กระบี่ -คณะกรรมมาธิการวิสามัญฯ ติดตามการแก้ปัญหาของชาวประมงจังหวัดกระบี่ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำมันแพง
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และติดตามการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการประมง พร้อมด้วย นายภิญโญ สายนุ้ย สมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมประชุมรับฟังปัญหาของผู้ประกอบกิจการประมงกระบี่ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ หลังจากที่ชาวประมงได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากปัญหาภาวะน้ำมันแพง โดยมีนายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยว เข้าร่วมประชุม
ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงปัญหาของเษตรชาวประมงจังหวัดกระบี่ ต้องหยุดกิจการไปแล้วหลายราย เนื่องจากปัญหาราคานำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งในขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2 ราย รวมทั้งปัญหาของผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งจำนวนมาก ต้องหยุดเลี้ยงไปแล้วเกินครึ่ง จากเดิมที่มีอยู่ จำนวนกว่า 500 ราย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันแพง และราคากุ้งตกต่ำ ขณะผู้ประกอบการที่เลิกกิจการประมง ก็เปลี่ยนไปทำการเกษตรแทน เช่นสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา แต่ก็ยังมีอีกหลายรายที่ยังไม่มีกิจการรองรับ
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการฯได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้ง ด้วยการลดปริมาณการเลี้ยง และเลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติเพราะลดต้นทุนพลังงาน สามารถทำได้แบบยั่งยืน อย่างเช่น พื้นที่เลี้ยง 1 ไร่ เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 หมื่นตัวเพื่อลดต้นทุน หรือเปลี่ยนจากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนาไม มาเป็นกุ้งกุลาดำเพราะมีอัตราโตที่สูงกว่า และมีราคาดี ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับผู้ประกอบกิจการประมงพาณิชย์ ได้มีการนำเสนอ ให้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์จับสัตว์น้ำในทะเล อย่างเช่นที่ต่างประเทศนิยมใช้กันในปัจจุบัน เพราะสามารถลดจำนวนการใช้แรงงานได้ถึง 50 %
ส่วนเกษตรกรที่เลิกกิจการแล้ว ก็แนะนำให้หันมาเลี้ยงปลากระชังแทนการออกจับปลาในทะเล เพราะลดต้นทุนการใช้พลังงานได้ โดยจะมีการนำผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ หรือให้ผู้ประกอบการไปศึกษาดูจากต่างประเทศ
พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการประมง กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ ทางคณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมข้อมูลที่ได้ เพื่อนำเสนอให้ทางกระทรวงฯ พิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และติดตามการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการประมง พร้อมด้วย นายภิญโญ สายนุ้ย สมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมประชุมรับฟังปัญหาของผู้ประกอบกิจการประมงกระบี่ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ หลังจากที่ชาวประมงได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากปัญหาภาวะน้ำมันแพง โดยมีนายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยว เข้าร่วมประชุม
ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงปัญหาของเษตรชาวประมงจังหวัดกระบี่ ต้องหยุดกิจการไปแล้วหลายราย เนื่องจากปัญหาราคานำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งในขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2 ราย รวมทั้งปัญหาของผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งจำนวนมาก ต้องหยุดเลี้ยงไปแล้วเกินครึ่ง จากเดิมที่มีอยู่ จำนวนกว่า 500 ราย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันแพง และราคากุ้งตกต่ำ ขณะผู้ประกอบการที่เลิกกิจการประมง ก็เปลี่ยนไปทำการเกษตรแทน เช่นสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา แต่ก็ยังมีอีกหลายรายที่ยังไม่มีกิจการรองรับ
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการฯได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้ง ด้วยการลดปริมาณการเลี้ยง และเลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติเพราะลดต้นทุนพลังงาน สามารถทำได้แบบยั่งยืน อย่างเช่น พื้นที่เลี้ยง 1 ไร่ เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 หมื่นตัวเพื่อลดต้นทุน หรือเปลี่ยนจากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนาไม มาเป็นกุ้งกุลาดำเพราะมีอัตราโตที่สูงกว่า และมีราคาดี ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับผู้ประกอบกิจการประมงพาณิชย์ ได้มีการนำเสนอ ให้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์จับสัตว์น้ำในทะเล อย่างเช่นที่ต่างประเทศนิยมใช้กันในปัจจุบัน เพราะสามารถลดจำนวนการใช้แรงงานได้ถึง 50 %
ส่วนเกษตรกรที่เลิกกิจการแล้ว ก็แนะนำให้หันมาเลี้ยงปลากระชังแทนการออกจับปลาในทะเล เพราะลดต้นทุนการใช้พลังงานได้ โดยจะมีการนำผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ หรือให้ผู้ประกอบการไปศึกษาดูจากต่างประเทศ
พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการประมง กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ ทางคณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมข้อมูลที่ได้ เพื่อนำเสนอให้ทางกระทรวงฯ พิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป
