xs
xsm
sm
md
lg

ธ.ก.ส.เมืองลุงพร้อมรับจำนำข้าว – นายกโรงสีหวั่นชาวบ้านปฏิเสธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พัทลุง - ธ.ก.ส. สาขาพัทลุง พร้อมรับจำนำข้าวนาปรังจากเกษตรกร ด้านประธานชมรมโรงสีข้าวหวั่นจะไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำ

วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาพัทลุง (ธ.ก.ส.) ได้มีการประชุมทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อรับนโยบายการรับจำนำข้าวเปลือก นาปรัง ปี 2551 จากเกษตรกร ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการยกระดับราคาข้าวเปลือกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยได้จัดสรรงบประมาณ จำนวนเงิน 1,132.17 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 โดยมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์การคลังสินค้า (อคส.)

ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดำเนินการออกหนังสือรับรองผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2551 เพื่อให้เกษตรกรใช้เป็นหลักฐานในการนำข้าวเปลือกไปฝากไว้กับโรงสีที่ขึ้นทะเบียนกับ อคส.โดย อคส.จะออกใบประทวนสินค้าให้แก่เกษตรกร เพื่อนำไปจำนำกับ ธ.ก.ส. ส่วนข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำไปฝากไว้ โรงสีจะแปรสภาพเป็นข้าวสาร แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ในโกดังกลาง ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับ อคส.เพื่อรอการจำหน่ายต่อไป

นายอุทัย หนูวาด ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.พัทลุง กล่าวว่า ปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 อคส.เป็นผู้รับฝาก และออกใบประทวนสินค้าตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน -30 กันยายน 2551 ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 15 มิถุนายน ถึง 31 ธันวาคม 2551 โดยราคารับจำนำในความชื้นไม่เกิน 15% คือ ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง 100% ราคา 14,000 บาท ,ข้าวเปลือก 5% ราคา 13,800 บาท, ข้าวเปลือก 10% ราคา 13,600 บาท, ข้าวเปลือก 15% ราคา 13,200 บาท และข้าวเปลือก 25% ราคา 12,800 บาท ส่วนข้าวปทุมธานีชนิดสีต้นข้าว 42 กรัม ราคาตันละ 14,000 บาท และชนิด

สีต้นข้าวต่ำกว่า 42 กรัม ปรับลดกรัมละ 100 บาท โดยการรับจำนำครั้งหลังสุด เมื่อปี 2549 เกษตรกรในจังหวัดพัทลุง เข้าร่วมโครงการค่อนข้างน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่จะขายตามโรงสีทั่วไป

ด้าน นายไสว สุวรรณพยัคฆ์ ประธานชมรมโรงสีข้าวพัทลุง กล่าวว่าที่ผ่านมา ชาวนาในจังหวัดพัทลุง เข้าร่วมโครงการค่อนข้างน้อย แต่ปีนี้ คิดว่าจะมากขึ้น เนื่องจากราคารับจำนำค่อนข้างสูง น่าจะเป็นสิ่งจูงใจของชาวนาได้ แต่สิ่งที่ตนอย่างจะฝากไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ เรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวขอให้ข้อมูลเป็นจริง เพราะเกรงจะมีการสวมสิทธิ์ ในขณะที่โรงสีข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการในจังหวัดพัทลุงตนคิดว่า 3 โรงก็พอแล้ว เพราะข้าวนาปรังในจังหวัดพัทลุงมีไม่มากนัก โดยตนเองจะเข้าร่วมโครงการด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น