ระนอง - เจ้าหน้าที่ฝากขัง “โก้ชุ้น” ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดระนอง เจ้าของแพปลาที่รถห้องเย็นรับแรงงานพม่าเถื่อนขึ้นรถก่อนดับ 54 ศพ พร้อมคัดค้านการประกันตัวกลัวข่มขู่พยานจนคดียุ่งเหยิง
เหตุการณ์สลดใจขบวนการค้ามนุษย์ใช้รถห้องเย็นลักลอบขนแรงงานชาวพม่าอัดแน่นเต็มห้องเย็นเดินทางจากแพปลา ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จะไปส่งที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ตระหว่างทางระบบปรับอากาศห้องเย็นเกิดขัดข้องทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต 54 ศพ และอาการหนัก 66 คนหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเจ้าของรถซึ่งให้การปฏิเสธส่วนคนขับรถชื่อนายสุชล บุญปล้อง หลบหนี เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย.นั้น
ความคืบหน้า พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ฝ่ายทางการพม่าได้ได้เห็นถึงความสำคัญจากเหตุการณ์ที่รถห้องเย็นบรรทุกปลาทุกคนพม่าหลบหนีเข้าเมืองจนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 54 คน ทางการพม่าจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง คือ พ.ต.ท.เยเมนหัวหน้าหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ และรองหัวหน้าปราบปรามคดีอาญาจังหวัดเกาะสองพร้อมคณะเดินทางมายังจังหวัดระนอง เพื่อประสานงานข้อมูลเรื่องการดำเนินคดีกับแรงงานพม่าที่รอดชีวิต
พร้อมทั้งประสานแลกข้อมูลระหว่างขบวนการค้าแรงงานชาวไทยกับขบวนการค้าแรงานชาวพม่า เนื่องจากในบางกรณีอาจจะมีขบวนการค้ามนุษย์ ข้ามชาติคนไทยหนีไปกบดานในพม่า และทางการพม่าเองจะจัดการอย่างเด็ดขาดกับขบวนการค้ามนุษย์ในส่วนที่อยู่ในพม่า โดยต่อไปทั้งไทยและพม่าจะมีการประสานข้อมูลเรื่องการค้ามนุษย์ข้ามชาติให้มากขึ้นที่บ้านพักผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง
พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ (15 เม.ย.) ได้ให้เจ้าหน้าตำรวจเจ้าของคดีจากพื้นที่ สภ.สุขสำราญพื้นที่เกิดเหตุนำตัวนายจิราวัฒน์ โสภาพันธุ์วรากุล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า (โก้ชุ้น ) อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/9 หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าของแพปลา “โชคเจริญชัย” ที่รถห้องเย็นบรรทุกปลาสิบล้อมารับแรงงานพม่าขึ้นรถเพื่อไปส่งยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการฝากขังที่ศาลจังหวัดระนอง
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจาก,uข่าวเรื่องการตายของพม่าทั้ง 54 ศพเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสนใจและมีการติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องทั้งจากสื่อมวลชนของไทยและสื่อจากต่างประเทศรวมทั้งผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลภายในจังหวัดระนองและจังหวัดใกล้เคียง
หากได้รับการประกันตัวออกมาอาจจะทำให้คดีมีความยุ่งเหยิงทั้งในเรื่องพยานบุคคลและพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และคดีนี้มีความสัมพันเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หน่วยราชการบางหน่วยที่เข้าไปร่วมกับขบวนการค้าแรงงานเถื่อน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายศาลจับกุม
โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายจิราวัฒน์มาทำการสอบสวน แต่เบื้องต้น นายจิราวัฒน์ ยังให้การปฎิเสธโดยกล่าวอ้างว่าแพดังกล่าวตนเองไม่ได้เป็นผู้บริหารหรือเจ้าของแล้ว แต่ให้คนอื่นเช่าดำเนินกิจการต่อ
นอกจากนี้ จากการสอบประวัติผู้ที่เกี่ยวข้องกับตัวนายจิราวัฒน์ คือภรรยาของนายจิราวัฒน์ มีคดีเรื่องการค้ามนุษย์ข้ามชาติในทำนองเดียวกันคือ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2539 เวลา 14.00 น.ได้นำแรงงานพม่าจำนวน 60 คนใส่รถสิบล้อ “บริษัทโชคเจริญขนส่ง”ปกปิดด้วยการคลุมผ้าใบอย่างมิดชิดออกจากจังหวัดระนอง เพื่อไปส่งยังจังหวัดภูเก็ตแต่ระหว่างทางเกิดเหตุที่บริเวณ หมู่ 1 ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา
แต่แรงงานพม่าที่อยู่ในรถสิบล้อคันดังกล่าวสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นบุหรี่แต่ทิ้งไปไม่พ้นผ้าใบจึงเกิดไฟไหม้คลอกแรงงานชาวพม่าเสียชีวิตไปจำนวน 39 ศพ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประสานข้อมูลเรื่องคดีดังกล่าวไปยังพื้นที่ อ.คุระบุรี เพื่อดูว่าจะมีความเกี่ยวพันธ์กันหรือไม่อย่างไร เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของเดียวกับแพโชคเจริญชัย
พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนที่ เจ้าหน้าที่ จากดีเอสไอมาประสานข้อมูลเพื่อให้ดำเนินคดี ตามพ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็กและการฟอกเงินเพื่อที่จะทำการยึดทรัพย์โดยทางดีเอสไอ จะดึงคณะทำงานจาก ปปง.มาร่วมด้วยนั้น ทางเรายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แต่ต้องนำเรื่องไปเข้าที่ประชุมกับจังหวัดอีกครั้งเนื่องจากจังหวัดมีคณะกรรมการเรื่องการทำงานเรื่องการค้าผู้หญิงและเด็กอยู่อีกชุดที่มีนางกาญจนาภากี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเป็นประธาน
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ทำการประสานข้อมูลจากตำรวจภาค 8และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้วขั้นต่อไป คือ การรอคำตอบจากพื้นที่ว่าจะมีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็ก และการฟอกเงินหากพื้นที่ดำเนินการแล้วจะได้ประสานไปยัง ปปง.ร่วมกันเป็นคณะทำงานเพื่อจะได้ลงไปยังพื้นที่จังหวัดระนองอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ทาง รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งให้ประสานงานกับ ปปง.ไว้ล่วงหน้า โดยในวันที่ 18 เมษายนนี้จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เช่น ปปง., กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, แรงงาน, ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมแนวทางในการดำเนินงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยึดทรัพย์ การปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นต้น จากนั้นจึงจะได้ความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นายไชยันต์ ปฎิยุทธ์ นายอำเภอสุขสำราญ พร้อมด้วย พ.อ.สรรเสริญ คล้ายแก้วรองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจเสือดำ กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป ทำพิธีสวดและทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศุลให้กับแรงงานพม่าที่เสียชีวิตทั้ง 54 ศพที่บริเวณบ้านบางกล้วย หมู่ 3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อความสบายใจของชาวบ้านในพื้นที่และเพื่อให้วิญญาณที่เสียชีวิตทั้ง 54 ศพ ได้ไปสู่สุขคติต่อไป