นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 เปิดเผยว่า ชมรม ส.ส.ร. 50 จะหารือเกี่ยวกับการเตรียมยื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล วันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) เพื่อขอมติสมาชิกชมรมออกเป็นแถลงการณ์ เรียกร้องให้ ส.ส.ต้องมีอิสระในการตัดสินใจ ไม่อยู่ใต้อาณัติ และการควบคุมของใคร เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 122 บัญญัติ
นายเสรี กล่าวว่า เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่าเป็นการแก้เพื่อตัวเอง และจะทำลายระบบกฎหมายของประเทศ จึงจะขอให้ ส.ส.ทุกคน โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เลือกดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน นายเสรี กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะต้องออกมายืนยันมากกว่านี้ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลมีความไม่ชอบธรรม ต้องสร้างมาตรการกดดัน และเชื่อมต่อกับภาคประชาชน และหาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ฝ่ายค้านก็ต้องยื่นถอดถอน เพราะถือเป็นการทำผิดชัดตามมาตรา 122 และต้องสร้างความชัดเจนในความอิสระให้เป็นตัวอย่างแก่ ส.ส.พรรคอื่น เพื่อให้เกิดสำนึก
สำหรับบทบาทภาคประชาชนนั้น นายเสรี กล่าวว่า หาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ อาจจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 ยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า กระบวนการพิจารณากฎหมายมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อมโยงกับมาตรา 68 ว่าด้วยสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และมาตรา 122 แต่หากสุดท้ายใช้ช่องทางนี้ไม่เป็นผล ก็อาจค่อยใช้ช่องทางการยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นายเสรี กล่าวว่า จะขอมติสมาชิกชมรม เพื่อเร่งรัดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอัยการสูงสุด สรุปสำนวนคดียุบพรรคให้ชัดเจน และรวดเร็ว เพราะหากยังล่าช้า และยังไม่มีความชัดเจนแบบนี้ คนในสังคมจะยิ่งทะเลาะไปกันใหญ่ หากทำสำนวนชัดเจน คนในสังคมจะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน
นายเสรี กล่าวว่า เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่าเป็นการแก้เพื่อตัวเอง และจะทำลายระบบกฎหมายของประเทศ จึงจะขอให้ ส.ส.ทุกคน โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เลือกดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน นายเสรี กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะต้องออกมายืนยันมากกว่านี้ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลมีความไม่ชอบธรรม ต้องสร้างมาตรการกดดัน และเชื่อมต่อกับภาคประชาชน และหาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ฝ่ายค้านก็ต้องยื่นถอดถอน เพราะถือเป็นการทำผิดชัดตามมาตรา 122 และต้องสร้างความชัดเจนในความอิสระให้เป็นตัวอย่างแก่ ส.ส.พรรคอื่น เพื่อให้เกิดสำนึก
สำหรับบทบาทภาคประชาชนนั้น นายเสรี กล่าวว่า หาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ อาจจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 ยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า กระบวนการพิจารณากฎหมายมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อมโยงกับมาตรา 68 ว่าด้วยสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และมาตรา 122 แต่หากสุดท้ายใช้ช่องทางนี้ไม่เป็นผล ก็อาจค่อยใช้ช่องทางการยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นายเสรี กล่าวว่า จะขอมติสมาชิกชมรม เพื่อเร่งรัดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอัยการสูงสุด สรุปสำนวนคดียุบพรรคให้ชัดเจน และรวดเร็ว เพราะหากยังล่าช้า และยังไม่มีความชัดเจนแบบนี้ คนในสังคมจะยิ่งทะเลาะไปกันใหญ่ หากทำสำนวนชัดเจน คนในสังคมจะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน