พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีแรงงานพม่าลักลอบเข้าเมืองเสียชีวิตในรถตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น 54 ศพ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่จับตาขององค์กรสิทธิมนุษยชน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงมอบหมายให้ดีเอสไอร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ซึ่งที่ผ่านมาคดีลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ ตำรวจจะดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และแจ้งข้อหานำพาคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกับคนขับรถ หากมีแรงเสียชีวิตขณะขนส่งก็จะเพิ่มข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งข้อหาดังกล่าวมีบทลงโทษต่ำ ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัว
ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ยังไม่มีผลบังคับใช้ ดีเอสไอ จึงเสนอให้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกัน การค้าหญิงและเด็ก ซึ่งจะมีผลให้สามารถยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการได้ เนื่องจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า ขบวนการค้าแรงงานเถื่อนจะเรียกเก็บค่าหัวคิวจากแรงงานต่างด้าว แบ่งเป็นค่าโดยสารเรือจากเกาะสอง ประเทศพม่า มายัง จังหวัดระนอง ค่าเหยียบแพปลาหัวละ 100-200 บาท ค่าขนส่งทางรถยนต์หัวละ 1,000 บาท โดยเฉลี่ยขบวนการค้าแรงงานเถื่อนจะได้ผลประโยชน์จากการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศเที่ยวละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท คดีค้าแรงงานต่างด้าวจึงต้องจัดเป็นคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องปราบปรามด้วยการยึดอายัดทรัพย์ เพื่อทำให้เครือข่ายผู้กระทำผิดหลาบจำ
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า หากดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้าหญิงและเด็ก แรงงานต่างด้าวที่มีชีวิตรอดกว่า 50 คน จะถูกกันเป็นพยานในคดีอาญา ไม่ใช่เพียงผู้ต้องหาที่ต้องผลักดันกลับประเทศพม่า ทั้งนี้ สำนักงานคุ้มครองพยาน กระทรวงยุติธรรม จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลพยานชาวพม่า เพื่อให้สะดวกในการนำตัวพยานขึ้นเบิกความเอาผิดกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ นอกจากนี้ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งรวบรวมข้อมูลเครือข่ายค้าแรงงานข้ามชาติในจังหวัดระนองไว้ 17 เครือข่าย โดยนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของดีเอสไอ จำนวน 12 เครือข่าย เพื่อขยายผลการสอบสวนร่วมกัน และขณะนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างเร่งเก็บข้อมูลเครือข่ายค้าแรงงานต่างด้าวใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจะขนแรงงานพม่าเข้ามาขายแรงงานใน จ.สมุทรสาครด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ดีเอสไอจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นต้น ประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาขบวนการค้าแรงงานเถื่อน ที่จะดำเนินคดีหนักกว่าเดิม มากกว่าการปรับและส่งกลับประเทศ โดยหากใช้ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการค้าหญิงและเด็กยังมีโทษจำคุก 1-5 ปีด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เจ้าของรถตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นที่ใช้เป็นพาหนะขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทย ประกอบธุรกิจค้ารถยนต์มือสอง จึงเป็นประเด็นต้องขยายผลว่า ซื้อรถห้องเย็นมาเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่ได้ทำธุรกิจแพปลา อีกทั้งรถยนต์ดังกล่าวยังถูกดัดแปลงสภาพ หากดูภายนอกจะเป็นรถขนอาหารทะเล แต่ภายในห้องเย็นได้ถูกแปลงสภาพเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ไม่ใช่เครื่องปรับอุณหภูมิ ดังนั้น จึงต้องเร่งรวบรวมหลักฐานว่า มีการดัดแปลงรถยนต์สำหรับใช้ขนส่งแรงงานต่างด้าว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่หรือไม่
ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ยังไม่มีผลบังคับใช้ ดีเอสไอ จึงเสนอให้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกัน การค้าหญิงและเด็ก ซึ่งจะมีผลให้สามารถยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการได้ เนื่องจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า ขบวนการค้าแรงงานเถื่อนจะเรียกเก็บค่าหัวคิวจากแรงงานต่างด้าว แบ่งเป็นค่าโดยสารเรือจากเกาะสอง ประเทศพม่า มายัง จังหวัดระนอง ค่าเหยียบแพปลาหัวละ 100-200 บาท ค่าขนส่งทางรถยนต์หัวละ 1,000 บาท โดยเฉลี่ยขบวนการค้าแรงงานเถื่อนจะได้ผลประโยชน์จากการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศเที่ยวละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท คดีค้าแรงงานต่างด้าวจึงต้องจัดเป็นคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องปราบปรามด้วยการยึดอายัดทรัพย์ เพื่อทำให้เครือข่ายผู้กระทำผิดหลาบจำ
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า หากดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้าหญิงและเด็ก แรงงานต่างด้าวที่มีชีวิตรอดกว่า 50 คน จะถูกกันเป็นพยานในคดีอาญา ไม่ใช่เพียงผู้ต้องหาที่ต้องผลักดันกลับประเทศพม่า ทั้งนี้ สำนักงานคุ้มครองพยาน กระทรวงยุติธรรม จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลพยานชาวพม่า เพื่อให้สะดวกในการนำตัวพยานขึ้นเบิกความเอาผิดกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ นอกจากนี้ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งรวบรวมข้อมูลเครือข่ายค้าแรงงานข้ามชาติในจังหวัดระนองไว้ 17 เครือข่าย โดยนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของดีเอสไอ จำนวน 12 เครือข่าย เพื่อขยายผลการสอบสวนร่วมกัน และขณะนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างเร่งเก็บข้อมูลเครือข่ายค้าแรงงานต่างด้าวใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจะขนแรงงานพม่าเข้ามาขายแรงงานใน จ.สมุทรสาครด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ดีเอสไอจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นต้น ประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาขบวนการค้าแรงงานเถื่อน ที่จะดำเนินคดีหนักกว่าเดิม มากกว่าการปรับและส่งกลับประเทศ โดยหากใช้ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการค้าหญิงและเด็กยังมีโทษจำคุก 1-5 ปีด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เจ้าของรถตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นที่ใช้เป็นพาหนะขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทย ประกอบธุรกิจค้ารถยนต์มือสอง จึงเป็นประเด็นต้องขยายผลว่า ซื้อรถห้องเย็นมาเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่ได้ทำธุรกิจแพปลา อีกทั้งรถยนต์ดังกล่าวยังถูกดัดแปลงสภาพ หากดูภายนอกจะเป็นรถขนอาหารทะเล แต่ภายในห้องเย็นได้ถูกแปลงสภาพเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ไม่ใช่เครื่องปรับอุณหภูมิ ดังนั้น จึงต้องเร่งรวบรวมหลักฐานว่า มีการดัดแปลงรถยนต์สำหรับใช้ขนส่งแรงงานต่างด้าว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่หรือไม่