลายช่วง โดยเฉพาะในช่วงที่เคลื่อนศพนายอธิวัฒน์ ออกจากบ้านไปวัดหนองบัวได้เกิดฝนตกหนักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ในขณะที่แสงแดดยังสาดส่องลงมาอย่างแรง และตกอยู่แค่ประมาณ 1 นาที ก็หยุดตกขาดเม็ดไปอย่างทันที
จนกระทั่งนำศพไปถึงวัด ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเหมือนเดิมขึ้นอีก และเมื่อนำศพไปฝังเก็บไว้ในสุสานวัดชลเฉนียน (วัดชายคลอง) ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ในเวลา 17.00 น.ก็เกิดปรากฏการณ์ฝนตกแดดออกอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ โดยฝนตกหนักพร้อมๆ กับแดดออกนานประมาณ 1 นาที ก่อนจะหยุดตกขาดเม็ดไปดื้อๆ ทำให้ผู้คนที่ร่วมในพีต่างวิพากวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
โดยพ่อเฒ่าที่เป็นผู้ประกอบพิธีฝังศพ กล่าวว่า ตอน นายอธิวัฒน์ เสียชีวิตคงจะนอนหงาย และขณะที่วิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ศพ นายอธิวัฒน์ อยู่ในสภาพลืมตา ซึ่งนางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ก็ยืนยันว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ พ่อเฒ่าคนดังกล่าวจึงกล่าวยืนยันว่า คนตายในลักษณะเช่นนี้คนร้าย หรือคนที่ทำให้ตายจะหนีไปไหนไม่รอด และจะถูกจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน
กรณีคนร้ายบุกเข้าไปสังหาร นายอธิวัฒน์ หรือ แวว ไชยนุรัตน์ อายุ 48 ปี ผู้สื่อข่าวมติชนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตภายในห้องครัว ขณะที่กำลังเตรียมกับข้าวให้กับลูกเมียที่กำลังเดินทางกลับบ้านอย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคดีนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรสื่อทั้งใน และต่างประเทศ อย่างกว้างขวาง เพราะถือเป็นการคุกคามสื่ออย่างรุนแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปี และเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมกำชับตำรวจเร่งสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าในวันนี้ (7 ส.ค.) จะเป็นการบำเพ็ญกุศลศพ นายอธิวัฒน์ เป็นคืนสุดท้าย โดยมี นายสมนึก เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช และ นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ รองประธานบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.เพื่อนสื่อมวลชน เดินทางมาร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนในคดีนี้คนหนึ่ง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ตำรวจสืบสวนสอบสวนจะใกล้ที่จะสรุปสำนวนและรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขออนุมัติหมายจับกุมจากศาลแล้ว ซึ่งล่าสุดตำรวจทราบรถ จยย.พาหนะของคนร้ายทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ และฮอนด้าคลิก สีดำคาดขาว รวมทั้งคนชี้เป้าก่อนวันสังหารไม่กี่วัน โดยอาจจะเสนอขออนุมัติหมายจับกุมในวันนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้วหรือไม่ โดยทาง พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรธรรมราชจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประชุมปรึกษาหารือ และร่วมกันพิจารณาสำนวนและพยานหลักฐานในคดีนี้อีกครั้งหนึ่ง
นางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า เวลา 13.00 น. พรุ่งนี้ (8 ส.ค.) จะมีการทำพิธียกศพนายอธิวัฒน์ ไปยังวัดหนองบัว ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยมีนายปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน และมี พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบชภาค 8 พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ข้าราชการตำรวจระดับสูง นักการเมือง และสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดเดินทางมาร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น
