นครศรีธรรมราช – รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ห่วงคนทำงานสื่อถูกคุกคามถี่ขึ้น อัดพวกที่ต้องการสื่อสารกับสาธารณชนผ่านสื่อมวลชน ต้องมีวุฒิภาวะพอ แนะถ้าไม่พร้อมก็อย่าเสนอหน้า
วันนี้ (27 พ.ค.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในระยะหลังนี้มีกรณีการคุกคามผู้ปฏิบัติงานสื่อในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตั้งแต่กรณีนักข่าวหญิงหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ถูกชายฉกรรจ์ติดตามไปถึงหน้าหอพัก ภายหลังการทำข่าวสัมภาษณ์และเกิดขัดแย้งกับนักการเมือง
ล่าสุด เกิดกรณีกลุ่มผู้แถลงข่าวไม่พอใจคำถามนักข่าวประจำรัฐสภาที่พยายามซักไซ้ จึงถ่ายรูปกลุ่มผู้สื่อข่าวจนบานปลายถึงขั้นมีการแจ้งความ นอกจากนี้ ยังเกิดกรณีคนร้ายไล่ยิงผู้สื่อข่าวมติชนประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีบทบาทในการเปิดโปงข่าวสำคัญในพื้นที่ เรื่องเหล่านี้มักเกิดขึ้นและเป็นที่สนใจของสังคมเพียง 1-2 วันจากนั้นก็เงียบไป
นายอภิชาต กล่าวว่า การคุกคามต่อผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชนในลักษณะเช่นนี้มีอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่รวบรวมกรณีเหล่านี้ไว้ในหนังสือวันนักข่าวมาทุกปี พบว่า รวมแล้วมีมากกว่า 40 กรณี มีทั้งการทำร้ายร่างกาย การข่มขู่ การทำลายทรัพย์สิน เป็นต้น ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชนจึงตกอยู่ในสภาพที่ตั้งรับการถูกข่มขู่คุกคามในลักษณะนี้เรื่อยมา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วง คือ ปัจจุบันแหล่งข่าวหรือผู้แถลงข่าว มักเห็นสื่อมวลชนเป็นเพียงเครื่องมือ หรือกระบอกเสียงในการเผยแพร่ข่าวสารให้กับตัวเองเท่านั้น จึงคิดว่าจะพูดอะไรก็ได้ แล้วสื่อก็จะเสนออย่างที่ตนเองพูดหรือต้องการ แต่คนเหล่านั้นไม่ได้มองสื่อในมิติของผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ค้นหาความจริง ในฐานะสุนัขเฝ้าบ้าน ดังนั้นเมื่อถูกสื่อซักไซ้ไล่เรียงจนตอบไม่ได้ก็มักจะโกรธ มองสื่อกลายเป็นศัตรูหรือเป็นตัวแทนของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดการคุกคามในรูปแบบต่างๆ ตามมา
“ใครก็ตามที่ต้องการสื่อสารกับสาธารณชนผ่านสื่อมวลชน ต้องมีวุฒิภาวะสูงพอ ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ถูกซักถาม ต้องเคารพและเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วย ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรจะเสนอหน้ามานั่งบนโต๊ะแถลงข่าว” นายอภิชาต กล่าว และว่า
ในกรณีการคุกคามสื่อถึงขั้นใช้อาวุธไล่เข่นฆ่าเป็นเรื่องร้ายแรง ที่รัฐบาลจะต้องให้ความสนใจ เอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ กรณีที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ ทั้งๆ ที่เคยเกิดเหตุคุกคามด้วยการยิงใส่บ้านผู้สื่อข่าวรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว
วันนี้ (27 พ.ค.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในระยะหลังนี้มีกรณีการคุกคามผู้ปฏิบัติงานสื่อในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตั้งแต่กรณีนักข่าวหญิงหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ถูกชายฉกรรจ์ติดตามไปถึงหน้าหอพัก ภายหลังการทำข่าวสัมภาษณ์และเกิดขัดแย้งกับนักการเมือง
ล่าสุด เกิดกรณีกลุ่มผู้แถลงข่าวไม่พอใจคำถามนักข่าวประจำรัฐสภาที่พยายามซักไซ้ จึงถ่ายรูปกลุ่มผู้สื่อข่าวจนบานปลายถึงขั้นมีการแจ้งความ นอกจากนี้ ยังเกิดกรณีคนร้ายไล่ยิงผู้สื่อข่าวมติชนประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีบทบาทในการเปิดโปงข่าวสำคัญในพื้นที่ เรื่องเหล่านี้มักเกิดขึ้นและเป็นที่สนใจของสังคมเพียง 1-2 วันจากนั้นก็เงียบไป
นายอภิชาต กล่าวว่า การคุกคามต่อผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชนในลักษณะเช่นนี้มีอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่รวบรวมกรณีเหล่านี้ไว้ในหนังสือวันนักข่าวมาทุกปี พบว่า รวมแล้วมีมากกว่า 40 กรณี มีทั้งการทำร้ายร่างกาย การข่มขู่ การทำลายทรัพย์สิน เป็นต้น ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชนจึงตกอยู่ในสภาพที่ตั้งรับการถูกข่มขู่คุกคามในลักษณะนี้เรื่อยมา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วง คือ ปัจจุบันแหล่งข่าวหรือผู้แถลงข่าว มักเห็นสื่อมวลชนเป็นเพียงเครื่องมือ หรือกระบอกเสียงในการเผยแพร่ข่าวสารให้กับตัวเองเท่านั้น จึงคิดว่าจะพูดอะไรก็ได้ แล้วสื่อก็จะเสนออย่างที่ตนเองพูดหรือต้องการ แต่คนเหล่านั้นไม่ได้มองสื่อในมิติของผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ค้นหาความจริง ในฐานะสุนัขเฝ้าบ้าน ดังนั้นเมื่อถูกสื่อซักไซ้ไล่เรียงจนตอบไม่ได้ก็มักจะโกรธ มองสื่อกลายเป็นศัตรูหรือเป็นตัวแทนของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดการคุกคามในรูปแบบต่างๆ ตามมา
“ใครก็ตามที่ต้องการสื่อสารกับสาธารณชนผ่านสื่อมวลชน ต้องมีวุฒิภาวะสูงพอ ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ถูกซักถาม ต้องเคารพและเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วย ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรจะเสนอหน้ามานั่งบนโต๊ะแถลงข่าว” นายอภิชาต กล่าว และว่า
ในกรณีการคุกคามสื่อถึงขั้นใช้อาวุธไล่เข่นฆ่าเป็นเรื่องร้ายแรง ที่รัฐบาลจะต้องให้ความสนใจ เอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ กรณีที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ ทั้งๆ ที่เคยเกิดเหตุคุกคามด้วยการยิงใส่บ้านผู้สื่อข่าวรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว
