ตรัง – ศาลจังหวัดตรังออกหมายจับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จ้างชาวบ้านตัดไม้ในเขตป่าสงวน เจ้าตัวเตรียมเข้ามอบตัวเร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 เม.ย.) นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่าจากกรณีที่ตนได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยได้ให้นายอำเภอแต่ละพื้นที่รายงานผลการปฏิบัติการ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม 2551 ซึ่งปรากฏว่า พบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 310 ล้านบาทนั้น
ในที่ประชุมดังกล่าว นายสิทธิพร ณ พัทลุง นายอำเภอนาโยง ได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองอำเภอนาโยง ได้นำกำลังลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคดีป่าไม้ ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาบรรทัด แปลง 1 ตอน 2 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ซึ่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิด ได้จำนวน 1 คน คือ นายพิชิต จูมิ อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พร้อมของกลางเป็นไม้แปรรูปและไม้ท่อน จำนวนกว่า 30 ท่อน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบและสอบสวนพยาน ของฝ่ายปกครองอำเภอนาโยง นายพิชิต ผู้ต้องหา ได้มีการกล่าวว่า นายสนิท องศารา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 7 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เป็นผู้จ้างวานให้ตนเองทำการตัดไม้และแปรรูปไม้ทั้งหมดในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังพบไม้แปรรูปอีกส่วนหนึ่ง ได้ถูกเก็บไว้ห่างจากบ้านพักของนายสนิท เพียงแค่ 1 กิโลเมตร
ด้วยเหตุนี้ ศาลจังหวัดตรัง จึงได้มีการอนุมัติหมายจับเลขที่ จ.293/2551 ลงวันที่ 1 เมษายน 2551 โดยกล่าวหาว่า นายสนิท ได้ร่วมกับ นายพิชิต ร่วมกันกระทำผิดในข้อหา ร่วมกันทำไม้ หรือกระทำการใดๆ แก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตทำการแปรรูปไม้, มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำด้วยประการใดให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้หวงห้าม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนั้น นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งต้องเดินทางไปเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กรุงเทพฯ ยังได้สั่งการให้ นายสิทธิพร ณ พัทลุง นายอำเภอนาโยง เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างชัดเจนที่สุด พร้อมทั้งขอให้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับหัวหน้าส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง จากนั้น นายอำเภอนาโยง ได้มีการประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.นาโยง เพื่อกำชับในการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา แต่หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็คงต้องว่ากันไปตามขั้นตอน
ร.ต.ท.รัตพล วรรณะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.นาโยง เจ้าเของคดี กล่าวว่า หลังจากมีการออกหมายจับจากศาลจังหวัดตรัง แล้วนั้น ตนได้ประสานไปยังหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด และล่าสดุ นายสนิท ก็ได้รับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว พร้อมติดต่อกลับมาว่า จะเดินทางเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ในช่วงบ่ายของวันที่ 2 เมษายน 2551