“อย่างไรก็ตาม คงเป็นเพียงแค่พิธีเผาหลอกเท่านั้นเมื่อเสร็จพิธีแล้วจะไม่มีการเผาจริง โดยฉันและญาติๆ ได้ปรึกษาหารือและตกลงกันแล้วว่าจะนำศพนายอธิวัฒน์ ไปเก็บไว้ที่สุสานวัดชลเฉนียน (วัดชายคลอง) ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช จนกว่าทางตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมมือปืนและผู้บงการมาลงโทษตามกฎหมายได้” นางพรพิมล กล่าว
ในขณะที่ พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภาค 8 เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง และให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้คืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยตามปกติ นายอธิวัฒน์ ถือเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกับตนเป็นอย่างมาก มีอะไรก็จะโทรศัพท์บอกเล่ากันมาตลอด ล่าสุด มี 2-3 เรื่องที่ นายอธิวัฒน์ โทรศัพท์ไปเล่าให้ตนฟัง และบอกว่า กำลังถูกปองร้าย ซึ่ง 2-3 ประเด็นดังกล่าวมีน้ำหนักพอสมควรที่นำมาสู่การสังหารนายอธิวัฒน์ได้ ซึ่งในคดีนี้ขอยืนยันว่าตำรวจทำอย่างเต็มที่ และโดยส่วนตัวนั้นถือว่าทำกับเพื่อนรัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูพฤติกรรมของคนร้ายรวมทั้งอาวุธปืนขนาด .32 ที่ใช้สังหารทำให้ตำรวจต้องคิดหนัก เพราะพฤติกรรมและปืนที่ใช้ตามธรรมดามือปืนอาชีพเขาไม่ใช้กัน หรือมีใช้น้อยมาก ตนจึงกำชับให้ตำรวจเร่งสอบสวนในประเด็นส่วนตัวอื่นๆ ในทุกประเด็น เพราะอาจจะเป็นประเด็นที่แท้จริงก็ได้
ในวันที่ 10 ส.ค.2551 นี้ จะมีการสรุปการทำงานทั้งหมดของตำรวจ โดย พล.ต.อ.ปรุง บุญผดุง รอง ผบ.ตร.จะเดินทางมาติดตามคดีด้วยตัวเอง ในส่วนของตำรวจภาค 8 ไม่หนักใจที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งชุดคลี่คลายคดีลงมาร่วมทำคดีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ช่วยกันในทุกระดับ แม้จะมั่นใจว่าในที่สุดตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้แน่ แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ตำรวจจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและอาจจะนำไปสู่การจับแพะ
ในส่วนของครอบครัว นายอธิวัฒน์ ที่อยู่ในความหวาดกลัว ตนได้สั่งการให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชจัดกำลังตำรวจ นปพ.มาคอยอารักขาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้จนกว่าภรรยาลุลูก ๆ รวมทั้งญาติ ๆ ของนายอธิวัฒน์ จะสบายใจมั่นใจในความปลอดภัย” ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อขึ้นหลายช่วง โดยเฉพาะในช่วงที่เคลื่อนศพนายอธิวัฒน์ ออกจากบ้านไปวัดหนองบัวได้เกิดฝนตกหนักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ในขณะที่แสงแดดยังสาดส่องลงมาอย่างแรง และตกอยู่แค่ประมาณ 1 นาที ก็หยุดตกขาดเม็ดไปอย่างทันที
จนกระทั่งนำศพไปถึงวัด ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเหมือนเดิมขึ้นอีก และเมื่อนำศพไปฝังเก็บไว้ในสุสานวัดชลเฉนียน (วัดชายคลอง) ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ในเวลา 17.00 น.ก็เกิดปรากฏการณ์ฝนตกแดดออกอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ โดยฝนตกหนักพร้อมๆ กับแดดออกนานประมาณ 1 นาที ก่อนจะหยุดตกขาดเม็ดไปดื้อๆ ทำให้ผู้คนที่ร่วมในพีต่างวิพากวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
โดยพ่อเฒ่าที่เป็นผู้ประกอบพิธีฝังศพ กล่าวว่า ตอน นายอธิวัฒน์ เสียชีวิตคงจะนอนหงาย และขณะที่วิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ศพ นายอธิวัฒน์ อยู่ในสภาพลืมตา ซึ่งนางพรพิมล ไชยนุรัตน์ ก็ยืนยันว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ พ่อเฒ่าคนดังกล่าวจึงกล่าวยืนยันว่า คนตายในลักษณะเช่นนี้คนร้าย หรือคนที่ทำให้ตายจะหนีไปไหนไม่รอด และจะถูกจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน