นครศรีธรรมราช – รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แจงรู้ทัน “จักรภพ” ห้ามสื่อเสนอข่าวรัฐประหารอ้างเหตุเพื่อหวังปิดปากฝ่ายตรงข้าม ชี้อาจทำให้บ้านเมืองวกฤตมากขึ้น
ที่ จ.นครศรีธรรมราช (11 พ.ค.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกคำสั่งห้ามสื่อมวลชนของรัฐเสนอข่าว หรือเนื้อหาสนับสนุนการทำรัฐประหาร เพราะเรื่องนี้นอกจากเป็นสำนึกของวิชาชีพสื่อสารมวลชน ที่ต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว การไปสนับสนุนการทำรัฐประหาร ยังผิดกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ไม่มีใครอยากเห็นระบอบประชาธิปไตย ต้องเว้นวรรคลงด้วยการทำรัฐประหารตามที่นายจักรภพหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เชื่อว่า มีวาระแฝงเร้นแน่นอน
นายอภิชาต กล่าวต่อว่า ที่น่ากังวลคือ คำสั่งดังกล่าวจะเป็นการฉวยโอกาสปิดปากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลไม่ให้เสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง ผ่านทางสื่อของรัฐโดยเหมารวมเอาว่าความคิดเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนี้ ไม่เป็นการสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย เป็นพวก คมช.หรือพวกนิยมรัฐประหารซึ่งคนในรัฐบาลนี้ถนัดอยู่แล้วกับการเที่ยวเอาหมวกเผด็จการไปสวมให้ใครต่อใครที่เป็นฝ่ายตรงข้ามตัวเอง
“นายจักรภพ ต้องนิยามให้ชัดว่าการสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อมคืออะไร ต่อไปข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถูกสั่งห้ามออกทางสื่อของรัฐเพราะประชาธิปปัตย์เห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ไม่เอาด้วยกับระบอบทักษิณ ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของคนบางกล่ม แบบนี้ไม่เป็นที่พอใจของนายจักรภพแน่นอน แล้วจะถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกนิยมรัฐประหารในที่สุด” นายอภิชาต กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า เห็นชัดว่า นายจักรภพ มีเป้าหมายการยึดครองสื่อของรัฐเป็นกระบอกเสียงตัวเองชัดเจนมากและมีพฤติกรรมใช้สื่อมวลชนของรัฐเป็นเครื่องมือในการปิดปากและทำลายฝ่ายตรงข้ามหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้จะยิ่งทำให้บ้านเมืองวิกฤตมากขึ้น นายจักรภพ ควรทบทวนบทบาทตัวเองเพราะยิ่งพูดยิ่งสร้างความสับสน และสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย
ที่ จ.นครศรีธรรมราช (11 พ.ค.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกคำสั่งห้ามสื่อมวลชนของรัฐเสนอข่าว หรือเนื้อหาสนับสนุนการทำรัฐประหาร เพราะเรื่องนี้นอกจากเป็นสำนึกของวิชาชีพสื่อสารมวลชน ที่ต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว การไปสนับสนุนการทำรัฐประหาร ยังผิดกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ไม่มีใครอยากเห็นระบอบประชาธิปไตย ต้องเว้นวรรคลงด้วยการทำรัฐประหารตามที่นายจักรภพหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เชื่อว่า มีวาระแฝงเร้นแน่นอน
นายอภิชาต กล่าวต่อว่า ที่น่ากังวลคือ คำสั่งดังกล่าวจะเป็นการฉวยโอกาสปิดปากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลไม่ให้เสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง ผ่านทางสื่อของรัฐโดยเหมารวมเอาว่าความคิดเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนี้ ไม่เป็นการสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย เป็นพวก คมช.หรือพวกนิยมรัฐประหารซึ่งคนในรัฐบาลนี้ถนัดอยู่แล้วกับการเที่ยวเอาหมวกเผด็จการไปสวมให้ใครต่อใครที่เป็นฝ่ายตรงข้ามตัวเอง
“นายจักรภพ ต้องนิยามให้ชัดว่าการสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อมคืออะไร ต่อไปข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถูกสั่งห้ามออกทางสื่อของรัฐเพราะประชาธิปปัตย์เห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ไม่เอาด้วยกับระบอบทักษิณ ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของคนบางกล่ม แบบนี้ไม่เป็นที่พอใจของนายจักรภพแน่นอน แล้วจะถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกนิยมรัฐประหารในที่สุด” นายอภิชาต กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า เห็นชัดว่า นายจักรภพ มีเป้าหมายการยึดครองสื่อของรัฐเป็นกระบอกเสียงตัวเองชัดเจนมากและมีพฤติกรรมใช้สื่อมวลชนของรัฐเป็นเครื่องมือในการปิดปากและทำลายฝ่ายตรงข้ามหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้จะยิ่งทำให้บ้านเมืองวิกฤตมากขึ้น นายจักรภพ ควรทบทวนบทบาทตัวเองเพราะยิ่งพูดยิ่งสร้างความสับสน และสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย
