สตูล - เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าตรวจสอบพื้นที่ผืนป่าต้นน้ำ 3 แห่ง พบป่าถูกโค่นกว่า 21 ไร่ เพื่อปลูกต้นยางพารา แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด
ร.ต.อ.นิวัต ทัศนเกษม รองผบ.ร้อยตชด.436 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สต.2 (ทุ่งหว้า) เจ้าหน้าที่หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ (นปม.) ประจำจังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ขณะตรวจถึงบริเวณบ้านทุ่งไหม้ หมู่ที่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถางมีร่องรอยการตัดฟันต้นไม้โดยใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ คาดว่าคงถูกแผ้วถางมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ไม้ที่ถูกตัดฟันส่วนใหญ่เป็นไม้ขนาดเล็ก มีไม้ใหญ่ปะปนอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถใช้ทำเป็นสินค้าได้เนื่องจากมีลักษณะคดงอ แตกฉีก กลวงโพรง ลักษณะการบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกต้นยางพารา
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างตรวจสอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ หรือบริเวณใกล้เคียง ที่พอจะสอบถามได้ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับผลการตรวจสอบ ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวติดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตระ ป่าห้วยหลอด และป่าเขาขุมทรัพย์ หมู่ที่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู ลักษณะพื้นที่เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ตรวจสอบพบว่าถูกบุกรุกแผ้วถางได้ 21 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา
การกระทำผิดดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐาน ก่นสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และพระราชบัญญัติ ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ คิดเป็นเงินค่าเสียหายทางด้านป่าไม้ ประมาณ 3,280,500 บาท