ตรัง – แฉมีการวิ่งเต้นสุดขีดเพื่อตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงตัวการใหญ่บงการโค่นป่าเขาบรรทัด หลังศาลจังหวัดตรังออกหมายจับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ที่จ้างชาวบ้านให้ตัดไม้ป่าสงวน ขณะที่ นอภ.นาโยง และเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันจะดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
จากกรณีที่นายสิทธิพร ณ พัทลุง นายอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ได้รายงานผลการลงพื้นที่ตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่อำเภอนาโยง ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่สั่งการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด แล้วได้พบการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ตำบลช่อง บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาบรรทัด แปลง 1 ตอน 2 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า และสามารถจับกุมตัว นายพิชิต จูมิ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พร้อมของกลางเป็นไม้แปรรูปและไม้ท่อน จำนวนกว่า 30 ท่อน
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบพบหลักฐานชัดเจนยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ในระดับหัวหน้าเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงได้สั่งการให้นายอำเภอนาโยงดำเนินการหาหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด พร้อมทำการแต่งตั้งปลัดอำเภอเข้าเป็นพนักงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีด้วย และล่าสุด ศาลจังหวัดตรัง ได้ออกหมายจับเลขที่ จ.293/2551 ลงวันที่ 1 เมษายน 2551 ถึงนายสนิท องศารา อายุ 45 ปี หัวหน้าเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดนั้น
วันนี้ (3 เม.ย.) นายสิทธิพร ณ พัทลุง นายอำเภอนาโยง กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด พร้อมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเชื่อมโยงไปให้ถึงว่า การตัดไม้ทำลายป่าของเจ้าหน้าป่าไม้ในพื้นที่ตำบลช่องในครั้งนี้ นำไปเพื่อการก่อสร้างรีสอร์ท ที่อุทยานนกน้ำทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง ตามพยานบุคคลซึ่งเป็นประชาชน และผู้นำในพื้นที่ยืนยันหรือไม่ เพื่อรายงานให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายอำเภอนาโยง กล่าวยอมรับว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้ง่าย เพราะมีการพยายามลอบบี้พยานบุคคลสุดฤทธิ์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลการกระทำผิดสาวไปให้ถึง แต่ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ตนเอง และพนักงานสอบสวน ต่างก็ยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเอาผิดต่อผู้กระทำผิดในทุกระดับ ทั้งนี้ เพราะว่าเมื่อเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมา ในพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เคยเกิดเหตุโศกนาฏกรรมน้ำป่าไหลหลากลงมาสู่น้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของจังหวัดตรัง
“เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไปจำนวนถึง 38 ศพ และยังมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก สร้างความสะเทือนใจให้เกิดขึ้นไปทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยังได้เสด็จมาเป็นขวัญและกำลังใจ ตลอดจนประทานงบประมาณในการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย ซึ่งเรื่องน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นดังกล่าว สาเหตุส่วนหนึ่งก็เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ ดังนั้น ทางจังหวัดตรังจึงต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเจ้าหน้าที่ และเพื่อปกป้องผืนป่าในจังหวัดตรัง”
พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนทุกคนเกี่ยวกับคดีป่าไม้ไปแล้วว่า ขอให้เชิญปลัดอำเภอ ที่นายอำเภอท้องที่มอบหมาย เข้าร่วมเป็นพนักงานสอบสวนในทุกๆ คดีด้วย และจะต้องรายงานให้นายอำเภอรับทราบข้อมูล ในการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษของแต่ละคดี และหากพบเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะรวบรวมสำนวนและหลักฐานส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาเอาผิดต่อไป สำหรับภาพรวมคดีป่าไม้ของ ภ.จว.ตรัง ได้รับแจ้งความ 55 คดี สอบสวนไปแล้ว 12 คดี และอยู่ระหว่างสอบสวน 43 คดี