พัทลุง - ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเร่งสนองนโยบายรักษาทรัพยากรป่าไม้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทำผิดเองจะมีโทษเป็น 2 เท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง วันนี้ (4 เม.ย.) นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานปล่อยแถวกำลังพล และพลังมวลชน ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าพลเรือน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดเฝ้าระวังการแผ้วถางป่า และผู้นำท้องถิ่น ประมาณ 300 คน จากอำเภอตะโหมด และอำเภอใกล้เคียงซึ่งมีพื้นที่ติดแนวเทือกเขาบรรทัด ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังการตัดไม้ทำลายป่า สนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่เน้นหนักในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และทรัพยากรสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน
นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าไม้ในจังหวัดพัทลุงที่เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีประมาณ 17-18% ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาบรรทัดในเขตอำเภอป่าบอน อำเภอตะโหมด อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอศรีบรรพต ขณะนี้ก็ยังมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แต่ลดลงจากปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ลักลอบตัดไม้ เป็นชาวบ้านธรรมดา เป็นเพียงการบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราเป็นส่วนใหญ่ และลักลอบตัดไม้ครั้งละ 2-3 ต้น เพื่อนำมาสร้างบ้านเรือน เท่านั้น
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ รู้เห็นเป็นใจในการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า หรือได้รับผลประโยชน์จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และได้รับโทษมากกว่าชาวบ้านธรรมดาถึง 2 เท่า เพราะถือว่าไม่สนองนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง วันนี้ (4 เม.ย.) นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานปล่อยแถวกำลังพล และพลังมวลชน ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าพลเรือน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดเฝ้าระวังการแผ้วถางป่า และผู้นำท้องถิ่น ประมาณ 300 คน จากอำเภอตะโหมด และอำเภอใกล้เคียงซึ่งมีพื้นที่ติดแนวเทือกเขาบรรทัด ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังการตัดไม้ทำลายป่า สนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่เน้นหนักในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และทรัพยากรสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน
นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าไม้ในจังหวัดพัทลุงที่เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีประมาณ 17-18% ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาบรรทัดในเขตอำเภอป่าบอน อำเภอตะโหมด อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอศรีบรรพต ขณะนี้ก็ยังมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แต่ลดลงจากปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ลักลอบตัดไม้ เป็นชาวบ้านธรรมดา เป็นเพียงการบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราเป็นส่วนใหญ่ และลักลอบตัดไม้ครั้งละ 2-3 ต้น เพื่อนำมาสร้างบ้านเรือน เท่านั้น
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ รู้เห็นเป็นใจในการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า หรือได้รับผลประโยชน์จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และได้รับโทษมากกว่าชาวบ้านธรรมดาถึง 2 เท่า เพราะถือว่าไม่สนองนโยบายรัฐบาล