ระนอง-ดีเอสไอลงพื้นที่ระนองประสานข้อมูลผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองพร้อมดึง ปปง.เข้าร่วมยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว เตรียมขอออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 5 ราย
กรณีรถบรรทุกห้องเย็นลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าอัดแน่นเต็มห้องเย็นเดินทางจากแพปลาต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ไปส่งที่ จ.พังงา และจ.ภูเก็ตระหว่างทางระบบปรับอากาศห้องเย็นเกิดขัดข้องทำให้แรงงานพม่าขาดอากาศหายใจเสียชีวิต 54 ศพ และบาดเจ็บ 66 คน หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมเจ้าของรถห้องเย็นมรณะ พร้อมติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่เตรียมการขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดระนอง กับกลุ่มขบวนการผู้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดในครั้งนี้
พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองเปิดเผย ความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่าขณะนี้ได้เตรียมการขออนุมัติหมายจับ ต่อศาลจังหวัดระนองกับกลุ่มขบวนการผู้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดในครั้งนี้อีกจำนวน 5 คนที่เป็นผู้ร่วมขบวนการทั้งต้นทางและปลายทางที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดระนองขณะนี้ได้ส่งกำลังไปประกบตัวก่อนออกหมายจับแล้วบางส่วน ทั้งนี้ได้เชิญตัวหนึ่งในผู้ที่จะออกมาหมายจับมาสอบถามข้อมูลเป็นการเบื้องต้นแล้ว ซึ่งก็ได้ข้อมูลเป็นที่น่าพอใจ
พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนายสุชล บุญปล้อง คนขับรถสิบล้อคันดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ทางชุดสายสืบออกพื้นที่ทำการหาข่าวเพิ่มเติมจากผู้ที่ขับรถสิบล้อด้วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับนายสุชลเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบหาตัวนายสุชล
เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือหากในกลุ่มขบวนการดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอาจจะส่งผลถึงเรื่องความปลอดภัยของนายสุชล จึงอยากให้นายสุชลเข้ามอบตัวเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ ทางชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบข้อมูลดูว่าก่อนเกิดเหตุการณ์นายสุชลได้ติดต่อกับใครบ้างจากนั้นจะมาตรวจสอบดูว่าผู้ที่นายสุชลติดต่อมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ด้วยหรือไม่ พร้อมยืนยันมาหากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เราจะจัดการอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจข้าราชการระดับไหนก็ตาม
ด้านพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรมติ เปิดเผยว่าเรื่องการตายของแรงงานต่างด้าวทั้ง 54 คน ทางรตม.กระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้นโยบายมาเป็นพิเศษ
การลงพื้นที่ไปยังจังหวัดระนองในครั้งนี้ เพื่อเติมเต็มกับตำรวจภูธรจังหวัดระนองชุดทำงานได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงส์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ทั้งในเรื่องการดำเนินคดีต่อแรงงานต่างด้าว และผู้ร่วมขบวนการตั้งแต่คนขับรถเจ้าของรถ นายหน้าจัดส่ง นายหน้ารับซื้อ ที่มีการตั้งข้อหาทำการประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและข้อหานำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินคดีกับแรงงานงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มองค์กรต่างๆ กำลังจับตาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องการทำงานบางเรื่องจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน
การสอบสวนพยานแวดล้อมที่เป็นแรงงานชาวพม่า กลุ่มที่ถูกจับควรกระทำอย่างรวดเร็วและเร่งด่วนเนื่องจากแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวใกล้จะพ้นโทษ หากว่าแรงงานกลุ่มดังกล่าวถูกผลักดันออกไปแล้วเจ้าหน้าที่ยังสอบ เพื่อเป็นพยานไม่เสร็จสิ้นอาจจะมีปัญหาภายหลังได้เพราะไม่สามารถไปติดตามดัวได้หลังจากที่กลุ่มแรงงานเดินทางกลับประเทศ
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดจากการหารือกับผบก.ภ.จว. ระนอง ได้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันทราบว่า ในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัดระนอง มีบัญชีรายชื่อเครือข่ายการค้ามนุษย์ใหญ่ประมาณ 10กลุ่ม ดีเอสไอ เองก็มีข้อมูลบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้ค้าแรงงานประมาณ10 กว่ากลุ่มซึ่งบางกลุ่มมีรายชื่อซ้ำกันจึงแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยการทำงานในครั้งนี้ทางดีเอสไอ จะเชิญ ปปง.มาร่วมด้วย
เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ค้าแรงงานในการเรื่องการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและการทำการประมาณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตไม่เพียงพอจึงจะต้องดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ของกลุ่มเครือข่ายทั้งหมด เช่น นายดำรงผุสดี (หรือโก้รัน) เจ้าของรถ บ.รุ่งเรืองทรัพย์เราต้องดำเนินคดีเพื่อยึดทรัพย์ พร้อมทั้งใช้พ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็กที่มีโทษจำคุกถึง 5 ปี โดยพ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีความผิดอีก 8 มูลฐาน รวมไปถึงการฟอกเงินด้วย
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ป้องกันจังหวัดระนอง กล่าว่าได้รายความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวให้กับนางกาญจนาภา กี่หมันผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ทราบทุระยะโดยเรื่องที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาสาสตร์ กระทรวงยุติธรรมและคณะเดินทางตรวจที่เกิดเหตุและรถยนต์บรรทุกสิบล้อห้องเย็น ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 70-0619 ระนอง ของกลางในคดี เป็นการตรวจหาดีเอ็นเอและหลักฐานประกอบอื่น ๆเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวผู้ขับรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดกระทำผิด
ทางด้านนายธวัชชัย งามผ่องใส หัวหน้านกลุ่มนโยบายและวิชาการนักพัฒนาสังคม 8ว.รักษาการพัฒนาคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนองพร้อมด้วยมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิคาทอริกสุราษฎร์ธานีที่ดูแลเรื่องแรงงานพม่าเข้าเยี่ยมดูแลความเป็นอยู่ของเด็กพม่าจำนวน 14 คนที่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะอายุไม่ถึง 18 ปี ว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ดูแลควบคุมตัวในระยะรอการผลักดันให้เป็นอย่างดี พร้อมมอบ ขนมน้ำดื่มและเครื่องอุปโภค-บริโภคของใช้ที่จำเป็นให้กับเด็กๆ ด้วย
กรณีรถบรรทุกห้องเย็นลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าอัดแน่นเต็มห้องเย็นเดินทางจากแพปลาต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ไปส่งที่ จ.พังงา และจ.ภูเก็ตระหว่างทางระบบปรับอากาศห้องเย็นเกิดขัดข้องทำให้แรงงานพม่าขาดอากาศหายใจเสียชีวิต 54 ศพ และบาดเจ็บ 66 คน หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมเจ้าของรถห้องเย็นมรณะ พร้อมติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่เตรียมการขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดระนอง กับกลุ่มขบวนการผู้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดในครั้งนี้
พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองเปิดเผย ความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่าขณะนี้ได้เตรียมการขออนุมัติหมายจับ ต่อศาลจังหวัดระนองกับกลุ่มขบวนการผู้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดในครั้งนี้อีกจำนวน 5 คนที่เป็นผู้ร่วมขบวนการทั้งต้นทางและปลายทางที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดระนองขณะนี้ได้ส่งกำลังไปประกบตัวก่อนออกหมายจับแล้วบางส่วน ทั้งนี้ได้เชิญตัวหนึ่งในผู้ที่จะออกมาหมายจับมาสอบถามข้อมูลเป็นการเบื้องต้นแล้ว ซึ่งก็ได้ข้อมูลเป็นที่น่าพอใจ
พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนายสุชล บุญปล้อง คนขับรถสิบล้อคันดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ทางชุดสายสืบออกพื้นที่ทำการหาข่าวเพิ่มเติมจากผู้ที่ขับรถสิบล้อด้วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับนายสุชลเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบหาตัวนายสุชล
เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือหากในกลุ่มขบวนการดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอาจจะส่งผลถึงเรื่องความปลอดภัยของนายสุชล จึงอยากให้นายสุชลเข้ามอบตัวเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ ทางชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบข้อมูลดูว่าก่อนเกิดเหตุการณ์นายสุชลได้ติดต่อกับใครบ้างจากนั้นจะมาตรวจสอบดูว่าผู้ที่นายสุชลติดต่อมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ด้วยหรือไม่ พร้อมยืนยันมาหากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เราจะจัดการอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจข้าราชการระดับไหนก็ตาม
ด้านพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรมติ เปิดเผยว่าเรื่องการตายของแรงงานต่างด้าวทั้ง 54 คน ทางรตม.กระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้นโยบายมาเป็นพิเศษ
การลงพื้นที่ไปยังจังหวัดระนองในครั้งนี้ เพื่อเติมเต็มกับตำรวจภูธรจังหวัดระนองชุดทำงานได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงส์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ทั้งในเรื่องการดำเนินคดีต่อแรงงานต่างด้าว และผู้ร่วมขบวนการตั้งแต่คนขับรถเจ้าของรถ นายหน้าจัดส่ง นายหน้ารับซื้อ ที่มีการตั้งข้อหาทำการประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและข้อหานำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินคดีกับแรงงานงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มองค์กรต่างๆ กำลังจับตาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องการทำงานบางเรื่องจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน
การสอบสวนพยานแวดล้อมที่เป็นแรงงานชาวพม่า กลุ่มที่ถูกจับควรกระทำอย่างรวดเร็วและเร่งด่วนเนื่องจากแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวใกล้จะพ้นโทษ หากว่าแรงงานกลุ่มดังกล่าวถูกผลักดันออกไปแล้วเจ้าหน้าที่ยังสอบ เพื่อเป็นพยานไม่เสร็จสิ้นอาจจะมีปัญหาภายหลังได้เพราะไม่สามารถไปติดตามดัวได้หลังจากที่กลุ่มแรงงานเดินทางกลับประเทศ
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดจากการหารือกับผบก.ภ.จว. ระนอง ได้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันทราบว่า ในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัดระนอง มีบัญชีรายชื่อเครือข่ายการค้ามนุษย์ใหญ่ประมาณ 10กลุ่ม ดีเอสไอ เองก็มีข้อมูลบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้ค้าแรงงานประมาณ10 กว่ากลุ่มซึ่งบางกลุ่มมีรายชื่อซ้ำกันจึงแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยการทำงานในครั้งนี้ทางดีเอสไอ จะเชิญ ปปง.มาร่วมด้วย
เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ค้าแรงงานในการเรื่องการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและการทำการประมาณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตไม่เพียงพอจึงจะต้องดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ของกลุ่มเครือข่ายทั้งหมด เช่น นายดำรงผุสดี (หรือโก้รัน) เจ้าของรถ บ.รุ่งเรืองทรัพย์เราต้องดำเนินคดีเพื่อยึดทรัพย์ พร้อมทั้งใช้พ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็กที่มีโทษจำคุกถึง 5 ปี โดยพ.ร.บ.ดังกล่าวยังมีความผิดอีก 8 มูลฐาน รวมไปถึงการฟอกเงินด้วย
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ป้องกันจังหวัดระนอง กล่าว่าได้รายความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวให้กับนางกาญจนาภา กี่หมันผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ทราบทุระยะโดยเรื่องที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาสาสตร์ กระทรวงยุติธรรมและคณะเดินทางตรวจที่เกิดเหตุและรถยนต์บรรทุกสิบล้อห้องเย็น ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 70-0619 ระนอง ของกลางในคดี เป็นการตรวจหาดีเอ็นเอและหลักฐานประกอบอื่น ๆเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวผู้ขับรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดกระทำผิด
ทางด้านนายธวัชชัย งามผ่องใส หัวหน้านกลุ่มนโยบายและวิชาการนักพัฒนาสังคม 8ว.รักษาการพัฒนาคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนองพร้อมด้วยมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิคาทอริกสุราษฎร์ธานีที่ดูแลเรื่องแรงงานพม่าเข้าเยี่ยมดูแลความเป็นอยู่ของเด็กพม่าจำนวน 14 คนที่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะอายุไม่ถึง 18 ปี ว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ดูแลควบคุมตัวในระยะรอการผลักดันให้เป็นอย่างดี พร้อมมอบ ขนมน้ำดื่มและเครื่องอุปโภค-บริโภคของใช้ที่จำเป็นให้กับเด็กๆ ด้วย