ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ธ.ก.ส.โคราช เตรียมงบฯ 700 ล้าน รับจำนำข้าวนาปรัง ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 60,000 ตัน เร่งรัดส่วนกลางอนุมัติโรงสีเข้าร่วมโครงการหลังเสนอให้พิจารณา 10 แห่งและเถ้าแก่โรงสียังยื้อในหลายเงื่อนไข คาดเปิดจุดรับจำนำได้ภายในสัปดาห์นี้ ด้านเกษตรจังหวัดฯ เผยเกษตรกรแห่ทำนาปรังปีนี้เพิ่มขึ้น 2 หมื่นไร่ เหตุราคาข้าวดี แต่ล่าสุดยังไม่มีชาวนาโคราชขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯแม่แต่รายเดียว พร้อมกำชับคุมเข้มป้องกันสวมสิทธิ์หรือการทุจริตทุกรูปแบบ
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายโชค น้อยศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 ที่ จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้ทาง ธ.ก.ส.นครราชสีมา ได้เร่งรัดให้คณะกรรมการส่วนกลางพิจารณาอนุมัติโรงสีข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวฯ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังจากได้เสนอชื่อโรงสีข้าวที่ยื่นความจำนงไปให้แล้วจำนวน 10 แห่ง คาดว่าจะอนุมัติและเปิดรับจำนำข้าวนาปรัง จากเกษตรกรได้ภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่โรงสีข้าวที่ยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการ ขอพิจารณาในเงื่อนไขบางประการ เช่น ขอดูรายละเอียดเรื่อง อัตราสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร, ค่าจ้างแปรสภาพ, ค่าขนส่ง และ ระยะเวลาสั่งสีแปรสภาพข้าวแต่ละครั้งด้วย แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหา
นายโชค กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้สอบถามเข้ามายัง ธ.ก.ส.เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ไปขึ้นทะเบียนและขอใบรับรองการเป็นเกษตรกรจากสำนักงานเกษตรอำเภอได้ทุกอำเภอ เพื่อจะได้มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลล่าสุด ในจังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังทั้งหมดประมาณ 100,000 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตรวมกว่า 80,000 ตัน ทาง ธ.ก.ส.นครราชสีมา ได้เตรียมวงเงินไว้จำนำข้าวนาปรังครั้งนี้กว่า 700 ล้าน ตั้งเป้าว่าจะมีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำไม่น้อยกว่า 60,000 ตัน
ด้านนายสุพงศ์ สินธุรัตน์ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ปีนี้ จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังทั้งสิ้น 114,964 ไร่ ในพื้นที่ 21 อำเภอ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 2 หมื่นไร่เนื่องจากปีนี้ราคาข้าวดี มีเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังทั้งหมดกว่า 3,000 ราย และคาดว่าจะมีผลผลิตรวมกว่า 80,000 ตัน ขณะนี้เกษตรกรบางรายได้ทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตไปบ้างแล้ว คงเหลือยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกประมาณ 20,000 ตัน ซึ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวทั้งหมดภายสิ้นเดือน มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเกษตรกรมาขอขึ้นทะเบียนและขอใบรับรองการเป็นเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง ปี 2551 กับทางสำนักงานเกษตรอำเภอในอำเภอต่างๆ แม้แต่รายเดียว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในระหว่างการเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือยังไม่ทราบข่าว ประกอบกับทางจังหวัดนครราชสีมายังไม่เปิดจุดรับจำนำข้าวเนื่องจากอยู่ระหว่างการหาโรงสีเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งได้สั่งการให้เกษตรอำเภอทุกแห่งในพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้รับทราบแล้ว
“พร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของการรับจำนำข้าวได้เข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์เกษตรกร หรือเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวนาปรังในทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาด” นายสุพงศ์ กล่าว
